ใครที่เข้ามาแล้วช่วยเสียสละเวลาอ่านให้จบหน่อยครับถ้าออกความคิดเห็นจะเป็นพระคุณมาก ความน่าสังเวศของวงการอนิเมชั่นไทย เห็นแล้วอดที่จะสมเพศ เวทนา อนิเมชั่นไทย ไม่ได้ เห็นบอกว่าจะ โกอินเตอร์ จะเข้าสู่ระดับโลกอย่างงั้นอย่างงี้ ด้วยอนิเมชั่นอย่างงี้เนี่ยน่ะครับ แนวคิด เนื้อเรื่องเบบนี้เนี่ยน่ะ
เพราะเนี่ยและ อนิเมชั่นไทย การ์ตูนไทยเลยไม่ไปไหนซะที จมปลักอยู่กับ วรรณคดีไทย
นิทาน อนุรักสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ ปราบปรามยาเสพติดอะไรทำนองนี้อยู่เสมอ แล้วเนื้อหา
มันก็วนอยู่กับอีแค่ตรงนี้จริงๆน่ะ ยิ่งกว่านั้น โฆษนาบ่อยมากๆๆ มากจริงๆ
ยกตัวอย่าง
ขวานฟ้าหน้าดำ OK ครับผมจะถือเป็นกาตูนสำหรับเด็กที่ไม่ต้องดูเอาเนื้อหาสาระอะไรมากมาย แต่นี่โฆษนา มันทุกๆ 5 นาที ตอนแรกฉากเปิดตัวจบ มันก็โฆษนาพอกลับมาจากโฆษนามันก็ฉายอีกประมาณ 5 นาที แล้วมันก็วนอีหรอบเดิมจน จบ แล้วเป็นอย่างงี้มันทุกเรื่อง
มันจะโฆษนาของหรือมันจะฉายอนิเมชั่นกันแน่ ? สรุปแล้วดูตอนนึงดูแค่ตัวละครวิ่งไล่
จับกัน หัวเราะ เล่นกันแล้วก็จบ เห็นมันอย่างงี้มันแทบทุกตอน
หนุมานชาญสมร
ตัวอย่างที่เหมือนๆกัน วันๆไม่ทำอะไร หนุมานวิ่งไล่อยู่กับพวกลิง เล่นตะโกนโวยวาย
โฆษนาสลับกันไปมาทุกๆ 5 นาทีแล้วก็จบ
เนี่ยเหรอครับ ? ถ้าจะไห้มองอีกมุม ไช่มันถือเป็นก้าวแรก อาจจะไม่ดีนัก
แต่ไนความเห็นผมเห็นว่า ไทย ก้าวข้ามขั้น ไปก้าวนึง
ในขณะที่ญี่ปุ่นไนตอนนี้ก็ยังทำกาตูน 2D เป็นหลัก และมี 3D มั้งสลับกันไป
ไทยยังทำการ์ตูน 2D ยังไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำไป แล้ว 3D จะไปรอดได้ไง
ถ้าไม่สามารถชนะใจคนประเทศเดียวกันได้แล้วจะไปชนะใจคนทั้งโลกได้ไง ?
ผมแยกกาตูนเป็นส่วนประกอบดังนี้ และขอเปรียบเทียบกันกับสิ่งที่ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เพิ่งเริ่มก้าวเดิน
-------------------------------------------------------------------------------------
1. เพลง เปิดปิด ของอนิเมชั่นไทย .............. ไช่ล่ะ มันจะไปมีอะไรนอกจากเพลงลิเก
ดนตรีไทย เพลงน่ารัก เพลงที่เหมือนเพลงแหล่ มันก็มีแต่อย่างเงี้ย เอกลักษไทย
ที่ญี่ปุ่น เพลงการ์ตูนไม่ได้สักแต่ว่า เผาขึ้นมา มันมีความสำคัญมากขึ้นจนกลายเป็นดนตรีแขนงใหม่ไปแล้ว ด้วยความที่เป็นเพลงเนื้อหาเฉพาะ สื่อถึงอารมณ์การ์ตูนเรื่องนั้นออกมาได้อย่างเต็มที่ แบบที่กำลังฟังแล้วเปรียบเสมือนนั่งดูการ์ตูนเรื่องนั้นอยู่ก็ไม่แปลก แล้วเพลง
การ์ตูนของญี่ปุ่นนั้นมันสามารถสื่อความรู้สึก ช่วงเวลาของการ์ตูนออกมาได้ ถึงแก่น
2. ตัวละคร
เมื่อเร็วๆนี้ มีอนิเมชั่นใหม่ของคนไทยออกมามีชื่อว่า ภูผากับหน้าใม้ หลังจากอ่านเนื้อเรื่องดูแล้ว ก็สำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อย แต่พอดูตัวละครแล้ว...... - _ - ตายแล้ว ผีตัวไหนปั้นมันมาเกิดฟ่ะเนี่ย เกะกะลูกตาอย่างแรง นอกจากไม่มีแรงดึงดูดกับจุดเด่นแล้ว ดูอาวุธมัน
หน้าไม้หัวนก พระเอกชื่อภูผา นางเอกชื่อว่านน้ำ - - โธ่เอ็ย ชื่อในนรกมีตั้งเยอะมันไปขุดเอาอะไรมาตั้งเนี่ย ยิ่งนางเอก บอกว่าเป็นคนเมืองหลวง ดันชื่อ ว่านน้ำ= ='' ตัวละคร
พวกนี้จะสามารถสร้างความประทับใจให้ใครได้บ้าง ใครจะไปชอบมันลง
ที่ญี่ปุ่นตัวละครก็เป็นสิ่งสำคัญ มาก เกือบจะเป็นตัวตัดสินกันเลยทีเดียว ว่ากาตูนเรื่องนั้นจะไปรอดหรือไม่รอด มีการแข่งขันกันมากถึงขนาดมี การ์ตูนเรื่องนั้นๆ ขึ้นมาเพื่อขายตัวละครตัวนั้นโดยเฉพาะ หัวข้อต่อไป ยกตัวอย่างตัวละคร เอ็ดเวิร์ด เอลริค, คิระ ยามาโตะ, ฮิคาริ ชินจิ จะเห็นได้ว่า ตัวละครที่ยกขึ้นมานั้น มีอดีต ปมด้อย ความขมขื่น ปัญหาชีวิต
ความเครียด ความผิด หวัง ความไม่ลงตัวของชีวิตตัวเอง ปัญหาต่างๆที่ต้องฟันฝ่าไป
แต่ล่ะคนมีสไตล์เฉพาะตัว นิสัยใจคอ ต่างกัน ทำไห้ความน่าติดตาม ดึงดูดใจ ของตัวละครเกิดขึ้น
3.งานภาพ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ามันเป็นก้าวแรกแถมยังเป็นการก้าวข้ามขั้น ซะด้วย ฉะนั้นจึงไม่ต้องหวังอะไรกับมันมาก นอกจากตัวละครที่ดูทื่อๆ ไร้แรงดึงดูดแล้ว ฉากก็ดูแข๊งๆไร้ชีวิตชีวา เหมือนท่อนไม้ทาสีดีๆนี่เอง (กาตูน 2 D ไปทำภาพไห้เฟรมมันต่อเนื่องก่อนเถอะ)
ส่วนทางของญี่ปุ่น ไม่ต้องพูดถึงเพราะรู้กันดีไม่ว่าจะเป็น 2D หรือ 3D มันก็นำอยู่หลายขุม
4. เนื้อเรื่อง
ดูๆไปแล้ว มันก็ไม่ได้หนีไปจาก วรรณคดีไทยเลย จะมีอีกรูปแบบคือ ลูกอีช่าง อนุรักป่าไม้
ปราบปรามยาเสพติด อย่างกับว่า วรรณคดีไทยมันสนุกหนักหนายังงั้นน่ะทำไม ถึงได้ขุดขึ้นมาทำจังเลย แล้วมันก็มีแต่แค่เนี่ย สมองเนี่ยคิดอย่างอื่นไม่เป็นเลยเหรอ
ส่วนทางญี่ปุ่น
หลายคนที่ติดตามดูการ์ตูนญี่ปุ่นจนมาทั้งทุกวันนี้ มีหลายๆครั้งที่เรามักอุทานไนใจว่า
มันคิดได้ไงวะ ? สังเกตได้ว่าเนื้อเรื่องของเขาจะ พิลึกพิศดารมากๆ เละเนื้อเรื่องยังล้ำลึก
เหนือจิตนาการเข้าไปทุกขณะด้วย ถ้าไม่เหนือจิตนาการก็ จะปัญญาอ่อนแบบหลุดโลกไปเลย แต่ไช่ว่าจะไร้สาระซะทีเดียว ยกตัวอย่าง D.C DACAPO ถึงแม้จะหลุดโลกแบบสุดๆ กระดิ่งแมวผูกคอ เมจหูแมว หม้อไฟบนด่านฟ้า เดินหลับตีระนาดไปโรงเรียน หู่นยนต์ตัวแทนแถมต้องไขลานอีก ?
แมวที่มีแต่หัวกับตัว หู่นยนต์ชอบกินกล้วย แต่ถึงกระนั้นลึกๆแล้วเนื้อเรื่องมีดีกว่านั้นหลายเท่า
มุมมอง ในส่วนอื่นๆ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ในขณะที่ไนสายตาผู้ใหญ่มองว่ากาตูน อนิเมชั่น มองว่าเป็นเทคโนโลยี ธุรกิจ
จึงสนับสนุนการทำอนิเมชั่น 3 D กันอย่างเมามันมี 2 D ก็จริงเลยถึงมีก็น้อยมากๆ
จนถึงตอนนี้วงการการ์ตูนไทยได้ก้าวหน้าไปมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเห็นได้ว่ามีงานการ์ตูนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีงานที่เหมือนกับ COMIC PARTY เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกไนไทยเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ซึ่งฝีมือคนไทยในตอนนี้นั้น ห่างจากญี่ปุ่นไม่มากแล้ว นักวาดหลายๆคน
มีศักยภาพ พร้อม คนมีพรสวรรมากมายมาอยู่รวมกัน ความฝันมากมายที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวหวังว่าซักวันนึง
คงมีช่องกาตูนไทย ที่มี คุณภาพ เทียบเท่ากับการ์ตูนญี่ปุ่น เหมือนช่อง ATX
Comic ฝีมือคนไทยที่เป็นที่ยอมรับ
กาตูนไทยที่โกอินเตอร์ อย่างน่าภาคภูมิใจ
พวกเขาเหล่านี้รอที่จะนำเสนอผลงานของพวกเขาไห้คนอื่นได้ประจักร
จิตนาการความคิดแปลกใหม่ที่ฉีกรูปแบบเดิมที่มีอยู่ในกาตูนไทย
ความก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนกำลังก่อตัวอย่างช้าๆ
ถ้าพวกผู้ใหญ่สละเวลาหันมามอง ซักนิด ยอมรับอะไร ซักหน่อย หันมารับฟังความคิดเห็นไห้มากกว่านี้ สิ่งที่เขียนไว้ข้างบน อาจจะเป็นจริงก็ได้ในอนาคต
คนเหล่านี้รอการ ผลักดันอยู่ และมีคนอีกเป็นจำนวนมาก ที่กำลังจะก้าวเข้ามาทำสิ่งนั้นให้เป็นจริง
อย่าลืมว่า comic party ที่ญี่ปุ่น ครั้งแรกมีคนเข้าร่วมงานประมาณ 100 คน
แต่ในปัจจุบันมีประมาณ 600000 คน เต็มโตเกียวบิ้กไซซ์
ในงาน comic market ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค ที่ผ่านมาที่ตึกอาคารฐานเศษฐกิจ
ณ. ห้องฆ้องทอง คนแน่นทะลักทะลาย แทบจะชนกันตายแสดงไห้เห็นว่ามีคนสนใจมากขนาดไหน
แต่สิ่งที่ผมได้เห็นคือ ความสนุกสนานของงานครับ สิ่งที่แต่ล่ะคนวาดออกมานั้นเต็มไปด้วยความฝัน ความรักในการวาด จิตนาการ (ลามก) แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดเจนและพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกๆในชีวิต นั้นคือ โอตาคุครับ (เริ่มนอกเรื่องแล้วแต่มันก็อดไม่ได้) ถึงแม้จะไม่เหมือนในกาตูน คือแต่ล่ะคนเนี่ย แบบ... แค่ดูก็รู้น่ะครับ การแต่งตัว ทรงผม มันฟ้องครับ
แต่ยังดีที่คนอาการหนักๆยังไม่ค่อยมีไห้เห็นซักเท่าไร
ถึงเวลารึยังที่จะเปลี่ยนแปลง ?
เอาล่ะครับเขียนมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเขียนอะไรไปกระทบทั่งใครเข้าก็ขออภัยไว้ตรงนี้ครับ
นี่เป็นสิ่งที่ผมอัดอั้นไว้นานแล้ว ซึ่งที่เขียนไปทั้งหมด ยอมรับว่ามันก็เกิดจากค่านิยมส่วนตัว
ของผมครับ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีคนไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
แต่ที่ผมเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นการเปรียบเทียบ อยากไห้เกิดการพัฒนา ในทางสร้างสรรค์
ขอขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่าน
จากใจโอตาคุคนหนึ่ง
/COSPLAY
http://www.bleach4th.com/board/viewtopic.php?t=9966&postdays=0&postorder=asc&start=0น่าคิด...