Summoner Master Forum
April 24, 2024, 08:53:34 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: 1 2 [All]
  Print  
Author Topic: นักวิชาการชี้ข้อสอบ GAT-PATยากเกินไป  (Read 21601 times)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« on: August 18, 2009, 02:21:42 PM »

นักวิชาการชี้ข้อสอบ GAT-PATยากเกินไป

นักวิชาการจี้ยกเลิกระบบคิดคะแนนติดลบ ชี้ข้อสอบยากเกินไป ผอ.สทศ.รับลูก เตรียมวิเคราะห์หาคำตอบสัปดาห์หน้า หลังผลสอบ"GAT-PAT"ครั้งสอง เด็กทำคะแนนเฉลี่ยต่ำ






เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะกำกับดูแลสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงกรณีผลการจัดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) ครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคม เพื่อใช้ประกอบการสมัครรับคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือระบบแอดมิสชั่นส์ ปีการศึกษา 2553 โดยพบว่าคะแนนเฉลี่ยทุกวิชายังไม่ถึง 50% เช่นเดิม โดยเฉพาะคะแนน PAT ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ลดลงจากการสอบครั้งแรก ทั้งที่ได้คาดการณ์กันว่าคะแนนสอบน่าจะสูงขึ้น ว่า ตนได้พูดคุยหารือกับนางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการ สทศ.และได้มอบหมายให้ไปวิเคราะห์หาสาเหตุแล้วว่าทำไมผลการทดสอบครั้งที่สอง คะแนนจึงไม่สูงขึ้นจากครั้งแรก และบางวิชา คะแนนลดลงด้วยซ้ำ ทั้งที่นักเรียนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและคาดการณ์กันว่าน่าจะตั้งใจทำคะแนนมากกว่าครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะยังไม่ฟันธงว่าข้อสอบยากหรือไม่ได้มาตรฐาน แต่จะให้เวลา สทศ.ไปวิเคราะห์ซึ่งคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก

ด้านนางอุทุมพรกล่าวว่า คะแนนเฉลี่ย PAT ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่ลดลงจากการสอบครั้งแรก 2-3 คะแนนนั้น อาจเป็นผลจากความคลาดเคลื่อนของเครื่องมือวัดซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ สัปดาห์หน้าจะวิเคราะห์ช่วงคะแนน 80-100 คะแนนว่าจะมีนักเรียนทำคะแนนในช่วงดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นจากการสอบครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะวิเคราะห์ได้ดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าจำนวนนักเรียนที่ทำคะแนนในช่วง 80-100 คะแนน น่าจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นกว่าการสอบครั้งแรก ซึ่งจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่านักเรียนได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับข้อสอบลักษณะนี้มากขึ้น แต่คงไม่ใช่ด้วยเหตุผลของความยากง่ายของข้อสอบ เพราะเรื่องนี้ สทศ.ยังคงรักษาระดับความยากง่ายไว้ในการสอบทุกครั้ง

นางอุทุมพรกล่าวว่า ทั้งนี้ หลังวิเคราะห์ช่วงคะแนนสอบของทุกวิชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว สทศ.จะนำเสนอต่อ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.), รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ในฐานะกำกับดูแล สทศ. รวมถึงนำเสนอผู้ออกข้อสอบ เพื่อจะได้พิจารณาวิเคราะห์กันต่อไป เพราะตอนนี้นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ออกมาติงว่าข้อสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ ยากเกินไป แม้นำไปให้อาจารย์ในสถาบันภาษา จุฬาฯ ทดสอบ ก็ยังเห็นว่ายากเกินไปสำหรับเด็ก ซึ่งยืนยันว่าข้อสอบ GAT และ PAT ไม่ยาก เพราะถ้ายาก แปลว่าต้องออกนอกเหนือจากหลักสูตรการเรียนการสอน แต่เรายืนยันข้อสอบดังกล่าว ออกตามเนื้อหาหลักสูตรฯ เพียงแต่อาจซับซ้อนเพราะเราต้องการให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น อย่างไรก็ตาม เมื่อนักวิชาการติงว่ายากเกินไป จะลองวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบให้สังคมและยินดีปรับปรุงถ้าผลออกมาว่ายากจริง

"ตั้งแต่การจัดสอบ GAT และ PAT ครั้งที่ 1 เดือนมีนาคม ของปี 2553 เป็นต้นไป สทศ.จะเริ่มปรับปรุงข้อสอบโดยจะเพิ่มข้อสอบลักษณะให้อ่านเรื่อง สรุปผล และเติมตัวเลขเข้ามา จากเดิมที่มีเพียง Multiple-choice หรือมีคำตอบหลายคำตอบให้เลือก ทั้งนี้การเพิ่มข้อสอบดังกล่าวเข้ามา ก็เพื่อกำจัดจุดอ่อนของข้อสอบ Multiple-choice ที่พบว่าเด็กสามารถคาดเดาได้ถูก 25% แต่การเพิ่มข้อสอบในลักษณะอ่านสรุปเรื่อง จะทำให้เด็กเดายากมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลสอบสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น" นางอุทุมพรกล่าว

ด้านนายสมพงษ์กล่าวว่า พูดคุยกับเพื่อนอาจารย์สถาบันภาษา จุฬาฯ ที่ได้นำข้อสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ ไปลองทำดู พบว่ามีความยากมาก และจากการพูดคุยกับเด็กที่เข้าสอบ บอกว่าต้องนั่งอ่านข้อสอบถึงครึ่งชั่วโมงจึงจะเข้าใจและเริ่มทำข้อสอบได้ นอกจากนี้ผลคะแนนสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ มีเด็กทำคะแนนได้ศูนย์คะแนนถึง 8,000 กว่าคน ดังนั้นย่อมสะท้อนถึงอะไรบางอย่างที่ สทศ.ควรต้องกลับมาวิเคราะห์ตัวเองว่าเด็กเรียนภาษาอังกฤษมา 12 ปีแต่ทำข้อสอบไม่ได้เลยนั้น เครื่องมือวัดมีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะแนววิธีการวัดผลในวิชา GAT 2 ภาษาอังกฤษที่ตอบผิดแล้วติดลบนั้น ควรยกเลิกได้แล้ว เพราะทำให้เด็กไม่กล้าตอบ ซึ่งการทำข้อสอบ ก็ต้องมีการเสี่ยงเดากันบ้าง เป็นธรรมดา


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1250415822&grpid=01&catid=no
Logged


Doraemon
Member
*****
Offline Offline

Posts: 6342



Email
« Reply #1 on: August 18, 2009, 04:18:27 PM »

ไม่เข้าใจว่าทำไมกระทรวงต้องกังวลเรื่องข้อสอบยาก ถ้าง่ายเกืนถึงน่าเป็นห่วง เพราะประเมินศักยภาพไม่ได้ แต่ในกรณ๊ที่ยากก็ยังคงมีคนที่ทำได้ มากน้อยคละกันไป

อีกทั้งการสอบ GAT PAT จุดมุ่งหมายก็คือเป็นการใช้คะแนนเพื่อแข่งขัน แย่งชิงที่ว่างในการเรียนมหาวิทยาลัยรัฐ ยากก็ยากทุกคน และก็ยังคงสะท้อนภาพรวมอยู่ดี

เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือต้องถามว่าระบบการศึกษาของเราให้ความรู้กับเด็กเพียงพอหรือไมต่างหาก
Logged


Kaizer
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 226


Email
« Reply #2 on: August 18, 2009, 05:03:04 PM »

มันน่าห่วงตรงที่ว่า ถ้ายากเกินไปจนต้องเดาล่ะครับ ถ้าเป็นข้อสอบแบบที่ออกมาแล้วไม่มีคนทำได้

แล้วคะแนนที่ออกมา เกิดจากการเดา มันจะกลายเป็นว่า สอบเพื่อวัดว่าใครดวงดีกว่าเท่านั้นเอง

เหมือนกับที่ข้อสอบที่ออกมาทุกครั้ง ขนาดให้อาจารย์ที่สอน มาทำข้อสอบเอง ยังไม่ได้เต็มเลย

ยกเว้นสายวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นสายสังคม-ภาษา การตีความที่ต่างกัน ก็ทำให้คนที่ทำข้อสอบคิดไม่เหมือนคนออกได้
Logged


stormtrooper
Member
*****
Offline Offline

Posts: 942


« Reply #3 on: August 18, 2009, 06:32:10 PM »

ห้องสอบคุ้นๆแฮะ
Logged


Leraje
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 826


« Reply #4 on: August 18, 2009, 08:16:02 PM »

อีก 4 ปีข้อสอบมันจะง่ายขึ้นมั้ยน้อ...
Logged


~NICO ROBIN~
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1641


« Reply #5 on: August 18, 2009, 10:15:56 PM »

นั่นเอง จุฬา ออกมาโวยนำแล้วครับ...

ผมว่าอังกฤษยากเกินไปครับ

อันอื่นโอเค

อังกฤษบอกตามตรงเลยว่า ขนาดอาจารย์ผมยังทำไม่ได้เล
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #6 on: August 18, 2009, 10:27:23 PM »

เขาอาจหมายถึงพื้นฐานเด็กม.ปลายในลอนดอน ก็ได้นะ
Logged


aon
Member
*****
Offline Offline

Posts: 34


Email
« Reply #7 on: August 18, 2009, 10:30:21 PM »

อังกฤษ ผิดไม่ติดลบนี่
Logged


Arisato
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 369


« Reply #8 on: August 18, 2009, 10:57:19 PM »

เขาอาจหมายถึงพื้นฐานเด็กม.ปลายในลอนดอน ก็ได้นะ

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง พื้นฐานของเขากับเรามันต่างกันไม่ใช่หรอครับ = =
Logged


XA14
Member
*****
Offline Offline

Posts: 552


« Reply #9 on: August 18, 2009, 11:53:56 PM »

เฉย ๆ - -"

อังกฤษ ผมว่าไม่ยากเกินไปหรอกครับ กำลังดีเลย

โรงเรียนผม ไม่ใช่โรงเรียนดังหรือเก่งมาก ๆ แต่ก็มีคนได้คะแนน Eng มากสุด 120

ง่ายกว่านี้ เดี๋ยวเต็มกันเยอะ เดี๋ยวไม่เห็นข้อแตกต่าง - -"
Logged


Wonderer & Summoner
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1000


Email
« Reply #10 on: August 19, 2009, 01:25:46 AM »

อังกฤษไม่ยากหรอกครับ ผมเรียนEp มา 6ปี ได้แึค่ 82

เพื่อนที่เรียนEp ด้วยกันมากสุด 120 กว่าๆ ถามคนที่เรียนโีรงเรียนEp อื่นแล้วไม่ต่างกันเท่าไร

ขนาดพวกผมใช้ภาษาอังกฤษกันตั้งแต่ ม.1 + เรียนติวเพิ่มด้วยนะ ยังได้แค่นี้เขาไม่คิดถึงคนที่ไม่ได้เรียนแบบพวกผมรึไงเนี่ย ว่าจะทำได้รึเปล่า

อาจารย์ผมเขายังบอกเลยว่า ให้I คุณคนที่คิดระบบนี้มาลองทำเองดูสิ ให้เวลาไปเรียนอีก 6 ปี ด้วยถ้าทำได้ไม่เกินครึ่งนะ เขาจะ...... (หมายถึงทุกวิชานะ)
« Last Edit: August 19, 2009, 01:27:49 AM by Wonderer & Summoner » Logged


ZusS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1245


« Reply #11 on: August 19, 2009, 01:31:38 AM »

ภาษาอังกิดที่ๆคุณท่านๆออกมา ศัพท์จากไหนก็ไม่รุเตมไปหมด ในSuper Goal แทบไม่ยักเหนจะมี แต่ก็ยังจะให้เรียนอยู่นั้นแหละหนังสือเล่มนี้ให้เดกเรียนตลอด 6 ปี แล้วสุดท้ายก็ออกอะรัยมาก้อไม่รุ 

วิชาอื่นก็พอ โอเคครับ ไม่ได้ยากไปหรอก (มั้ง)
สู้ตายย
Logged


Wonderer & Summoner
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1000


Email
« Reply #12 on: August 19, 2009, 01:33:35 AM »

อยากบอกจวงว่ามันบอกพวกIdiom หรือสำนวน เยอะโคตรๆ คนที่ไม่เคยเจอนี่แทบล้มทั้งยืนอะ

บางอันพี่ยังจำไม่ได้เลย 
Logged


LoveL355
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 451


« Reply #13 on: August 19, 2009, 02:13:06 AM »

เฉยๆอ่ะครับไม่เห็นยากเลยทำมาแล้วได้เกือบเต็มหมด
Logged


Doraemon
Member
*****
Offline Offline

Posts: 6342



Email
« Reply #14 on: August 19, 2009, 02:33:51 AM »

ใครรู้บ้างว่ามันเต็มเท่าไหร่?
Logged


คาร์ลิโต้ หัวฟูที่สอง
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3569


Email
« Reply #15 on: August 19, 2009, 03:04:34 AM »

น่าจะออกข้อสอบให้ยากแต่ก้อยังพอมีคนทำได้ ไม่ใช่ว่าจะให้เดาอย่างเดียว

ออกง่ายไปจะวัดผลได้อย่างไร เพราะเกือบทุกคนทำได้หมดเนี่ย

ส่วน GPA ก็ไม่ต้องเก็บแล้ว สอบล้วนๆเลย จะได้ัวัดกันไปเลยว่าใครเก่ง

 

ห้องสอบคุ้นๆแฮะ

ห้องสอบนี้คุ้นมาก น่าจะเปน ม เกษตร นะ
« Last Edit: August 19, 2009, 03:22:16 AM by คาร์ลิโต้ หัวฟูที่สอง » Logged


KOMODO-HUNTER
Member
*****
Offline Offline

Posts: 197


« Reply #16 on: August 19, 2009, 03:16:06 AM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน

Logged


Joseph, the Deacon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2433


Email
« Reply #17 on: August 19, 2009, 04:17:43 AM »

สทศ.จะนำเสนอต่อ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.)

แม้ อธิการบดีจุฬา จะนั่งที่นั่งประธาน
แต่จุฬา เอง ก็ ออกข้อสอบ เพื่อรับตรง หลากหลายสาขาวิชา
Logged


เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1432


Email
« Reply #18 on: August 19, 2009, 05:39:14 AM »

อ๊ะ

ศร.3
Logged


stormtrooper
Member
*****
Offline Offline

Posts: 942


« Reply #19 on: August 19, 2009, 05:47:43 AM »

อ๊ะ

ศร.3
เข้าใจกันอยู่สามคน
อาทิตย์นี้มาแข่งด้วยนะครับ
Logged


เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1432


Email
« Reply #20 on: August 19, 2009, 05:52:21 AM »

อ๊ะ

ศร.3
เข้าใจกันอยู่สามคน
อาทิตย์นี้มาแข่งด้วยนะครับ

ไม่น่าจะไหวนะครับ

22 ก็แข่งสแตนด์ เหนื่อยโฮก - -*
Logged


Ijiraku naruto
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 410


« Reply #21 on: August 19, 2009, 04:22:34 PM »

นักวิชาการชี้ข้อสอบ GAT-PATยากเกินไป

นักวิชาการจี้ยกเลิกระบบคิดคะแนนติดลบ ชี้ข้อสอบยากเกินไป ผอ.สทศ.รับลูก เตรียมวิเคราะห์หาคำตอบสัปดาห์หน้า หลังผลสอบ"GAT-PAT"ครั้งสอง เด็กทำคะแนนเฉลี่ยต่ำ






เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะกำกับดูแลสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยถึงกรณีผลการจัดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) ครั้งที่ 2 เดือนกรกฎาคม เพื่อใช้ประกอบการสมัครรับคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษาหรือระบบแอดมิสชั่นส์ ปีการศึกษา 2553 โดยพบว่าคะแนนเฉลี่ยทุกวิชายังไม่ถึง 50% เช่นเดิม โดยเฉพาะคะแนน PAT ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ลดลงจากการสอบครั้งแรก ทั้งที่ได้คาดการณ์กันว่าคะแนนสอบน่าจะสูงขึ้น ว่า ตนได้พูดคุยหารือกับนางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการ สทศ.และได้มอบหมายให้ไปวิเคราะห์หาสาเหตุแล้วว่าทำไมผลการทดสอบครั้งที่สอง คะแนนจึงไม่สูงขึ้นจากครั้งแรก และบางวิชา คะแนนลดลงด้วยซ้ำ ทั้งที่นักเรียนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและคาดการณ์กันว่าน่าจะตั้งใจทำคะแนนมากกว่าครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวจะยังไม่ฟันธงว่าข้อสอบยากหรือไม่ได้มาตรฐาน แต่จะให้เวลา สทศ.ไปวิเคราะห์ซึ่งคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานนัก

ด้านนางอุทุมพรกล่าวว่า คะแนนเฉลี่ย PAT ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ที่ลดลงจากการสอบครั้งแรก 2-3 คะแนนนั้น อาจเป็นผลจากความคลาดเคลื่อนของเครื่องมือวัดซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ สัปดาห์หน้าจะวิเคราะห์ช่วงคะแนน 80-100 คะแนนว่าจะมีนักเรียนทำคะแนนในช่วงดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นจากการสอบครั้งแรกหรือไม่ ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะวิเคราะห์ได้ดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าจำนวนนักเรียนที่ทำคะแนนในช่วง 80-100 คะแนน น่าจะเพิ่มจำนวนสูงขึ้นกว่าการสอบครั้งแรก ซึ่งจะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่านักเรียนได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับข้อสอบลักษณะนี้มากขึ้น แต่คงไม่ใช่ด้วยเหตุผลของความยากง่ายของข้อสอบ เพราะเรื่องนี้ สทศ.ยังคงรักษาระดับความยากง่ายไว้ในการสอบทุกครั้ง

นางอุทุมพรกล่าวว่า ทั้งนี้ หลังวิเคราะห์ช่วงคะแนนสอบของทุกวิชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว สทศ.จะนำเสนอต่อ นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.), รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ในฐานะกำกับดูแล สทศ. รวมถึงนำเสนอผู้ออกข้อสอบ เพื่อจะได้พิจารณาวิเคราะห์กันต่อไป เพราะตอนนี้นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ออกมาติงว่าข้อสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ ยากเกินไป แม้นำไปให้อาจารย์ในสถาบันภาษา จุฬาฯ ทดสอบ ก็ยังเห็นว่ายากเกินไปสำหรับเด็ก ซึ่งยืนยันว่าข้อสอบ GAT และ PAT ไม่ยาก เพราะถ้ายาก แปลว่าต้องออกนอกเหนือจากหลักสูตรการเรียนการสอน แต่เรายืนยันข้อสอบดังกล่าว ออกตามเนื้อหาหลักสูตรฯ เพียงแต่อาจซับซ้อนเพราะเราต้องการให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น อย่างไรก็ตาม เมื่อนักวิชาการติงว่ายากเกินไป จะลองวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบให้สังคมและยินดีปรับปรุงถ้าผลออกมาว่ายากจริง

"ตั้งแต่การจัดสอบ GAT และ PAT ครั้งที่ 1 เดือนมีนาคม ของปี 2553 เป็นต้นไป สทศ.จะเริ่มปรับปรุงข้อสอบโดยจะเพิ่มข้อสอบลักษณะให้อ่านเรื่อง สรุปผล และเติมตัวเลขเข้ามา จากเดิมที่มีเพียง Multiple-choice หรือมีคำตอบหลายคำตอบให้เลือก ทั้งนี้การเพิ่มข้อสอบดังกล่าวเข้ามา ก็เพื่อกำจัดจุดอ่อนของข้อสอบ Multiple-choice ที่พบว่าเด็กสามารถคาดเดาได้ถูก 25% แต่การเพิ่มข้อสอบในลักษณะอ่านสรุปเรื่อง จะทำให้เด็กเดายากมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลสอบสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น" นางอุทุมพรกล่าว

ด้านนายสมพงษ์กล่าวว่า พูดคุยกับเพื่อนอาจารย์สถาบันภาษา จุฬาฯ ที่ได้นำข้อสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ ไปลองทำดู พบว่ามีความยากมาก และจากการพูดคุยกับเด็กที่เข้าสอบ บอกว่าต้องนั่งอ่านข้อสอบถึงครึ่งชั่วโมงจึงจะเข้าใจและเริ่มทำข้อสอบได้ นอกจากนี้ผลคะแนนสอบ GAT 2 ภาษาอังกฤษ มีเด็กทำคะแนนได้ศูนย์คะแนนถึง 8,000 กว่าคน ดังนั้นย่อมสะท้อนถึงอะไรบางอย่างที่ สทศ.ควรต้องกลับมาวิเคราะห์ตัวเองว่าเด็กเรียนภาษาอังกฤษมา 12 ปีแต่ทำข้อสอบไม่ได้เลยนั้น เครื่องมือวัดมีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะแนววิธีการวัดผลในวิชา GAT 2 ภาษาอังกฤษที่ตอบผิดแล้วติดลบนั้น ควรยกเลิกได้แล้ว เพราะทำให้เด็กไม่กล้าตอบ ซึ่งการทำข้อสอบ ก็ต้องมีการเสี่ยงเดากันบ้าง เป็นธรรมดา


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1250415822&grpid=01&catid=no
ตัวดูดคะแนนเลยครับอันนี้โดนมาแล้ว
Logged


~NICO ROBIN~
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1641


« Reply #22 on: August 19, 2009, 04:28:34 PM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน


ผมว่าควรทำค่ามาตรฐานมาคิดกับเกรดของแต่ละโรนงเรียนไปเลย

เช่น ตอ. 4.00
กับ รร.โนเนม 4.00 ปล่อยเกรด

เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานแล้ว ตอ. 4.00=6.00มาตรฐาน
ส่วน รร.โนเนมปล่อยเกรด 4.00 =2.75 มาตรฐาน
Logged


Ijiraku naruto
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 410


« Reply #23 on: August 19, 2009, 04:38:20 PM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน


ผมว่าควรทำค่ามาตรฐานมาคิดกับเกรดของแต่ละโรนงเรียนไปเลย

เช่น ตอ. 4.00
กับ รร.โนเนม 4.00 ปล่อยเกรด

เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานแล้ว ตอ. 4.00=6.00มาตรฐาน
ส่วน รร.โนเนมปล่อยเกรด 4.00 =2.75 มาตรฐาน
ถ้าทำงั้นจริงคงจะวุ่นวายน่าดูชม
Logged


Doraemon
Member
*****
Offline Offline

Posts: 6342



Email
« Reply #24 on: August 19, 2009, 04:41:01 PM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน


ผมว่าควรทำค่ามาตรฐานมาคิดกับเกรดของแต่ละโรนงเรียนไปเลย

เช่น ตอ. 4.00
กับ รร.โนเนม 4.00 ปล่อยเกรด

เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานแล้ว ตอ. 4.00=6.00มาตรฐาน
ส่วน รร.โนเนมปล่อยเกรด 4.00 =2.75 มาตรฐาน

แล้วโรงเรียนจะยอมกันไหมหล่ะ ทำอ่ะไม่ยากหรอก ก็เอาคะแนนสอบมาทำ percentile แล้วทำตัวคูณ

จริงๆถ้าทำแบบนี้มันก็เหมือนไม่ค่อย fair และผลักดันให้เกิดการแย่งเข้าโรงเรียนดีๆอย่างรุนแรงอีก เพราะเหมือนเอาสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเข้ามาคิดคะแนน แต่ไม่ใช้ความสามารถของเค้า (Example: คุณเป็นเด็กเก่งมากในโรงเรียนปานกลาง กับคุณเป็นเด็กปานกลางในโรงเรียนเก่งมาก มันวัดได้จริงๆหรอ ว่าใครเก่งกว่ากัน มันไม่เหมือนเอาที่หนึ่งของแต่หล่ะโรงเรียนมาวัดกันนะ) วิธีที่น่าสนใจ อีกอย่างคือ ใช้ GPA เป็น requirement ในการสมัครเข้า Program (เช่นถ้าคุณอยากเรียนโปรแกรมนี้ๆ คุณต้องเอาเกรดวิชา นี้ๆๆๆ มีเฉลี่ย แล้วเกินเท่าไหร่ก็ว่ากันไป)

มีหลายคนพูดวาคะแนนที่ทำกันได้สูงๆ คือ 120 อยากรู้ว่าเต็มเท่าไหร่ ใครรู้ช่วยบอกหน่อย / อีกอย่างคะแนนมันบวกอย่างเดียวหรือเปล่า มีทำผิดติดลบไหม?
Logged


~NICO ROBIN~
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1641


« Reply #25 on: August 19, 2009, 04:59:26 PM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน


ผมว่าควรทำค่ามาตรฐานมาคิดกับเกรดของแต่ละโรนงเรียนไปเลย

เช่น ตอ. 4.00
กับ รร.โนเนม 4.00 ปล่อยเกรด

เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานแล้ว ตอ. 4.00=6.00มาตรฐาน
ส่วน รร.โนเนมปล่อยเกรด 4.00 =2.75 มาตรฐาน

แล้วโรงเรียนจะยอมกันไหมหล่ะ ทำอ่ะไม่ยากหรอก ก็เอาคะแนนสอบมาทำ percentile แล้วทำตัวคูณ

จริงๆถ้าทำแบบนี้มันก็เหมือนไม่ค่อย fair และผลักดันให้เกิดการแย่งเข้าโรงเรียนดีๆอย่างรุนแรงอีก เพราะเหมือนเอาสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเข้ามาคิดคะแนน แต่ไม่ใช้ความสามารถของเค้า (Example: คุณเป็นเด็กเก่งมากในโรงเรียนปานกลาง กับคุณเป็นเด็กปานกลางในโรงเรียนเก่งมาก มันวัดได้จริงๆหรอ ว่าใครเก่งกว่ากัน มันไม่เหมือนเอาที่หนึ่งของแต่หล่ะโรงเรียนมาวัดกันนะ) วิธีที่น่าสนใจ อีกอย่างคือ ใช้ GPA เป็น requirement ในการสมัครเข้า Program (เช่นถ้าคุณอยากเรียนโปรแกรมนี้ๆ คุณต้องเอาเกรดวิชา นี้ๆๆๆ มีเฉลี่ย แล้วเกินเท่าไหร่ก็ว่ากันไป)

มีหลายคนพูดวาคะแนนที่ทำกันได้สูงๆ คือ 120 อยากรู้ว่าเต็มเท่าไหร่ ใครรู้ช่วยบอกหน่อย / อีกอย่างคะแนนมันบวกอย่างเดียวหรือเปล่า มีทำผิดติดลบไหม?
คะแนนเต็ม 150 ครับ

ความรู้นิดหน่อย+ดวง....เราก็ได้แค่ 75
Logged


stormtrooper
Member
*****
Offline Offline

Posts: 942


« Reply #26 on: August 19, 2009, 05:27:35 PM »

ข้อสอบน่ะ ยาก-ง่าย มันไม่ได้สำคัญ เพราะมันเหมือนกันทั้งประเทศ อยู่ภายใต้การสอบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ก็เท่าเทียมดี

GPA บางโรงเรียนให้เยอะ-น้อยไม่เท่ากัน นี่สิไม่เท่าเทียมกันจริงๆ

อยากให้ GPA 50% หรือ 100% เลยก็ได้ แต่ยกระดับมาตรฐานการศึกษาทั่วราชอาณาจักรของประเทศไทยให้เท่าเทียมกันทั้งประเทศได้ก่อน ค่อยว่ากัน


ผมว่าควรทำค่ามาตรฐานมาคิดกับเกรดของแต่ละโรนงเรียนไปเลย

เช่น ตอ. 4.00
กับ รร.โนเนม 4.00 ปล่อยเกรด

เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานแล้ว ตอ. 4.00=6.00มาตรฐาน
ส่วน รร.โนเนมปล่อยเกรด 4.00 =2.75 มาตรฐาน
ระดับมันต่างกันขนาดนั้นเลยเรอะเกินไปมั๊ย
Logged


tokyo14949
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 26


Email
« Reply #27 on: August 19, 2009, 07:15:35 PM »

อังกิดนี่ตัวฉุดโหดเลยอะสำหรับผมมันคือศัพท์อะไรมาจากโลกไหนก็ไม่รู้อะ

Logged


abeabeabe
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1127


Email
« Reply #28 on: August 19, 2009, 09:06:23 PM »

สอบตรง sure สุด
Logged


✖BookMan junior✖
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 684


Email
« Reply #29 on: August 19, 2009, 09:17:50 PM »

อาจารย์บอก "ถ้าข้อสอบง่ายก็แยกไม่ได้สิระหว่างคนกับควา...(เซนเซอร์)"
Logged


XA14
Member
*****
Offline Offline

Posts: 552


« Reply #30 on: August 20, 2009, 12:00:48 AM »

อ่านข่าวแล้วงง

GAT อังกฤษ มันไม่ได้ติดลบ ไม่ใช่หรือ!?

งงกะข่าวมากมาย
Logged


Red Hot Chili PepperS๛
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2238


Email
« Reply #31 on: August 20, 2009, 12:54:10 AM »

ผมเลือกจะไม่สอบ และเข้ารามครับ 555+
Logged


crossover
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 56


Email
« Reply #32 on: August 20, 2009, 01:12:58 AM »

ผมเปนผู้อยู่ในเหตุการณ์ครับ สอบมาแล้วนิ
gat 1 กำลังดี 150/150
gat 2 อังกิด ไม่รุ้ศัพท์เลยมั่วไป 75/150
pat 1 คนิด วิเคราะห์ซับซ้อน อันนี้กลางๆคับ 150/300
pat 2 วิทย์ สอนอย่าออกอย่าง จัดไป113.5/300
pat 3 วิศว คะแนนตก เหลือ 125

ละคิดดูคับ ลองให้อาจารย์ มหาลัยทำดู ภาษาอังกิด ครูถึงกับต้องเปิด dic คิดดู
ละอย่างผม ศัพท์มีไม่กี่ตัว จาได้เยอะได้ไง ขึ้นอยู่กะดวงชัดๆ
Logged


ohm13
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 1376


Email
« Reply #33 on: August 20, 2009, 01:28:12 AM »

ตอนจะสอบเข้าผมก็ว่าสอบเข้านี่ยากมาก พอเข้ามาแล้วจึงพบว่ามันยากกว่า

แต่ก็ไม่มีอะไรเกินความพยายามของเราหรอกครับ
« Last Edit: August 20, 2009, 01:31:38 AM by ohm13 » Logged


Pages: 1 2 [All]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.108 seconds with 20 queries.