Summoner Master Forum
March 28, 2024, 11:04:06 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: @@ นิยายSMN Chapter2 ในอ้อมแขนแม่ @@  (Read 7521 times)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« on: December 19, 2004, 02:15:19 AM »

Chapter2 ในอ้อมแขนแม่


                   ณ  ห้องบรรทมในเขตพระราชฐานชั้นใน   ภายในห้องนั้นถูกตกแต่งอย่างประณีตบรรจงแตกต่างจากส่วนอื่นๆภายในปราสาทอย่างสิ้นเชิง  ของเด็กเล่นนานาชนิด  อีกทั้งเครื่องบรรณาการสูงค่าจากแคว้นต่างๆมากมายถูกนำมาวางไว้ ณ ห้องนี้   ทั้งนี้เพื่อเป็นของขวัญให้แก่ ซาร์ อิสฮาน โอรสของ ซาดิน และ เนริมอร์ที่เพิ่งประสูติได้ไม่นาน    กลางห้องนั้นมีเปลนอนหลังใหญ่ สลักเสลาลวดลายอย่างประณีต ประดับด้วยอัญมณีเม็ดเล็กๆหลากสีเป็นรูปร่างต่างๆสวยงามยิ่งนัก  
                   ในเปลนั้น ซาร์ อิสฮาน โอรสน้อยกำลังนอนหลับอย่างเป็นสุข    ข้างเปลนั้นมีหญิงวัยกลางคนผู้ทำหน้าที่เป็นแม่นมคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ   และไม่ใกล้ไม่ไกลจากเปลนอนมากนักมีนางกำนัลอีกคนหนึ่งนั่งอยู่    นางกำลังเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดในท้องพระโรงอย่างออกรส
                   “ท่านแม่นมเชื่อหรือไม่  พอพระนางเนริมอร์เอ่ยปากนะ    องค์ซาดินก็รับปากว่าจะคิดทบทวนใหม่    โอ้ ท่านต้องได้เห็นสีหน้าของ อุปราช บลาส เซจ  คงจะโกรธจนลมออกหูเลยล่ะท่าน”  
                   “เจ้าเบาเสียงของเจ้าลงหน่อยเถิด    ประเดี๋ยวพระโอรสน้อยก็ตกใจเสียงเจ้าจนตื่นกันพอดี” แม่นมปราม
                   นางกำนัลจึงค่อยเบาเสียงลง “ท่านแม่นม    ข้าว่าข้าก็อยู่รับใช้ในวังนี่มาก็นานหลายเพลาแล้ว    เห็นความโหดร้ายเด็ดขาดของ พระนางเนริมอร์ ก็ออกบ่อยครั้ง   แต่หลังจากมีพระโอรสแล้ว   ดูพระนางแปลกไปนะ    ดูอย่างวันนี้เถิด   พระนางทรงขอร้ององค์ซาดินให้หยุดสงคราม    เพื่อเห็นแก่ประชาชน  หรืออย่างการที่พระนางทุ่มเทความรักให้พระโอรสน้อยสิ     ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพระนางจะรักลูกได้ถึงเพียงนี้”
                   แม่นมก้มหน้าลงมองพระโอรสองค์น้อยพลางพูดว่า
                   “แม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังรักลูกของมัน มนุษย์เราก็มิผิดกัน    พระนางเนริมอร์ ช่างน่าสงสารนัก    พระนางถูกจับแต่งงานตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์    ความรักที่ควรได้รับจากพ่อแม่ก็แทบจะไม่รู้จัก     เมื่อมาอยู่ที่นี่ความรักที่ควรได้รับจากสามีนั้นก็มิใช่ความรักที่สมบูรณ์นัก    เพราะในตอนนั้น องค์ซาดิน เองก็ยังทรงพระเยาว์เกินกว่าจะเข้าใจความรักได้    เมื่อพระนางไม่เคยได้รับความรัก   ไม่เคยถูกรัก และไม่เคยรักใคร    พระนางจึงมีอารมณ์รุนแรงอย่างที่เจ้าเห็น   พระนางเป็นคนที่รักแรง เกลียดแรง     จึงไม่น่าแปลกใจเลย  ในเมื่อพระนางโหยหาความรักตลอดมา    เมื่อพระนางมีพระโอรสน้อยแล้วจึงทุ่มเทชีวิตจิตใจให้เช่นนี้    เพราะพระนางรู้ดีว่าพระนางมีพระโอรสที่สามารถทุ่มเทความรักให้  และที่สุดแล้วพระโอรสเองนี่แหละจะเป็นผู้ที่รักพระนางตอบและรักพระนางมากที่สุด”
                   “ช่างน่าสงสารยิ่งนัก   ข้าคงมิอาจมีชีวิตอยู่ได้หากข้าเป็นพระนาง” นางกำนัลครวญพลางมองไปรอบๆห้อง “มิน่าเล่า  ห้องนี้ถึงได้สวยงามแปลกตากว่าทุกๆที่ในปราสาท    เพราะพระนางตกแต่งทั้งห้องด้วยตัวพระนางเอง”
                   “เจ้าหยุดพูดเสียเถิด   จวนจะถึงเวลาที่ พระนางเนริมอร์ จะเสด็จมาหาพระโอรสแล้ว   หากพระองค์ได้ยินว่าเจ้านั่งพูดคุยเรื่องของพระนางเช่นนี้มีหวังคงโดนประหารกันทั้งคู่เป็นแน่”แม่นมปรามอีกครั้ง
                   สิ้นคำของแม่นม  นางกำนัลต้นห้องก็เปิดประตูเดินเข้ามา กล่าวเสียงเบาว่า
                   “พระนางเนริมอร์ เสด็จแล้ว”  
                   ทันใดนั้น เนริมอร์ ก็เดินเข้ามาแทบจะทันที    แม่นมและนางกำนัลต่างสะดุ้งสุดตัว    เนื่องด้วยเกรงว่า พระนางเนริมอร์ อาจจะทรงได้ยินในสิ่งที่พูดกัน    แต่ เนริมอร์ มิได้เหลียวมองนางทั้งสองเลย     กลับรีบเดินตรงไปยังเปลของโอรสน้อยอย่างรวดเร็ว   นางค่อยก้มตัวลง    ยื่นมือไปสัมผัสพวงแก้มของโอรสน้อยอย่างเบามือ    ใบหน้าของนางเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันอ่อนหวาน    แม่นมและนางกำนัลค่อยคลายความตระหนกลง    ต่างแอบถอนหายใจกันอย่างโล่งอก    มีเพียงนางกำนัลที่เปลี่ยนเป็นความฉงนสนเท่ห์แทน    ภาพของ เนริมอร์ ยามเมื่ออยู่กับบุตรชายนั้น เป็นสิ่งที่นางมิเคยเห็นมาก่อน เนริมอร์ ในเวลานี้ช่างผิดแผกจากเมื่อก่อนเหลือเกิน     นางมีวิญญาณของความเป็นแม่อยู่เต็มเปี่ยม
                   “ลูกสุดที่รักของแม่” เนริมอร์ พูดเสียงเบาจนแทบจะกระซิบ
                   “เจ้ารู้หรือไม่ว่าแม่รักเจ้ามากเพียงใด  แม่แทบจะทนไม่ได้แม้เพียงสักนาทีที่จะห่างเจ้า”  
Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #1 on: December 19, 2004, 02:16:37 AM »

                        ราวกับเด็กน้อยรับรู้ถึงความรักที่แผ่ออกมาอย่างท่วมท้น    ซาร์ อิสฮาน ค่อยๆปรือตาขึ้นช้าๆ    เมื่อเห็นแม่ของตนอยู่ตรงหน้า ปากน้อยๆก็ค่อยคลี่ยิ้มออก    รีบกางแขนทั้งสองข้างขึ้น    พลางใช้ขาน้อยๆทั้งสองข้างเหยียดยันเบาะแอ่นตัวขึ้นหา เนริมอร์ เพื่อให้นางอุ้ม
                        “โอ้  ลูกรัก เจ้าช่างน่ารักน่าชังเสียนี่กะไร     แล้วอย่างนี้แม่จะทิ้งเจ้าไปไหนเสียได้”
                         ว่าแล้วนางก็รีบช้อนตัวบุตรชายขึ้นจากเปลมาแนบอก    จูบเบาๆที่พวงแก้มทั้งสองข้าง    พลางมองใบหน้าน้อยๆของบุตรชาย    ดวงตากลมโตสีดำขลับ    พวงแก้มสีชมพูระเรื่อ    จมูกโด่งสูงอันน้อยๆ ปากเล็กๆที่อิ่มเต็ม
                         “ลูกแม่   แม้อายุยังน้อยนักเจ้ายังรูปงามถึงเพียงนี้   หากเจ้าเติบใหญ่แล้วสตรีทั่วแคว้นแดนไกลคงถวิลหาแต่เจ้าทุกเพลาเป็นแน่ พวกเจ้าคิดเช่นนั้นหรือไม่?”
                        เนริมอร์ เอ่ยถามแม่นมและนางกำนัลขณะที่นางยังคงหยอกล้อบุตรชาย    แม่นมยิ้มพลางกล่าวว่า
                        “พระโอรสน้อยได้ทั้งความหล่อเหล่าจาก องค์ซาดิน และได้ความคมเข้มมาจากพระนาง   ไม่น่าแปลกใจเลยเพคะที่พระโอรสจะรูปงามถึงเพียงนี้”
                        “หม่อมชั้นก็คิดเช่นนั้นเพคะ” นางกำนัลรีบเสริมทันที
                        เนริมอร์ยิ้มอย่างพอใจ   หากแต่ยังคงมิได้วางตาจากลูกน้อยเลย “พวกเจ้าช่างพูดได้ถูกใจข้านัก  ”  
                        “แม่นมเปลใหม่นี่ เป็นอย่างไรบ้าง ลูกข้านอนได้สบายดีหรือไม่?” เนริมอร์ ถามพลางพยักหน้าไปทางเปลที่อยู่กลางห้อง
                        “ข้าแต่พระนาง เปลหลังใหม่นี้ช่างดีเหลือเกินเพคะ  พระโอรสน้อยทรงบรรทมหลับได้อย่างสบาย” แม่นมตอบ
                        “และยังสวยงามมากด้วยเพคะ ใครเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาหรือเพคะ”นางกำนัลกล่าวบ้าง
                        เนริมอร์ มองไปยังเปลอีกครั้ง
                         “ใช่มันสวยงามมากจริงๆ  ช่างฝีมือในซาโลมของเราไม่สามารถผลิตเปลเช่นนี้ได้หรอก    มันเป็นเปลของแคว้นๆหนี่งทางใต้    ว่ากันว่ามันทำจากส่วนหนึ่งของมหาพฤกษาอิกดราซิลซึ่งอยู่ไกลถึงฟูดินัน    ผู้ที่นอนในเปลนี้ในฤดูร้อนก็จะรู้สึกเย็นสบายแม้ในฤดูหนาวก็จะรู้สึกอบอุ่น    ช่างน่าเสียดายพวกช่างฝีมือในแคว้นนั้นนัก เพื่อชิงเปลหลังนี้มา   ซาดิน ได้เผาเมืองนั้นและประหารผู้คนจนหมด ”
                        ทั้งแม่นมและนางกำนัลถึงกับใบหน้าซีดลงทันที    พลางหันไปมองที่เปลหลังนั้นด้วยความสยองเกล้า    ไม่กล้าแม้จะเอื้อนเอ่ยใดๆอีก   ในขณะที่ เนริมอร์ นั้นยังคงเล่นหยอกล้อกับ ซาร์ อิสฮาน  โดยมิได้สนใจคนทั้งสองแม้แต่น้อย



                        เนริมอร์ นั้นมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันของนางอยู่ภายในห้องนี้    ทุกๆวันของนางจะเริ่มต้นด้วยการเร่งจัดการกับกิจหน้าที่ต่างๆภายในวังให้เสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว    จากนั้นก็จะตรงมายังห้องนี้ทันทีเพื่อมาอยู่กับบุตรชายของนางจนมืดค่ำแล้วจึงจะกลับไปยังห้องบรรทมของตน    เหล่าข้าราชบริพารน้อยใหญ่ในวังต่างรู้ดีว่าหากนางเข้าไปในห้องของ ซาร์ อิสฮาน แล้ว    ยากนักที่จะสนใจสิ่งอื่นใดภายนอกอีก    ซึ่งต่างกับ ซาดิน ที่จะใช้เวลาว่างของตนอยู่ในฮาเร็ม    สถานที่ชุมนุมของเหล่าสาวงามจากทั่วทุกสารทิศเพื่อกิจหน้าที่ปรนเปรอความสุข    และนี่คือเรื่องสามัญธรรมดาสำหรับซาดินที่จะยินดีหาความสุขจากที่แห่งนี้มากเสียกว่าจะอยู่กับลูกชายในไส้และภรรยาของตน

Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.02 seconds with 21 queries.