Summoner Master Forum
April 28, 2024, 04:04:18 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1]
  Print  
Author Topic: @@ นิยายSMN Chapter3 The Sun @@  (Read 7139 times)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« on: December 19, 2004, 02:18:53 AM »

Chapter3 The Sun
[/size]


                      รุ่งเช้าของวันใหม่เมื่อแสงแห่งดวงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วจักรวรรดิซาโลม   หลายชีวิตเพิ่งจะเริ่มวันใหม่ได้ไม่นานนัก   หากแต่ที่ท้องพระโรง ณ ใจกลางปราสาทนั้นกลับคลาคล่ำไปด้วย เหล่าบรรดาแม่ทัพ นายกอง เสนาอำมาตย์น้อยใหญ่ ซึ่งมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง    ต่างก็นั่งอยู่บนเบาะทรงกลมใบใหญ่หลากสีที่เรียงรายอยู่สองฝั่งข้างท้องพระโรง ลดหลั่นกันไปตามอันดับยศ   เหล่าทหารยามร่างใหญ่กำยำหลายนายถือดาบโค้งเสี้ยวพระจันทร์ยืนประจำตามเสาภายในท้องพระโรงด้วยท่าทางแข็งขัน   เสียงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการบ้านการเมืองดังอื้ออึงไปทั่วท้องพระโรงนั้น   ที่ฐานบัลลังก์ทองคำอันประดับด้วยขนทองของกริฟฟิน   มีบุรุษสองคนยืนขนาบทั้งด้านซ้ายและขวาอยู่   บุรุษผู้อยู่ทางซ้ายมือนั้นก็คือ บลาส เซจ นั้นเอง  
                      บลาส เซจ นั้นมีใบหน้าที่ยาวแหลม แก้มตอบ จมูกงุ้มงอ  ริมฝีปากบางดำคล้ำ  ไว้หนวดยาวแหลมที่ใต้คาง รูปร่างผอมสูงชะลูด ผิวขาวซีด คิ้วยาวเหยียดตรงปลายคิ้วชี้สูง  หากแต่ดวงตานั้นกลับแหลมคมรีเล็กราวกับพญาเหยี่ยวที่คอยจ้องจับเหยื่อ   ชวนให้รู้สึกขนพองสยองเกล้าทุกครั้งยามเมื่อถูกจ้องมอง   อีกทั้งท่วงท่าสีหน้าและการวางตัวนั้นก็สงบนิ่งยากนักที่จะคาดเดาใจได้
                      ซึ่งต่างกับบุรุษผู้ที่ยืนอยู่ทางเบื้องขวายิ่งนัก   บุรุษผู้นี้มีร่างที่กำยำกว่าทหารทั่วไป   ผมหยักเป็นลอนสีน้ำตาลเข้มแซมขาว ไว้เคราดกหนา ใบหน้าคมได้รูป   หากแต่มีริ้วรอยแห่งกาลเวลาปรากฏอยู่ที่หางตาและร่องแก้มทั้งสองข้าง    บ่งบอกถึงวัย และประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างโชกโชนในวัยหนุ่ม   คิ้วเข้มหนา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมฉายแววแนวแน่มุ่งมั่น จมูกเป็นสันตั้งตรง  ริมฝีปากอิ่มหนา  แลดูสุขุมเยือกเย็น   บุรุษผู้นี้ยืนอย่างสง่าในชุดเสื้อคอปกสีขาวทับด้วยเสื้อแขนกุดสีแดงขลิบทอง   กางเกงขายาวปลายพองสีแดง และผ้าคลุมกำมะหยี่เนื้อดีสีแดงเข้ม   ยิ่งทำให้บุรุษผู้นี้ดูสุขุม และทรงอำนาจยิ่งขึ้น    บุรุษผู้นี้ก็คือ นาริส สุไลมาน  มหาอำมาตย์ผู้เรืองปัญญาแห่งจักรวรรดิซาโลม    ผู้เคยรับใช้บิดาแห่ง ซาดิน มาแต่ครั้งก่อนและคอยสอนสั่งในเรื่องต่างๆให้ ซาดินมาตั้งแต่เยาว์วัยนั่นเอง     ทั้งยังเคยช่วยชีวิตของ ซาดิน และ เนริมอร์ อีกด้วย   ดังนั้นทั้ง ซาดิน และ เนริมอร์ จึงต่างเคารพและให้เกียรติ นาริส สุไลมาน ยิ่งนัก   อีกทั้งยังเป็นผู้ดูแลเรื่องกฎหมายบ้านเมืองให้แก่จักรวรรดิซาโลมได้อย่างมิมีบกพร่องอีกด้วย
                      หากจะเปรียบไปแล้ว นาริส สุไลมาน  ก็มิต่างจากมือขวาของซาดิน ส่วน บลาส เซจ นั้นก็เป็นเสมือนมือซ้าย    ซึ่งต่างก็ยิ่งใหญ่มิแพ้กัน  ทว่าเป็นที่รู้กันดีว่า นาริส สุไลมาน และ บลาส เซจ มิค่อยจะลงรอยกันเท่าใดนัก    บ่อยครั้งมักเกิดเรื่องโต้เถียงกัน เพราะทั้งสองคนนั้นเสมอกันด้วยภูมิปัญญา  ความสุขุมลุ่มลึก  ความหลักแหลมแห่งปฏิภาณ  วัยวุฒิรึก็มิต่างกันมากนัก    แม้แต่ ซาดิน เองยังหน่ายใจ และมิอาจเอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้    เพราะเกรงจะสร้างความบาดหมางแก่อีกฝ่าย    จึงจำต้องเป็นคนกลางคอยอะลุ่มอล่วยประนอมความให้แก่บุคคลทั้งสองอยู่เนืองๆ
                      ขณะที่ทั้งสองต่างก็ยังคงจ้องมองกันและกันด้วยสีหน้าที่ยากจะอ่านออก    เสียงประกาศจากทหารก็ดังขึ้น
                      “องค์ซาดิน และพระนางเนริมอร์ เสด็จแล้ว”  
                      ทันใดนั้นเหล่าเสนาอำมาตย์ต่างรีบลุกขึ้นยืนโค้งทำความเคารพ  ทั่วท้องพระโรงที่เคยอึกทึก มาบัดนี้กลับเงียบสนิทไร้ซึ่งสำเนียงใดๆ  ชั่วอึดใจ ซาดินและ เนริมอร์ ก็เดินเข้ามาภายในท้องพระโรง     ซาดิน นั้นค่อยๆย่างก้าวอย่างองอาจไม่ต่างกับราชสีห์ขึ้นสู่แท่นบัลลังก์ทองคำ   โดยมี เนริมอร์ เดินตามหลังมาด้วยท่วงท่าราวพญาหงส์    เนริมอร์ เดินไปนั่งยังเบาะสีแดงสดขลิบทองใบใหญ่ที่ถูกจัดไว้ทางซ้ายเยื้องไปทางเบื้องหลังของบัลลังก์ทองคำเล็กน้อย    เมื่อทุกฝ่ายต่างนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว   ซาดิน จึงเอ่ยขึ้นว่า
                      “ท่านทั้งหลายก่อนที่เราจะเริ่มการหารือกันในวันนี้  ข้าอยากจะฟังคำทำนายถึงบุตรชายข้าเสียก่อน” แล้วจึงหันหน้าไปทาง บลาส เซจ  
                       บลาส เซจ ค้อมตัวเล็กน้อยอย่างรู้ทันกล่าวว่า “นาซาอี เดินทางมาถึงสักพักแล้วฝ่าบาท” ว่าแล้วก็ส่งสัญญาณให้กับทหารต้นห้อง  
« Last Edit: December 19, 2004, 02:19:30 AM by Little Angel » Logged


Little Lamb, the Little Angel
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 5087


Email
« Reply #1 on: December 19, 2004, 02:20:58 AM »

                    เสียงเบิกตัว นาซาอี ก็ดังขึ้นทันที  ประตูท้องพระโรงก็เปิดออก    ปรากฏร่างหญิงสาวหุ่นเพรียวบางยืนอยู่อย่างสงบ  นางอยู่ในชุดสีแดงยาวเปิดไหล่ข้างหนึ่ง   ในมือของนางถือกล่องใบเล็กๆใบหนึ่งที่สลักลวดลายเป็นอักขระโบราณทั่วทั้งกล่อง   นางค่อยๆก้าวเข้ามาตามพรมสีแดงสดที่ปูเป็นทางยาวกลางท้องพระโรงนั้น     สายตาของเหล่าเสนาอำมาตย์ต่างจับจ้องไปที่นาง   ทั้งนี้มิใช่เพราะนางเป็นคนสวยเลิศเลอ  หากแต่เพราะการทำนายของนางนั้นมิเคยผิดพลาดแม้เพียงสักครา   อีกทั้งยังไม่เคยมีผู้ใดได้ยินเสียงพูดคุยของนาง   ทุกๆคำที่ออกมาจากปากของนางล้วนแล้วแต่เป็นคำทำนายทั้งสิ้น
                    เมื่อ นาซาอี เดินมาหยุดยืนอยู่ ณ กลางท้องพระโรงตรงที่ทหารองค์รักษ์ได้นำโต๊ะทรงเตี้ยและเบาะรองนั่งมาจัดวางไว้ให้นั้น    นาซาอี ก็ค่อยๆโค้งคำนับ ซาดิน และ เนริมอร์ อย่างช้าๆ  
                    “นาซาอี  เจ้าคงรู้แล้วว่าข้ามีกิจอันใดที่เรียกเจ้ามาในวันนี้    เจ้าจงทำนายถึง ซาร์ อิสฮาน บุตรชายแห่งข้าสิ!!”  ซาดิน เอ่ยขึ้น    นาซาอี โค้งคำนับอีกครั้งก่อนที่จะนั่งลงบนเบาะที่ถูกจัดเตรียมไว้    บนโต๊ะนั้นมีผ้าสีดำผืนใหญ่ปูแผ่อยู่    นางค่อยๆวางกล่องในมือลงบนโต๊ะนั้น    พลางเปิดกล่องหยิบสำรับไพ่ทาโร่ห์ออกมา  
                    ทั่วทั้งท้องพระโรงต่างเงียบกริบ   มิมีเสียงใดๆเล็ดรอดออกมาจากบรรดาเหล่าเสนาอำมาตย์เลย    เพราะต่างก็ใจจดจ่ออยู่กับการทำนายของนาง   นางสับไพ่ในมือและจัดวางไพ่ราวกับร่ายรำด้วยท่วงทำนองที่ไม่มีใครได้ยิน    เมื่อการวาดมือของนางสิ้นสุดลง   ไพ่บนโต๊ะก็ถูกจัดวางเป็นรูปวงกลมอย่างสวยงาม มีไพ่อยู่หนึ่งใบวางอยู่ ณ ใจกลางวงกลมนั้น    นางยื่นมือไปแตะที่ไพ่ใบนั้น
                    “ไพ่ใบนี้......หมายถึง พระโอรสซาร์ อิสฮาน” นาซาอี กล่าวขึ้น    พร้อมทั้งค่อยๆหงายไพ่ขึ้น    ปรากฏเป็นรูปดวงอาทิตย์สีแดงดวงโตส่องประกายเจิดจรัส    ทำให้เกิดเสียงซุบซิบดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณนั้น
                    “ไพ่ใบนี้มีความหมายว่าอย่างไร?” เนริมอร์ โพล่งออกไปด้วยความตื่นเต้นแทบจะทนนั่งต่อไปไม่ไหว
                    นาซาอี จ้องมองที่ไพ่ใบนั้นกล่าวว่า “ ในวันที่พระโอรสประสูตินั้น  ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด   ดวงอาทิตย์ส่องแสงเป็นสีทองไปทั่วทั้ง จักรวรรดิซาโลม”  แล้วจึงเงยหน้าขึ้น “หาก ซาดิน เป็นได้ถึงจักรพรรดิ    บุตรของเขาจะเป็นใหญ่ยิ่งกว่า ซาดินคือมหาเพลิงที่น่ากลัว  แต่บุตรของเขา......คือ ดวงอาทิตย์”  ทันใดนั้นทั่วทั้งท้องพระโรงก็เงียบกริบราวกับทุกๆคนหยุดการเคลื่อนไหว    จากนั้นอีกเพียงอึดใจเดียวเสียงฮือฮาก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งท้องพระโรงนั้น
                    ซาดิน และ เนริมอร์ ต่างนิ่งเงียบราวกับกำลังทบทวนถ้อยคำทำนายนั้น    จากนั้น ซาดิน ก็ค่อยๆยิ้มออกมา
                    “เจ้าหมายความว่าบุตรชายข้า   จะยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าข้าอย่างนั้นรึ”            
                    ด้าน เนริมอร์ ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก    ด้วยนางแทบไม่เชื่อหูตนเอง  ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นดีใจ    นาซาอี คลี่ยิ้มออกมา ก่อนที่จะโค้งคำนับและกลับหลังหันเดินจากไปโดยมิสนใจสิ่งใดๆรอบกายอีก   พร้อมกับทิ้งปริศนาแห่งคำทำนายของนาง
Logged


Pages: [1]
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.079 seconds with 22 queries.