Summoner Master Forum
April 25, 2024, 01:23:55 PM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: [1] 2 3 ... 7  All
  Print  
Author Topic: พี่ช่วยบอกนิสัยตัวละครพวกนี้หน่อยครับ  (Read 107722 times)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
วายุดำ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 86


Email
« on: April 30, 2003, 03:31:03 AM »

คือ ผมอย่ากให้พี่ปอช่วยบอกนิสัย บุคลิก ลักษณะการพูด ความสำคัญ ประโยคเด็ด ฯลฯ ของตัวละครพวกนี้หน่อย เพื่อที่ผมจะได้เอาไปใช้ในการทำเกมอะครับ

-อิสฮาน
-ฮาริสัน
-วานาอัน
-วูจิน
-ฟูมิน
-เอนชา
-โจซาน
-อันดีน
-ดามิกา
-พี่จิง !?! (อันนี้ไม่ต้องก็ได้)

ขอบคุณครับ

ปล. ผมว่ามันไม่น่าจะผิดบอร์ดนะ เพราะบอร์ดนี้ถามสายตรงถึงทีมงานนิ แล้วผมก็อยากให้หลายคนที่ทำเกม หรือ แต่งนิยายได้ข้อมูลนี้เหมือนกันนะครับ
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #1 on: April 30, 2003, 06:27:07 AM »

-อิสฮาน
รักแม่ แต่เก็บกด โชคดีที่ถูกดูแลจากแม่ที่รักมาก กับนาริสที่เป็นครูที่ประเสริฐ เลยไม่มีนิสัยพ่อกระเด็นมาเลย มีปมความเศร้าใหญ่หลวงที่พ่อเป็นอาชญากรสงคราม และแม่ที่รักที่สุดถูกฆ่าต่อหน้า เมื่อไปอยู่ฟูดินัน ได้ซึมซับวิถีชีวิตอันสุขสงบ และปรัชญาเชิงธรรมชาติ กล่อมเกลาให้จิตใจอ่อนโยนและเป็นคนดี จนพบเจ้าหญิงอลาน่า ได้พบวิถีทางแห่งความรัก และความศรัทธาในพระเจ้า จึงเป็นคนดีที่อ่อนโยนและเข้มแข็งขึ้นมา ดวงอาทิตย์ย่อมเผาผลาญตัวเองก่อนที่จะให้ความสว่างแก่สิ่งอื่นได้ ดังนั้น เขาจึงได้ถูกหล่อหลอมอย่างหนักก่อนจะมาเป็นศาสดาใหม่แห่งซาโลม อิสฮานจะชอบเล่นกับเด็กๆ เพราะสมัยเด็กไม่มีใครเล่นด้วย ชอบผู้หญิงอายุมากกว่าเพราะติดแม่ มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัวเพราะเป็นเจ้าชายมาก่อน แต่ขณะเดียวกันก็มีจิตใจดี และเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่น และมักแฝงความเศร้าไว้ในดวงตา อิสฮานคิดว่าสงครามนี้มีสาเหตุจากตน แต่ครั้นจะเอาชีวิตตัวเองชดใช้ ต้องตายกี่ครั้งกันจึงจะสาสม เมื่อพบซิสเตอร์อลาน่า เขาจึงได้พบหนทางใหม่ หนทางที่จะชำระล้างจิตใจ และวิญญาณของตน คือเป้าหมายที่จะสร้างสันติสุขให้ทวีปนี้ เพื่อทดแทนให้ลูกหลานของผู้ที่ต้องประสบภัยสงครามทุกคน จะได้เกิดและเติบโตในโลกใหม่ที่สวยงามและมีสันติสุข และพยายามกระทำสิ่งดีทุกอย่าง เพื่อหวังให้พระเจ้าทรงเมตตาและทรงยกโทษบาปให้เขา และเมื่อพระเจ้ายกโทษให้เขาและเขาเป็นคนชอบธรรมในสายตาพระเจ้าแล้ว เขาจะขอทำสิ่งที่ดีต่อเพื่อไถ่บาปความผิดของพ่อและแม่ต่อไป



-ฮาริสัน
หัวหน้าเผ่าฟูดินัน เป็นคนพูดน้อย ยิ้มแย้ม และอ่อนโยน ชอบปกป้อง มีเหตุผลและหนักแน่น จึงเป็นสไตล์ผู้ชายที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะแต่งงานด้วย เป็นคนเข้ากับคนง่าย และนอบน้อม คิดว่าอยากให้สงครามสงบเร็วๆ เพื่อวิถีชีวิตอันเรียบง่ายจะได้กลับมา การดูแลคนในเผ่า เหมือนเป็นพี่ใหญ่ที่ดูแลน้องๆ ไม่ชอบระบบระเบียบเคร่งครัด


-วานาอัน
ถูกดูแลและทนุถนอมแต่เด็ก เป็นคนขี้สงสาร ปรกติจะยิ้มตลอดเวลายกเว้นเวลาเศร้า มักเออออตามคนอื่น ถ้าไว้ใจใครก็จะเชื่อเขาหมด ไร้เดียงสา และออกจะซื่อๆ มองโลกในแง่ดี ชอบสื่อกับธรรมชาติรอบตัว และมีพรสวรรค์ในการสื่อกับธรรมชาติโดดเด่น เมื่อก่อนชอบเดินตามพี่ชาย ต่อมาเก็บอิสฮานมาเลี้ยงจนอิสฮานมาเป็นเด็กที่คอยตามตน เลยรู้สึกว่ามีสิ่งที่ต้องดูแลทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมา จนวันนึง อิสฮานเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่เป็นฝ่ายปกป้องตน ก็เลยกลายเป็นคนที่เธอไว้ใจและเชื่อใจ และเมื่ออิสฮานรู้ใจตนเองเผยความรักที่มีต่อเธอ เธอจึงเกิดสับสนลึกๆในใจ แต่แล้วมันก็เปลี่ยนแปลงเป็นการยอมรับอย่างช้าๆโดยเธอไม่รู้ตัว ก็ผู้ชายที่เธอไว้เนื้อเชื่อใจมีแค่3คนคือท่านปู่ พี่ชาย แล้วก็อิสฮานเท่านั้นนี่


-วูจิน
แก่แต่ไม่ใช่แก่เพราะอยู่มานาน แต่แก่วิชาความรู้ และปรัชญาธรรมชาติ มองทุกอย่างลึกซึ้ง เป็นคนที่ชอบเล่าชอบสอน ชอบพูดอะไรเป็นปรัชญา ชอบเดินเล่นฟังเสียงนกร้องแมลงร้อง เจ้าตัวบอกว่าฟังนกคุยกัน แมลงซุบซิบกัน หลายๆคนในฟูดินันเชื่อว่าแกคงฟังออกจริงๆ รักหลานสองคนมาก และเป็นคนสำคัญของเผ่าที่ใครๆก็ต้องมาถามความเห็น ราวกับเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของเผ่า ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องอยู่ทนดูวันสงครามสงบให้ได้ ไม่ยอมแก่ตายในสงครามเด็ดขาด ที่แกกล้าตั้งเป้าแบบนี้ เพราะแกแน่ใจว่าอยู่ถึงจริงๆ เพราะคำนวนคร่าวๆถึงสถานการณ์ทุกอย่างไว้แล้ว คอยสอนอิสฮานเมื่อตอนกระเด็นมาตกที่ฟูดินัน และไว้วางใจให้ดูแลหลานสาว เป็นคนที่ทำให้อิสฮานรู้สึกว่าตัวเองเป็นชาวฟูดินันขึ้นมาได้ เป็นคนที่ทุกเผ่าในป่าฟูดินันเกรงใจ แม้แต่เผ่าที่เคยเป็นศัตรูอย่างป่าทมิฬ


-ฟูมิน
หัวหน้ากองโจรแห่งป่าทมิฬ อดีตเผ่าป่าทมิฬเคยทำสงครามกับเผ่าฟูดินันมาก่อน จนสงบศึกลงไปได้ หลังการตายของพ่อของฮาริซัน แต่หลังจากสงบสุขกันได้ไม่นาน ดันโดนซาโลมบุกเผา ในครั้งนั้นป่าทมิฬเสียหายมากที่สุด เมื่อฮาริซัน ตั้งประเทศตามคำแนะนำของเจ้าหญิงอลาน่า ป่าทมิฬแตกออกเป็นสองความเห็น คือยอมรับ นำโดยพวกคาน กัส ดามิกา และพวกไม่ยอมรับ หนีเข้าไปเป็นโจรป่าคอยก่อปัญหาในฟูดินัน  นำโดยฟูมิน ซึ่งเจ็บแค้นที่บ้านตัวย่อยยับ ช่วยกันทำสงครามต้าน แต่ฟูดินันดันชิงขึ้นเป็นผู้นำ เป็นคนที่เคยอยู่ในสงครามครั้งก่อนด้วยเลยฝังใจหลายอย่าง รักพวกพ้องมาก คิดถึงพวกตัวเองก่อน ต่อให้พวกตัวผิดก็จะเข้าข้างและร่วมรับผิดชอบ ลูกน้องเลยจงรักภัคดีแบบถวายชีวิต สาบานเป้นพี่น้องกับเอนช่า และทากะ จึงเป็นกองโจรที่น่ากลัวมาก แต่สุดท้ายพ่ายแพ้อิสฮานที่ฉลาดกว่า เลยฆ่าตัวตาย


-เอนชา
บ้าพลังไม่มีสมองเท่าไหร่ จงรักภัคดีกับฟูมินมาก ตายแทนฟูมินได้ ทำทุกอย่างตามที่ฟูมินสั่ง เมื่อฟูมินตายก็สู้จนตายตาม


-โจซาน
ขี้คุย ขี้โม้ ขี้อวด ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ชอบโฆษณาเกินจริง รู้สึกสนุกสนานเวลาขายของได้เยอะๆ ประมาณยิ่งขายยิ่งมันส์ พูดถูกใจลดแหลกแจกแถม
 


-อันดีน
เทพี่แห่งสายชล อยู่ในทะเลสาปนีรันดา ไม่ใช่ใครก็จะเจอตัวได้หรอก เจอตัวจริงๆก็ไม่พูดหรอกพวกเทพน่ะ นอกจากเขาจะมีเรื่องที่ต้องการบอก เขาถึงจะพูดกับมนุษย์กัน



-ดามิกา
เป็นพวกป่าทมิฬระดับผู้นำ มีความสามารถเลี้ยงสัตว์ได้หลากหลาย เป็นชาวป่าทมิฬที่เป็นมิตรกับเผ่าอื่น และมีความคิดว่าอยู่ป่าเดียวกันจะกัดกันทำไม นับถือในตัววูจิน กล้าหาญ และชอบลืมว่าตัวเองเป็นผู้หญิง


-พี่จิง !?! (อันนี้ไม่ต้องก็ได้)
อ้วน

« Last Edit: April 30, 2003, 06:28:12 AM by ฟีโนมีนอน ปาร์ตี้ » Logged


โยศิ, องเมียวดอกซากุระ
Member
*****
Offline Offline

Posts: 3805


Email
« Reply #2 on: April 30, 2003, 12:15:12 PM »

....ได้รุเรื่องเพิม่เยอะเลย
ขอมั่งสิคะ
-บลาสเซจพูริก้า
-แบล็คไวเซอร์
-โทนิม่า
-ชาลส์
-เกรกอรี่
-มาสิลิโอ้
-เอมม่า
-ทีโมธี
-เมลานี
แค่นี้ล่ะ
(พวกมีชื่อ แต่ประวัติคลุมเคลือ)
Logged


วายุดำ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 86


Email
« Reply #3 on: April 30, 2003, 09:37:28 PM »

ขอบคุณมากครับพี่ปอ  :)










ปล.พึ่งรู้นะเนี่ย ว่า Ishan เป็นพวก พลัง Obacon โอ้ๆๆๆๆๆ
ปปล. พี่จิง-นอกจากที่พี่ปอบอกยังมี "ชอบปล่อยไก่" อีกอันนึงนิครับ  ;D
« Last Edit: April 30, 2003, 09:50:38 PM by วายุดำ » Logged


dynamite
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 29


Email
« Reply #4 on: May 01, 2003, 01:01:47 AM »

เหอ เหอ แล้วถ้าจะขอรู้นิสัยของเผ่า(บริษัท)phenoฯมั่งได้มะคับ  :D?
Logged


Son of Fire
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 467


Email
« Reply #5 on: May 01, 2003, 01:19:07 AM »

อยากรู้ประวัฒบลาจเซจทุกเวอชั่นเลย
ภาค
D4K
Sec
Ekk(มี2เวอชั่น)
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #6 on: May 01, 2003, 06:35:44 AM »

-บลาสเซจพูริก้า

เป็นนักเวทย์ที่บลาสเซสสร้างขึ้นจากเวทย์มนต์ ทำตามออเดอร์คือคอยคุมทหาร และกองทัพไม่ให้หือ ข้างในกลวงๆเป็นควัน เลยใส่เสื้อผ้ามิดชิดให้เห็นรูปร่าง มีดวงไฟตรงตา ภาพที่มองจะส่งตรงไปที่บลาสเซส



-แบล็คไวเซอร์

แนะนำให้ไปอ่านเดอะก๊าซ เรื่องซาโลมอนอาคาเดมี่



-โทนิม่า

ลูกน้องดามิกา




-ชาลส์

เป็นนักดาบรุ่นพี่คอยเป็นพี่เลี้ยงซิกมันด์ เป็นตระกูลขุนนาง


-เกรกอรี่

แนะนำให้ไปอ่านเดอะก๊าซ เรื่องซาโลมอนอาคาเดมี่



-มาสิลิโอ้

เป็นคาดินัลของแอนดิซอง ยึดถือคุณธรรมเคร่งครัด และเข้มงวดกับกฎ และบทบัญญัติต่างๆมาก อ่านจากเค้าเตอร์สิน่าจะดูนิสัยออก


-เอมม่า

หัวหน้านักบวชหญิงที่ส่งมาประจำกองทัพศาสนจักร แต่ไม่ได้เป็นแม่ชีในคณะของซิสเตอร์โรซาน่ากับอลาน่าหรอกนะ คณะของซิสเตอร์โรซาน่านั้นเน้นกิจเมตตา ส่วนเอมม่าเน้นภารกิจราชการ ประมาณเหมือนพระวัดป่า กับพระในเมือง เน้นคนละจุดกัน


-ทีโมธี

แนะนำให้ไปอ่านเดอะก๊าซ เรื่องซาโลมอนอาคาเดมี่


-เมลานี

แนะนำให้ไปอ่านเดอะก๊าซ เรื่องซาโลมอนอาคาเดมี่


[attachment deleted by admin]
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #7 on: May 01, 2003, 06:41:03 AM »

   สวัสดีครับเจอกันครั้งแรกนะครับสำหรับคอลัมม์การ์ดนี้มีตำนาน เคยสงสัยบ้างไม๊ครับ ว่าการ์ดแต่ละใบนั้นใครเป็นใครมีความเป็นมาอย่างไร ในภาคนิยายเราจะเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆเป็นหลัก ดังนั้นในส่วนของตัวละครบางตัวเราอาจไม่ได้กล่าวถึงมากนัก คอลัมภ์นี้ จึงได้นำข้อมูลจากทาง Phenomenon Party เจาะลึกรายละเอียดการ์ดบางใบให้ได้ทราบกัน  
บุคคลสามคนซึ่งมีนามว่า Gregory, the Bishop of Felasia กับ Black Wiser และ Timothy, the Inventor of Felasiaทราบหรือไม่ว่าทั้งสามคนเคยรู้จักกันมาแต่เด็ก ทั้งสามเป็นชาวฟิเลเซีย ที่อาณาจักรฟิเลเซียมีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ มีผลการเรียนที่อยู่ในระดับสูงซึ่ง Gregory เป็นเด็ก เรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก Gregory เป็นเด็กที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับสูงมากในทุกวิชาและสูงที่สุดของทั้งสามคน ส่วนผลการเรียนของBlack Wiser มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า Gregory แต่ทว่า ไม่เคยมีผลการเรียนที่ดีไปกว่า Gregory เลยแม้ซักครั้งและ Timothy ก็เป็นนักเรียนอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้ทั้งสองเลยเพียงแต่นิสัยส่วนตัวของ Timothy จะตั้งใจเรียนในวิชาที่ตนเองชอบเท่านั้น และได้คะแนนสูงสุดสูงในเฉพาะบางวิชาสูงกว่า Gregory เสียอีก
Timothy ชอบที่จะค้นคว้าทดลองประดิษฐ์และจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก ชนิดลืมเป็นลืมตาย เขาเคยขึ้นไปบนภูเขาวาลฮาลเพื่อเก็บเปลือกไข่ ของกริฟฟินสีน้ำเงินที่ดุร้าย หลังจากที่โดนมันจิกจนบาดเจ็บหนักต้องนอนรักษาตัวถึง2สัปดาห์ เขาก็ยังกลับไปใหม่เพื่อเก็บตัวอย่างขนสีน้ำเงินของมันโดยไม่ใส่ใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งโดนทำร้ายมา  คนทั่วไปจึงมองว่าเขาออกจะเพี้ยนๆ Timothy ชอบที่จะถามปัญหาประหลาดๆกับ Gregory จน Gregory คิดว่าเค้าถามกวนประสาท แต่ที่จริงเพราะ Timothy ชอบเพื่อนคนนี้ และชอบที่จะได้ยินคำตอบที่ดูทรงภูมิรู้ของ Gregory มากกว่า
Gregory เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สมบูรณ์แบบทั้งความประพฤติ กริยามารยาท และวิชาความรู้ เป็นคนยิ้มง่าย และเป็นที่รักของคนอื่น เค้าจึงได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนในพิธีการต่างๆของโรงเรียนเสมอ เมื่อว่างจากการอ่านหนังสือในหอสมุด เค้าจะเข้าไปภาวนาสนทนากับพระเจ้าในโบสถ์
 Black Wiser สมัยเด็กมีชื่อว่า Kerwin เขาพยายามเสมอที่จะเป็นหนึ่งเหนือ Gregory แต่ด้วยความที่เรียนอย่างคร่ำเคร่งมากเกินไป เขาจึงเป็นคนที่เคร่งเครียดตลอดเวลา พ่อแม่ซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงของเขากดดันให้เขาเรียนเก่งที่สุด เพื่อจะได้เป็นหน้าเป็นตาของตระกูล และมักเปรียบเทียบเขากับ Gregory เสมอ Kerwin จึงคิดว่า  Gregory  คือตัวมารที่เกิดมาเพื่อทำลายความสุขในชีวิตเขา
เมื่อทั้ง3เรียนถึงระดับ7 ก็ถึงเวลาที่จะเรียนวิชาพื้นฐานที่จะ แยกสายที่ผู้เรียนจะสามารถเลือกสายที่ตัวเองต้องการได้ Timothy ได้เลือกสายนักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งหลังจากเรียนครบ3ปี จะสามารถเลือกเรียนเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักคำนวน นักประดิษฐ์ ฯลฯ ด้วยการไปสมัครเป็นศิษย์ของอาจารย์ในสายอาชีพที่ต้องการต่อไป ที่นี่ Timothy ได้พบเด็กชาว Annedisonge คนหนึ่งซึ่งมาเรียนรู้วิทยาการทางการรบ แต่ท่าทางเค้าไม่ค่อยเป็นมิตรกับ Timothy นัก
Gregory  และ Kerwin เลือกเรียนในสายวิชา เวทยาการ ซึ่งเรียนทั้งในเรื่องตามธรรมชาติไปจนถึงในสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่อครบ2ปี จะสามารถเลือกแยกสายศาสนา ปรัชญา หรือเวทย์มนต์ได้ ทั้งสองยังคงแข่งขันด้านการเรียนกันเสมอมา จนเข้าปีที่2 Gregory ผู้ไฝ่ฝันที่จะบวชเป็น ผู้รับใช้พระเจ้า เลือกเรียนสายศาสนา และเข้าศึกษากับโบสถ์แห่งฟีเลเซีย ซึ่งต่อมา Gregory ได้เข้าบวชเป็นพระสงฆ์ และได้ตำแหน่งระดับสังฆราช หรือ  Bishop อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากนั้นได้ทำงานช่วยเหลือราชวงค์ Felasia ส่วน Kerwin ซึ่งเรียนมาด้วยกันแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเรียนได้ดีเกิน Gregory ซึ่งเป็นสิ่งที่ Kerwin เก็บมาคิดโดยตลอด จึงหันเข้าสู่เส้นทางแห่งความมืด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไม่มี Gregory เขาเลือกเรียนสายเวทย์มนต์ และแยกออกไปเรียนด้านมนต์ดำ ซึ่งเป็นเส้นที่ตนเองคิดว่าทางนี้แหละจะทำไห้ตัวเองเก่งกว่า Gregory เมื่อเขาทำพิธีเรียก Familiar (สัตว์หรือภูติรับใช้ของนักเวทย์) ความเกลียดชังและความทะเยอทะยานของเขา ได้เรียกนกปีศาจจากนรก คือ Hellish Bird และอยู่กับเค้าเสมอมา จากนั้น Kerwin จึงออกเดินทางไปเพื่อหาบรรดานักเวทย์นอกรีต และพ่อมดหมอผีที่ชั่วร้าย ทางด้านนี้  Kerwin ได้ศึกษาจนกระทั่งตนเองได้รับยกย่องจากบรรดาผู้ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกันว่าเป็น Black Wiser ผู้ที่ปราดเปรื่องในด้านนี้ในเวลาต่อมา
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Timothy ถึงธาตุไฟทั้งที่อยู่ฟีเลเซีย ก็เพราะเขาเป็นนักประดิษฐ์ที่ชอบทดลอง สร้างโน่นสร้างนี่ เกิดระเบิดโครมครามตลอดเวลา ประกอบกับนิสัยที่ออกบ้าบิ่น ธาตุต่างๆไม่ได้ขึ้นกับประเทศเสมอไป ทั้งสามเป็นชาวฟีเลเซีย แต่ไม่มีใครธาตุลมเลย
ฉบับหน้าพบกับ การผจญภัยของ Timothy การค้นพบ Delta-D ซึ่งเป็นหุ่นจากวัฒนธรรมตกค้าง และหุ่นประป๋อง Tinton นะครับ ฉบับนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #8 on: May 01, 2003, 06:42:29 AM »

เทพธรรมชาติแห่งฟูดินัน

การ์ดนี้มีตำนานฉบับนี้เราจะมาเล่าถึงเทพธรรมชาติของฟูดินันกันครับ

อย่างที่ทราบว่าชาวฟูดินัน ใกล้ชิดธรรมชาติ เชื่อว่าในธรรมชาติ มีจิตวิญญาณ
และนับถือธรรมชาติเป็นเทพด้วยทีนี้เรามาดูกันว่าชาวฟูดินันนับถือเทพจากธรรมชาติอะไรกันบ้าง

Yggdrasil เทพแห่งชีวิต
ต้นอิกดราซิลเป็นต้นไม้ใหญ่เป็นต้นไม้มหัศจรรย์ที่ใหญ่โตสูงเท่าภูเขาคีรีบันดาเลยทีเดียว ลำต้นของมันใครคนจับมือกันยืนล้อมได้100คน
ใบมีสีเงิน ที่อยู่มานาน นานมากจนไม่มีใครรู้ว่านานเท่าใด และอายุเท่าใด มันไม่เคยเหี่ยวเฉา มีแต่การผลัดใบซึ่งเมื่อผลัดใบ
พื้นที่บริเวณนั้นจะเป็นดั่งพื้นพรมสีเงิน ที่ลำต้นยักษ์มีสัญลักษณ์ประหลาดอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าหมายถึงอะไร
แต่ชาวฟูดินันเขียนสัญลักษณ์นี้ลงบนเครื่องมือทางการเกษตรของเขา เชื่อว่าจะทำให้พืชผลอุดมสมบูรณ์
มหาพฤกษานี้ยังมีความประหลาดอยู่อีกตรงที่แง่งรากของมันอันหนึ่งมีลำธารไหลออกมาจนขยายเป็นแม่น้ำ ใหญ่ไหลสู่ทะเลสาปนีรันดา
ชาวฟูดินันมองว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติที่ต้นไม้จะให้น้ำแทนที่จะดูดน้ำ จึงนับถืออิกดราซิลเป็นเทพแห่งชีวิต
แต่เมื่อครั้งที่ทิโมที เดินทางมาวิจัยอารยธรรมโบราณในฟูดินัน เค้าได้บันทึกไว้ว่า ".......ข้าพเจ้าสัษนิฐานว่า อาจมีตาน้ำใต้ดินและเผอิญต้นอิกดราซิลนี้ไปขึ้นอยู่บนนั้น
จึงดูเหมือนมีน้ำไหลออกจากรากของมัน และด้วยความที่มันขึ้นและมีรากติดกับตาน้ำใต้ดิน จึงอาจเป็นเหตุผลที่มำให้อิกดราซิลไม่เคยเหี่ยวเฉา และกลายเป็นต้นไม้ใหญ่โต
แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่เข้าใจในสีประหลาดของใบ ซึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน และการสำรวจของข้าพเจ้า ไม่มีต้นไม้ใดในป่า
และไม่มีต้นไม้ใดในโลกที่มีลักษณะใบสีเงินเช่นนี้ นอกจากนี้ยังไม่เคยมีใครเห็นผลและเมล็ดของมัน ต้นไม้แบบอิกดราซิลอาจมีต้นเดียวในโลก......."
เมื่อครั้งนอร์ริมอร์เผาป่าฟูดินัน อิกดราซิลได้คายน้ำออกจากใบสีเงินอย่างรวดเร็ว ไอน้ำจากจำนวนใบนับล้านสร้างเมฆก้อนใหญ่ให้ฝนตกดับไฟเป็นที่อัศจรรย์
บางครั้งเปลือกแก่ของอิกดราซิลกระเทาะออกมาชาวฟูดินันจะนำไปสร้างเครื่องรางต่างๆ และนำไปขาย เปลของซาร์ อิสฮานเอง
ก็ทำจากเศษเปลือกของอิกดราซิลที่หมู่บ้านช่างสลักทางใต้ของซาโลม ซื้อจากพ่อค้าเร่ชาวฟูดินัน

Punishula สัตวเทพผู้ปราบมาร
ในตำนานของชาวฟูดีนัน กล่าวกันว่า เมื่อเทพบารามันผู้ปกปักษ์ดูแลชาวโลกทรงเหนื่อยล้ากับภารกิจ อันไม่มีวันจบสิ้นนี้ ทรงอยากพักผ่อนในห้วงสวรรค์ ทรงหาวออกมาเป็นมัฉฉากึ่งวิหกสีขาวราวน้ำนมมีลายสักอักขระอันศักดิ์สิทธิ์ และเขาอันแหลมคม ก่อนจะพักบรรทมทรงสั่งเจ้ามัจฉาประหลาดที่โบยบินอยู่ว่า
"กายเจ้ามาคือลมอุ่นจากโอษฐ์เรา วิญญาณเจ้ามาจากความห่วงใยในมนุษย์ของเรา เราให้พรเจ้าให้ไม่มีภูตผีปีศาจตนใดทำอะไรเจ้าได้ เขาอันบริสุทธิ์ของเจ้าคือดาบที่ใช้ประหารเหล่าปีศาจร้าย ตลอดเวลาที่เราอยู่ในห้วงนิททราเจ้าจงเสาะหาเหล่าปีศาจอันมีอยู่ในโลกเถิด เจ้าจะชนะเหล่ามารด้วยความสนุกสนานเป็นสัญชาติญาณ"
ดังนั้น เมื่อใดที่องค์เทพนิททราPunishulaจะออกมาไล่ล่าเหล่ามารด้วยความสนุกสนาน จนมีคำกล่าวว่า"เมื่อบารามันหลับไหล ผู้ที่ฝันร้ายคือเหล่ามาร" เมื่อบารามันตื่นขึ้น ก็จะทรงสูดลมหายใจนำมัจฉาขาวกลับเข้าพระกายทิพย์

Angorion เทพราชสีห์
แองโกริออน เป็นสัตวเทพ ที่มากับเมฆหมอก อาศัยอยู่บนคีรีบันดา ไม่เคยมีใครเคยสัมผัส มีแต่เพียงเคยเห็นเท่านั้น เพราะแองโกริออน จะปรากฎในม่านหมอกทึบ และหายไปในสายหมอกนั้น
ยากที่ใครจะจับหรือหาเจอได้ เชื่อกันว่าแองโกริออน จะปรากฎกายเมื่อมีภัยอันตราย เหมือนเป็นการเตือนภัย และหากแองโกริออนส่งเสียงร้องออกมา แสดงว่าจะมีภัยธรรมชาติ แต่หากคำราม แสดงว่าจะเกิดเรื่องดีขึ้น
เมื่อครั้งก่อนที่ทัพซาโลมจะโจมตีฟูดีนัน มีข่าวลือหนาหูจากชาวบ้านที่ไปเก็บของป่าบนภูเขาว่า เห็นแองโกริออน ดังนั้นการเห็นโดยปราศจากเสียงใดๆ จึงเป็นการเตือนภัยนั่นเอง

Python มังกรเทพผู้พิทักษ์คีรีบันดา
เทือกเขาคีรีบันดาที่ใหญ่โตและสลับซับซ้อน ยังเป็นที่อยู่ของมังกรสองหัวไพทอน มังกรสองหัวนี้ ตัวใหญ่โตแต่กินพืชหญ้าเป็นอาหาร ไม่เคยออกจากบริเวณหุบเขาเลย ไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิต
แต่มังกรไพทอนนี้ จะมีสัมผัสไวต่อสภาวะจิตของสิ่งมีชีวิต หากมีจิตที่ไร้พิษสงเช่นชาวบ้านที่เก็บฟืนหรือหาของป่า มันจะไม่ทำอะไร แต่หากมีจิตที่หวาดกลัววุ่นวายเช่นเวลามีภัยธรรมชาติ มันก็จะกดดันอึดอัด
ส่งเสียร้องและกระสับกระส่าย เมื่อคราวที่ทัพซาโลมยกมาประชิด ทันใดที่ทหารโห่ร้อง ไพท่อนก็เริ่มหงุดหงิด เมื่อจิตเข่นฆ่านับแสนถูกปลุกเร้าเพื่อการรบ ไพทอนก็คลุ้มคลั่ง
โจมตีใส่ทหารซาโลมจนแตกทัพไม่เป็นขบวน และเมื่อยิ่งทหารมีจิตสู้มันยิ่งโกรธ เมื่อทหารเริ่มหวาดกลัว มันก็ยังกระสับกระส่ายอาละวาด จนทัพซาโลมที่สู้กับมันถึง3วันสามคืนต้องถอยออกไปตั้งหลักไกลจากบริเวณเทือกเขา
เมื่อไร้จิตที่เป็นอกุศล ไพท่อนจึงสงบลงได้

Harvest Spirit ภูตเก็บเกี่ยว
ว่ากันว่าต้นหมากรากไม้ใดที่มนุษย์ไม่ได้เก็บกิน ภูติเก็บเกี่ยวจะเป็นผู้เก็บเกี่ยวและทิ้งมันลงสู่พื้นดิน เพื่อให้เจริญงอกงามต่อไป
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสาวชาวนาที่บิดาล้มป่วย เมื่อข้าวของเธอสุก เธอไม่มีเวลาที่จะเก็บเกี่ยวได้เพราะต้องดูแลพ่อ เธอเสียดายนักที่ปีนั้นผลผลิตดี
แต่ข้าวมากมายกลับต้องปล่อยทิ้ง ให้นกกากิน และตกสู่พื้น เธอจึงขอร้องต่อภูติเก็บเกี่ยวให้รอเวลาที่พ่อเธอจะหายดี อย่าเพิ่งเกี่ยวข้าวของเธอลงพื้น
วันรุ่งขึ้นข้าวทั้งหมดกลับถูกเกี่ยวหมดทั่วท้องนา เธอตกใจร้องไห้ ได้มีชายคนหนุ่มคนหนึ่งถือเคียวรูปร่างประหลาด มาปลอบเธอและบอกว่า
ข้าวทั้งหมดของเธอเขาได้ช่วยเกี่ยวไว้ให้และได้เก็บไว้ในยุ้งฉางของเธอ เธอซาบซึ้งในน้ำใจชายหนุ่มนิรนาม จึงได้ทำอาหารเลี้ยงเขา และเมื่อเขาจากไปเธอได้พยายาม
ไถ่ถามคนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครเคยเห็นหรือเคยรู้จักชายคนนั้นเลย
ชาวฟูดินัน จึงมีประเพณี บูชาภูติเก็บเกี่ยว โดยจะช่วยเก็บเกี่ยวข้าวให้คนในหมู่บ้านที่ไม่มีคนงาน โดยเมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จ บ้านนั้นจะทำอาหารเลี้ยงผู้ที่มาช่วย และร้องเพลงรื่นเริงที่มีเนื้อหาเล่าถึงสาวชาวนาและภูติหนุ่ม

Undine เทพีสายน้ำแห่งทะเลสาปนีรันดา
ทะเลสาปนีรันดา เป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวฟูดีนัน เชื่อกันว่าในทะเลสาปที่ใสบริสุทธิ์ เป็นที่สถิตย์ของเทพีแห่งสายชล
เมื่อคราวไฟไหม้ป่าฟูดินัน เทพีอันดีน ได้ทำให้น้ำไหลเอ่อล้นขึ้น และยังควบคุมให้กระแสน้ำไหลขึ้นทางเหนือเพื่อช่วยดับไฟด้วย

Megalasta ปลาวาฬกินเมฆ
เมกาลัสทา คือบริวารของเทพีเรนาผู้ควบคุมสายฝน ปลาวาฬยักษ์จะบินไปมาบนฟ้า ร้องคำรามเป็นเสียงครืนครัน เมื่อนั้นเมฆจะกลายเป็นฝน ขนาดของเมกาลัสทาไม่แน่นอน ถ้าตัวใหญ่จะเปลี่ยนเมฆได้ก้อนใหญ่ ถ้าตัวเล็ก จะเปลี่ยนได้แค่เมฆก้อนเล็ก
ชาวฟูดินัน มีพิธีบวงสรวงบูชาข้าวปลาอาหาร เพื่อให้เมกาลัสทาตัวโต จะได้มีฝนมาก
*ท่านจะได้เห็นการ์ดเมกาลัสทาใน Episode9 Ekklesia

ความจริงยังมีเทพธรรมชาติอีกมากในฟูดินัน แต่ตอนนี้เอาเท่าที่เราเคยเห็นในการ์ดหรือกำลังจะได้เห็นกันก่อนครับ
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #9 on: May 01, 2003, 06:57:57 AM »

โรงเรียนที่เกรกอรี่และทิโมทีเรียนในฟีเลเซียชื่อ ซาโลมอนอคาเดมี่

ตั้งก่อนการเกิดสงคราม121ปี เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงที่สุด และสอนแต่เหล่าลูกคนชั้นสูง ขุนนาง และผู้รับราชการเท่านั้น สอนวิชาเกี่ยวกับการปกครอง ศาสนา ศิลปะการใช้ดาบ และวิทยาศาสตร์

ต่อมาหลังสงคราม เมื่อฮารีซันและเรจิน่าแต่งงานกัน พื้นที่ราบบริเวณชายแดนของฟีเลเซียและฟูดินันคือแคว้นวาเนียน ซึ่งแท้จริงมีเต่าอยู่ที่ฐานเมื่อบินขึ้นย้ายไปตั้งเป็นเกาะในทะเล เนื่องจากสงคราม ก็เป็นที่ว่างเปล่า ที่นั่นกลายเป็นที่ตั้งเมืองใหม่ชื่อ มิราบิลิส(Mirabilis) โดยมีเจ้าชายเอลียาห์ บุตรชายคนแรกของฮารีซันกับเรจีน่า เป็นผู้ปกครองคนแรก
เมืองนี้เป็นเมืองบริวารของฟีเลเซียต่อมาจึงแยกตัวเป็นเอกราชในอีก139ปีต่อมา

มิราบิลิส มีบรรดาลูกครึ่งฟีเลเซีย และฟูดินันมากมาย โดยจะมีลักษณะเฉพาะ2แบบ คือ
1. ผมสีน้ำตาล ตาสีเขียว
2. ผมมีสองสีปนกันในศรีษะคือทองและน้ำตาล ตาสีดำ
เมืองนี้มีลักษณะพิเศษคือได้รับความเจริญจากฟีเลเซียและแอนดิซอง และอุปนิสัยสนุกสนานเรียบง่ายแบบฟูดินัน  ในทางกลับกัน มีความใจดีมีน้ำใจน้อยกว่าฟูดินัน  และมีความมุ่งมั่นจริงจังน้อยกว่าชาวฟีเลเซีย

เมื่อดินแดนนี้ได้รับเอกราชครบ75ปี ได้มีการตั้งโรงเรียนขึ้นโดยนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่  เซคาริยาห์ มาวิน ต้องการตั้งโรงเรียนสำหรับทุกคน ทุกชนชั้นและทุกอาชีพ และทุกชนชาติ

เซนต์ อไควนัส อคาเดมี จึงก่อตั้งขึ้นด้วย3คณะหลักในครั้งแรก ประกอบด้วย
1.เวทยาการ
2.ศิลปะการต่อสู้
3.วิทยาศาสตร์
ทุกสาขาวิชาต้องเรียนศาสนา และจริยธรรม ก่อนจะแยกย่อยออกไปโดยมีอีก7สาขาแยกย่อย และอีก15วิชาเอกและอีกหลายร้อยClass จนกล่าวได้ว่าเป็นโรงเรียนที่สอนอาชีพได้ครอบคลุมที่สุดในโลกภายในเวลา53ปีต่อมา

มาธิอัสไบล์ธ นักมังกรศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงเกิด เมื่อโรงเรียนนี้อายุได้12ปี และต่อมาเมื่อเขาอายุ39ปีได้เป็นอาจารย์สาขามังกรศาสตร์ โดยเป็นหัวหน้าภาควิชาที่ซาโลมอนอาคาเดมี่ และรับเชิญสอนที่ เซนต์อไควนัว อาคาเดมี่ เมื่ออายุ45ปีด้วย

หลังจากมาธิอัสเสียชีวิตได้5ปี ลูกศิษย์รุ่นสุดท้ายของเขา รีเบคก้า ได้เป็นนักมังกรศาสตร์หญิงที่มีชื่อเสียง จากเซนต์อไควนัสอาคาเดมี่ สามารถเลี้ยงลูกมังกรแสงจนเติบโต(นอกจากในธรรมชาติ และในวิหารเซนต์ลอเรนซ์ ไม่มีใครเลี้ยงลูกมังกรขาวสำเร็จ) และมังกรของเธอเป็นมังกรในตำนานที่มีเพียงตัวเดียวในโลกที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์
และเธอได้ เขียนอธิบายทฤษฎีของมาธิอัสให้ละเอียดยิ่งขึ้น แต่เธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะผสมมังกร6ธาตุ เพราะเธอยกย่องมาธิอัสมาก และไม่คิดว่ามีใครสมควรที่จะทำการทดลองนี้นอกจากตัวของเขาเอง
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #10 on: May 01, 2003, 07:00:13 AM »




แท้ที่จริงลาซาลอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซาโลม มีเขตติดทะเล มีส่วนที่เป็นเกาะ ส่วนที่เป็นทะเลทราย ดังนั้น ลาซาลจริงๆแล้วสามารถมีได้มากกว่าธาตุไฟ Ep10 อิสฮานเดินทางอ้อมทวีปขึ้นฝั่งลาซาล เมื่อเยซีฮานกับอิสฮานเผชิญหน้ากัน ก็เป็นการพบหน้าของลูกศัตรูกับผู้ทรยศพ่อ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ทำไม เจ้าหญิงแห่งลาซาลจึงติดตามอิสฮานเข้าซาโลม ทำไมแควันเล็กๆอย่างลาซาลถึงตีไม่แตกซักที
Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #11 on: May 01, 2003, 07:02:13 AM »

......เด็กหนุ่มผิวเข้มทอดอาลัยนัยตาคมแฝงความเศร้า กล่าวว่า
"เมื่อน้ำและดินให้ชีวิต ไฟกลับกลายเป็นผู้เผาผลาญทำลาย หากเลือกได้ คงไม่มีใครอยากเป็นดั่งไฟ"
นักบวชยิ้มราวนักบุญ ทอดสายตาอันเมตตามายังเด็กหนุ่มผู้เศร้าสร้อย
"อิสฮานน้องชายชั้น ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าสร้างมาเพื่อสร้างความทุกข์และความพินาศต่อผู้อื่นๆหรอกจ้ะ  
เธอจงมองไปยังดวงอาทิตย์สิ ไม่ได้เผาผลาญสิ่งอื่นเพื่อตัวเองเหมือนไฟทั่วไป
หากแต่เผาผลาญตัวเองเพื่อเป็นแสงสว่างส่องโลก ดวงอาทิตย์จึงกลายเป็นไฟที่ยิ่งใหญ่กว่าไฟทั้งมวล
แทนที่เธอจะเลือกเป็นสิ่งอื่นๆเธออาจเลือกเป็นไฟอันประเสริฐที่สุดได้"


เด็กหนุ่มดวงตาเป็นประกายเอ่อล้นด้วยน้ำตา คำพูดที่เคยได้ยินมาแต่เยาว์พลันก้องขึ้นในหัว ความหวังที่ทุกคนรอคอยว่าเขาจะเป็นดวงอาทิตย์ที่ยิ่งใหญ่กว่าบิดา แต่บัดนี้ราวกับว่าระหัสอันสำคัญได้ถูกไขแสดงในวิถีทางที่ศักดิ์สิทธิ์กว่า
"ซิสเตอร์อลาน่าครับ ผมจะเป็นดวงอาทิตย์ได้อย่างไร…..ผมเป็นหนี้เลือดของคนทั้งทวีป เพราะคำว่าเป็นดวงอาทิตย์ เป็นเหตุให้ชีวิตของคนมากมายต้องถูกทำลาย…..แต่สุดท้าย ณ วันนี้ ผมเป็นได้เพียงผงคลีดิน และผมมีความสุขดีกว่า"


ซิสเตอร์อลาน่าลูบผมหยักศกสลวยของเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู
"พระอาทิตย์อาจเพียงอาศัยผืนดินในการอิงกายพักผ่อน เมื่อถึงเวลามันก็ต้องลอยขึ้นจากผืนดินเพื่อเป็นแสงสว่างส่องโลก"
"ผมทำไม่ได้…ผมไม่ใช่…ผมเป็นชาวฟูดินัน ผมรักเจ้าหญิงของผม"
เด็กหนุ่มเสียงสั่นเครือ อดีตอันถูกเก็บกักเริ่มถาโถม


"น้องชายของชั้น เธอจะเป็นดวงอาทิตย์ได้ก็ต่อเมื่อเธอเผาผลาญตัวเองเพื่อผู้อื่น และเป็นแสงสว่างส่องโลก และชั้นไม่เคยใส่ใจว่าเธอเคยเป็นใคร หรือเคยมีความผิดบาปอันใด วานาอันเองก็คิดเช่นนี้ แต่ทำไมตัวเธอเองจึงเลือกที่จะแบกความทุกข์อันมหันต์นี้ไว้เล่า…."
ซิสเตอร์อลาน่าลูบศีรษะที่สั่นเทานั้นด้วยความสงสาร น้ำคาหยดลงบนเข่าของเด็กหนุ่ม เสียงสั่นเครือเจือน้ำตา
ที่ขาดห้วงเพราะการสะอื้น
"เป็นผมเอง….ที่เป็นสาเหตุแห่ง…วิปโยคนี้ เป็นหายนะที่ผมนำมาพร้อมกับการเกิดของตัวเอง….."

นักบวชหญิงเข้ากอดเด็กหนุ่มที่เป็นดั่งน้องชายของเธอ ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงอันอ่อนหวาน
"ที่ฉันกอดอยู่นี้เป็นเด็กชายที่ฉันรักเหมือนน้องชายคนหนึ่งต่างหาก ไม่ใช่ความหายนะอันใด ชั้นยกโทษให้เธอทันที่ที่ได้รู้ว่าเธอเป็นใคร ไม่ใช่ความผิดของเธอ….จำไว้นะจ๊ะไม่ใช่ความผิดของเธอ ชั้นไม่เคยมองเห็นความเลวทรามใดๆของเธอ และยังรักเธอเสมอไม่ว่าเธอจะเป็นใคร"
สิ้นคำ  เขากอดซิสเตอร์อลาน่าไว้แน่น ร้องไห้เสียงดังราวเด็กเล็กๆ มีเพียงคำพูดเดียวที่สอดแทรกในเสียงร้องไห้อันขมขื่นนั้น เป็นเสียงอ่อนโยนที่กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า…
"ไม่ใช่ความผิดของเธอ …..ไม่ใช่ความผิดของเธอ ….."
« Last Edit: May 01, 2003, 07:21:01 AM by ฟีโนมีนอน ปาร์ตี้ » Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #12 on: May 01, 2003, 07:03:42 AM »

ฮาริซันยิ้มขณะมองลงไปในดวงตาสีเขียวดั่งมรกตของเรจีน่า เธอช่างต่างกับเจ้าหญิงจากดินแดนอันสูงส่งที่เขาคาดไว้ เธอไม่เย่อหยิ่ง ไม่ถือตัว ไม่เรื่องมากเอาแต่ใจ แต่เธอเหมือนดั่งสาวแรกรุ่นทั่วไปที่ตามหาความฝัน ซุกซน อยากรู้อยากเห็น ร่าเริงและเป็นตัวของตัวเอง ดวงตาสีเขียวของเธอ ดูราวกับค้นหาอะไรบางอย่างที่ยากจะเข้าใจ คงมีเพียงความงามของเธอเท่านั้นที่บ่งบอกความเป็นเจ้าหญิงที่เจิดจรัสออกมา

"นางช่างเหมือนสายลม" ฮาริซันรำพึง
"ใช่ ฟีเลเซียของเราเปรียบเป็นสายลมเป็นความสูงส่ง เป็นดั่งที่รองพระบาทพระเจ้า..."
เรจีน่ากล่าวตอบพร้อมยิ้มซุกซน
"ไม่ใช่เช่นนั้น...ข้าหมายถึง องค์หญิงเหมือนสายลมที่พัดเย็น โชยผ่านมา เปี่ยมด้วยความสดชื่น สดใส แต่ไม่อาจจับสายลมอันเย็นสดชื่นนี้ไว้ได้ ได้แต่ปล่อยให้พัดผ่านไป จนข้าคิดว่าหากได้พัดผ่านมาอีกครั้ง ข้าคงรีบต้องสูดเข้าเป็นลมหายใจ ให้นางอยู่ในใจข้าไม่พัดหนีไปไหนอีก"

เจ้าหญิงนิ่งงัน แก้มอิ่มของเธอกลายเป็นสีแดงระเรื่อ เมื่อจับต้องกับแสงอาทิตย์ยามเย็น ช่างน่าจุมพิตยิ่งนัก แม้ไม่มีคำพูดออกมาจากปากงามของเธอ แต่ในใจกลับสับสนและเต็มไปด้วยคำพูดมากมาย
"ชายคนนี้นี่ช่างกระไร เกี้ยวอิสตรีได้หน้าตาเฉย นี่เค้าพูดจากใจจริงหรือ...แววตาคมเข้มสะท้อนออกมาแต่ความซื่อตรง สีหน้าสุขุมของเค้าไม่มีแววล้อเล่นแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้เราแทบลืมหายใจ คนบ้าอะไรเนี่ย เค้าตรงไปตรงมาจนน่าใจหาย น้ำเสียงนุ่มทุ้มแสดงความหนักแน่นมั่นคง แล้วรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั่นอีกเล่า โอ้...พระเจ้า มันเกิดขึ้นกับลูกจริงหรือนี่ ลูกจะห้ามใจตัวเองอย่างไรไหว..."

ความเงียบงันเป็นเวลานานเริ่มสร้างความกังวลให้ชายหนุ่ม เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เขาก็แทบหัวใจวาย นึกในใจว่า
"...เมื่อครู่นี้...ข้าพูดออกไปได้อย่างไรกัน ความงามของนางความน่ารักของนางทำให้ข้าลืมตัว จนพูดความในใจที่ข้าไม่อาจเอื้อมออกไปได้หรือนี่ นางโกรธข้ารึเปล่า ยิ่งเวลานี้...นางจะหาว่าข้าฉวยโอกาสตอนนางขอความช่วยเหลือมาสร้างความลำบาก ใจให้กับนาง...แล้วถ้านางรังเกียจข้าล่ะ...ไม่นะ
แค่คิดข้าก็ใจหายวูบ ชาไปทั้งตัว ได้โปรดพูดอะไรออกมาบ้างเถอะเจ้าหญิง...โอย ทำไมข้ามันปากพล่อยอย่างนี้นะ"

สีหน้าของเขากลายเป็นกังวล คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน มือไม้เกะกะเริ่มทำอะไรไม่ถูก ทั้งความกังวลและความอายเริ่มเข้ามาสับสนในใจของชายหนุ่ม

ท่าทีของเขาทำให้เรจีน่า ได้สติเริ่มขบขัน เธอเริ่มยิ้มซุกซนอีกครั้งแต่คราวนี้ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอ ทำให้เธอยิ่งดูงดงามน่ารักกว่าปกติ ในใจเกิดความคิด
"ตายจริง พูดออกมาเอง แท้ๆ เริ่มจะเขินเองแล้วเหรอนี่ ดูสิผู้ชายตัวโตทำท่าเงอะงะ ดูน่ารักดีจริง ต้องแกล้งคืนซะหน่อย"


เจ้าหญิงยื่นใบหน้างามของเธอเข้าไปใกล้คว้าแขนชายหนุ่มไว้ สัมผัสนี้แม้เธอจะเป็นผู้กระทำแต่สร้างความหวั่นไหวในใจหญิงสาวอยู่ไม่น้อย
แต่ชายหนุ่มที่ถูกมือนุ่มบอบบางของเธอประคองจับที่แขนกำยำนี่สิ หัวใจเค้าแทบระเบิดออกมา ริมฝีปากงามก็เอื้อนเอ่ยคำเย้า
"ชายชาวฟูดีนันดื่มน้ำผึ้งแทนน้ำหรืออย่างไร ถึงได้ปากหวานแบบนี้"
ชายหนุ่มตัวสั่นด้วยความเขินอาย ริมฝีปากสั่น สมองหยุดทำงาน ไม่อาจหาคำตอบใดๆออกมาได้ ดวงตาสีเขียวคู่งามของเธอ จ้องมองดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาอย่างไม่หวาดหวั่น คำตอบที่ไม่คาดคิด ทั้งสับสนทั้งระคนความดีใจ เขาอยากกอดเธอเสียตรงนี้ แต่สมองอันเลือนลางยังเตือนให้เขาตั้งสติได้อยู่ ท่าทางของเขาทำให้เรจีน่าทั้งขำ ทั้งสงสาร และความรักก็เริ่มก่อตัวอย่างเงียบๆในใจหญิงสาว

"ข้าล้อเล่นหรอก...คิก คิก..." เธอหัวเราะเสียงใสน่ารัก ก่อนจะจ้องมองดวงตาชายหนุ่มจนเค้าแทบละลายลงไปตรงนั้น
"ถ้าข้าคือสายลม ...ท่านคงเป็นภูผา ที่หยุดสายลมนี้ไว้ได้..."
ชายหนุ่มหยุดหายใจ สมองที่สับสนหยุดชะงักกับคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวงามของหญิงสาว เหมือนเวลาได้หยุดอยู่ตรงนั้น

แสงสีทองของยามเย็นที่สาดส่องพร่าพราว จนราวกับเป็นสวรรค์...
« Last Edit: May 01, 2003, 07:13:27 AM by ฟีโนมีนอน ปาร์ตี้ » Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #13 on: May 01, 2003, 07:20:09 AM »

ถ้าใครสามารถเอาข้อคำพูดต่างๆในเค้าท์เตอร์การ์ดชุดD4K กะ Exigency มาโพสได้ครบ ก่อนคนแรก เราจะให้โปรโมเทรชัว3ใบไม่ซ้ำกันเป็นรางวัล


ถ้าใครเอาข้อคำพูดต่างๆในเค้าท์เตอร์การ์ดชุดD4K กะ Exigencyมาโพสได้ครบก่อน เราจะให้โปรโมเทรชัว3ใบไม่ซ้ำกัน
« Last Edit: May 01, 2003, 07:22:29 AM by ฟีโนมีนอน ปาร์ตี้ » Logged


โยศิ, องเมียวดอกซากุระ
Member
*****
Offline Offline

Posts: 3805


Email
« Reply #14 on: May 01, 2003, 07:24:58 AM »

ไม่ยากลเยนะ
คนที่เล่นหลัง เอ็คเคิลเวียอย่างเราหมดสิทธิ์ :'(
งั่มๆขอบคุณนะพี่ปอที่เอาคอลัมน์มาโพสให้
Logged


Relay for Life
Member
*****
Offline Offline

Posts: 29


« Reply #15 on: May 01, 2003, 12:23:54 PM »

อดเลย ไม่ได้ซื้อ Exigency แต่เล่นทัน  :-\
« Last Edit: May 01, 2003, 12:29:59 PM by B2K » Logged


Joker,!tt?
Member
*****
Offline Offline

Posts: 2283


« Reply #16 on: May 01, 2003, 01:06:03 PM »

มีแต่มีไม่ครบหนะสิครับ
อดเลย :-[
Logged


Son of Fire
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 467


Email
« Reply #17 on: May 01, 2003, 04:50:23 PM »

Woojinแม้จะมีทรัพสมบัติทั้งโลกมาอยู่ในมือเจ้าแต่เมื่อวันตายเจ้าหยิบอะไรได้บ้าง
แม้แต่ร่างเจ้ายังกับกลายเป็นธุลีดินจะมีประโยชน์อะไรหากทั้งโลกอยู่ในมือเจ้าแต่เจ้ากลับต้องเสียวิญญาณไป
Gregoryสิ่งที่ขั้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือลมหากฟิเลเซียคือลมฟิเลเซียก็เปรียบดั่งที่รองพระบาทแห่งพระเจ้า
Blazesageเมื่อไฟไห้พลังไห้ประโยชน์ใดใดแก่ท่านมันย่อมต้องเผาผลาญบางสิ่งเพื่อเป็น
เชื้อเพลิงดังนั้นการที่แผ่นดินประเทศผู้คนถูกเผาผลาญเพื่อสร้างยุคใหม่อัน
ยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองแห่งซาโลมมันเป็นเรื่องธรรมดา
Charlesหากฟิเลเซียต้องการป้องกันข้าจะคอยเป็นโล่ห์ที่ปกปักรักษา
หากฟิเลเซียต้องการสู้ข้าจะเป็นดาบที่ประหัตศัตรู
Yggdrasill
.....ลูกเอ๋ยจงหลับอย่างสบายในอ้อมแขนแม่อ้อมแขนแม่คือคีรีบันดาที่โอบกอดเจ้าลูกแม่จงหลับอย่างอบอุ่นในอ้อมอกแม่อ้อมอกแม่คือพุ่มไม้สีเงินอ่อนนุ่มของอิกดราซิลลูกรักจงวางใจหลับสบายอย่างกลัวอะไรเพราะแม่อยู่เคียงเจ้าปกป้องเจ้าดั่งดวงใจ.....(ตอนหนึ่งของเพลงกล่อมเด็กของชาวฟูดินัน)
Vioriaภายใต้หน้ากากอันเยือกเย็นของท่านมีเพียงแววตาที่เย็นชาของท่านเท่านั้นที่ข้ามองเห็นแต่ความเย็นชานี้มันช่างสร้างความรุ่มร้อนให้ใจข้าอย่างประหลาด....อองเดร  ออเนอร์เร่  ให้ความเร่าร้อนของข้าช่วยละลายความหนาวเย็นของท่านเถิด
์Nazaeหากซซาดินเป็นถึงจักรพรรดิ์บุตรของเขาจะใหญ่ยิ่งกว่าซาดินคือมหาเพลิงที่หน้ากลัวแต่บุตรของเขา........คือ ดวงอาทิตย์
« Last Edit: May 01, 2003, 05:36:30 PM by EX-00 » Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #18 on: May 01, 2003, 05:17:01 PM »

Woojinแม้จะมีทรัพสมบัติทั้งโลกมาอยู่ในมือเจ้าแต่เมื่อวันตายเจ้าหยิบอะไรได้บ้าง
แม้แต่ร่างเจ้ายังกับกลายเป็นธุลีดินจะมีประโยชน์อะไรหากทั้งโลกอยู่ในมือเจ้าแต่เจ้ากลับต้องเสียวิญญาณไป
Gregoryสิ่งที่ขั้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือลมหากฟิเลเซียคือลมฟิเลเซียก็เปรียบดั่งที่รองพระบาทแห่งพระเจ้า
Blazesageเมื่อไฟไห้พลังไห้ประโยชน์ใดใดแก่ท่านมันย่อมต้องเผาผลาญบางสิ่งเพื่อเป็น
เชื้อเพลิงดังนั้นการที่แผ่นดินประเทศผู้คนถูกเผาผลาญเพื่อสร้างยุคใหม่อัน
ยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองแห่งซาโลมมันเป็นเรื่องธรรมดา
Charlesหากฟิเลเซียต้องการป้องกันข้าจะคอยเป็นโล่ห์ที่ปกปักรักษา
หากฟิเลเซียต้องการสู้ข้าจะเป็นดาบที่ประหัตศัตรู
Yggdrasill
.....ลูกเอ๋ยจงหลับอย่างสบายในอ้อมแขนแม่อ้อมแขนแม่คือคีรีบันดาที่โอบกอดเจ้าลูกแม่จงหลับอย่างอบอุ่นในอ้อมอกแม่อ้อมอกแม่คือพุ่มไม้สีเงินอ่อนนุ่มของ
อิกดราซิลลูกรักจงวางใจหลับสบายอย่างกลัวอะไรเพราะแม่อยู่เคียงเจ้าปกป้องเจ้าดั่งดวงใจ.....(ตอนหนึ่งของเพลงกล่อมเด็กของชาวฟูดินัน)

ยังไม่ครบ
Logged


Son of Fire
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 467


Email
« Reply #19 on: May 01, 2003, 05:32:30 PM »

เอามาเพิ่มแล้วตอนพี่มาโพสผมกำลังmodifileเพิ่มVioriaกับNazaeอยู่ครับ :P
ปล.ว้ากกกกกกกกกหาเคาท์เตอร์มาซิลิโอไม่เจอแต่จำได้คร่าวๆว่ามีคำว่า
สมควรถูกตัดมืออะไรสักอย่าง
« Last Edit: May 01, 2003, 05:37:16 PM by EX-00 » Logged


เซนต์ แมกนัส
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 4593



« Reply #20 on: May 01, 2003, 06:54:42 PM »

เอามาเพิ่มแล้วตอนพี่มาโพสผมกำลังmodifileเพิ่มVioriaกับNazaeอยู่ครับ :P
ปล.ว้ากกกกกกกกกหาเคาท์เตอร์มาซิลิโอไม่เจอแต่จำได้คร่าวๆว่ามีคำว่า
สมควรถูกตัดมืออะไรสักอย่าง

ก็ยังไม่มีของD4Kอยู่ดี
Logged


TueSbaSS
Member
*****
Offline Offline

Posts: 338


Email
« Reply #21 on: May 01, 2003, 07:53:13 PM »

* Julius โปรยทานครับ โปรยทาน ใครไม่รู้ของ D4K ก็เก็บเอาอันนี้ไปลงได้เลย


ซาดิน อิบริด (โอซาดิน บิน ลามา) ชีวิตของข้าเองก็เหมือนไฟ วันนี้สว่างไสว แต่ไม่รู้วันใดจะดับมอด......หากข้าจะหาความสุขให้มากที่สุดตราบที่มีชีวิต มันก็เป็นเรื่องสมควรแล้วมิใช่หรือ

เนริมอร์ อิบริด (เนริทับบี้ส์) ในใจข้าไม่เคยสงบ เหมือนมีเชื้อไฟที่รอคอยการคุกรุ่นอยู่ เมื่อใดมีสิ่งสะกิดเร้าให้มันโหมลุกแรงขึ้น มันจะเผาผลาญทุกสิ่งเป็นเปลวเพลิง ที่แม้ตัวข้าเองก็มิอาจดับได้

ฮารีซัน บันดาร่า (เคนชิซัน) ที่เรานิ่งเฉยไม่ใช่เพราะเราโง่งม ที่เราอดกลั้นไม่ใช่เพราะเราขลาดกลัว แต่การที่เราอดทนและปกป้องนั้นต่างหาก คือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด

วานาอัน บันดาร่า (วานานเสะงาวะ วารุ) เมื่อสัมผัสผืนดิน ท่านจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบอุ้มท่านเมื่อกลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาท่านจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีที่ธรรมชาติมอบแด่ท่าน

ซิกมันด์ ที่ สาม (ซิกเซย่า ที่สาม) สายลมพัดเหนือผืนดิน เหนือผืนน้ำ เหนือเปลวไฟ ลมยิ่งสูงยิ่งพัดกล้า ศักดิ์ศรีของฟีเลเซีย คือศักดิ์ศรีแห่งสายลม

เรจิน่า อริธ่า (เรจิโนอา โซโล) สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่สายลมหากแต่เป็นเพียงนกที่อยู่ในกรงเท่านั้น

อองเดร โอโนเร่ (อองเจได สกายวอล์คเกอร์) น้ำเป็นน้ำแข็งด้วยความเยือกเย็น เมื่อความเยือกเย็นทำให้น้ำที่อ่อนเหลวแข็งแกร่งขึ้น มันก็ทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

อลาน่า มารี ชาริเต้ (พจลาน่า พินิจนันท์ ชาริเต้) ธรรมชาติของสายน้ำ ไหลลงจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ แผ่ขยายกว่างใหญ่ และให้ชีวิต แอนดิซองก็ควรเป็นเช้นนั้น

ใครที่ไม่รู้เรื่องคำที่วงเล็บไว้หลังชื่อให้เข้ามาดูได้ที่นี่นะคร้าบบ http://www.geocities.com/huanar/
Logged


Son of Fire
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 467


Email
« Reply #22 on: May 01, 2003, 08:57:23 PM »

อ๋อเคาท์เตอร์ที่แถมมากับเด็คD4Kนั่นเอง >:(
Logged


วายุดำ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 86


Email
« Reply #23 on: May 01, 2003, 09:11:59 PM »

เฮอๆๆ อย่าลืมนะ ยังมี เคาเตอร์แบบเมืองอยู่อีก

ZalomZalom ซาโลม "กองทัพเพลิงทมิฬ"
เมื่อผืนธงแห่งวิหกเพลิงโบกสะบัด ความวิบัติจะบังเกิด

คนมีไม่ครบอย่างเราก็ อดดดดด
Logged


Son of Fire
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 467


Email
« Reply #24 on: May 02, 2003, 12:31:21 AM »

เฮอๆๆ อย่าลืมนะ ยังมี เคาเตอร์แบบเมืองอยู่อีก

ZalomZalom ซาโลม "กองทัพเพลิงทมิฬ"
เมื่อผืนธงแห่งวิหกเพลิงโบกสะบัด ความวิบัติจะบังเกิด

คนมีไม่ครบอย่างเราก็ อดดดดด
ก็แถมมากับเด็คเหมือนกันนั้นแหละ
Logged


Joseph, the Deacon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2433


Email
« Reply #25 on: May 02, 2003, 02:23:51 AM »

Felasia Kingdom
ฟีเลเซีย “ศักดิ์ศรีแห่งสายลมศักดิ์สิทธิ์”
พระเจ้า   ความดี
ศักดิ์ศรี   เกียรติยศ

Sigmund III
สายลมพัดเหนือผืนดิน เหนือผืนน้ำ เหนือเปลวไฟ ลมยิ่งอยู่สูงยิ่งพัดกล้า ศักดิ์ศรีแห่งฟีเลเซียคือศักดิ์ศรีแห่งสายลม

Regina Aretha
สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่ลมหากแต่เป็นเพียงนกในกรงเท่านั้น

Gregory,the Bishop of Felasia
สิ่งที่คั้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือ ลม หากฟีเลเซียคือลม ฟีเลเซียก็เปรียบดังที่รองบาทแห่งพระเจ้า

Charles Clarence, the General of Felasia
หากฟีเลเซียต้องการป้องกัน ข้าจะเป็นโล่ที่คอยปกปักษ์รักษา
หากฟีเลเซียต้องการสู้ ข้าจะเป็นดาบที่ประหัตศัตรู


Zalom Empire
ซาโลม “กองทัพเพลิงทมิฬ”
เมื่อผืนธงแห่งวิหกเพลิงโบกสะบัดความวิบัติจะบังเกิด

Zadin Ybrid
ชีวิตของข้าเองก็เหมือนไฟ วันนี้สว่างไสว แต่ไม่รู้วันใดจะดับมอด…..หากข้าจะหาความสุขให้มากที่สุดตราบที่มีชีวิตมันก็เป็นเรื่องสมควรแล้วมิใช่หรือ

Nerimor Ybrid
ในใจข้าไม่เคยสงบเหมือนมีเชื้อไฟที่รอคอยการคุกกรุ่น เมื่อใดมีสิ่งสะกิดเร้าให้มันไหม้ลุกแรงขึ้น มันจะเผาผลาญทุกสิ่งเป็นเปลวเพลิง ที่แม้แต่ตัวข้าเองก็มิอาจดับห้ามได้

Blaze Sage,the Viceroy of Zalom
เมื่อไฟให้พลังให้ประโยชน์ใดใดแก่ท่านมันย่อมต้องเผาผลาญบางสิ่งเพื่อเป็น
เชื้อเพลิง ดังนั้นการที่แผ่นดินประเทศผู้คนถูกเผาผลาญเพื่อสร้างยุคใหม่อัน
ยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองแห่งซาโลม.....มันเป็นเรื่องธรรมดา

Nazae,the Oracle of Zalom
หากซาดินเป็นได้ถึงจักรพรรดิ์บุตรของเขาจะใหญ่ยิ่งกว่า ซาดินคือมหาเพลิงที่น่ากลัวแต่บุตรของเขา........คือ ดวงอาทิตย์


Annedisonge Portland
แอนดีซอง “มหาสมุทรกว้างไกล สายน้ำสงบนิ่ง”
ความมั่งคั่งไม่อาจซื้อสรวงสวรรค์ แต่อาจใช้สร้างสรวงสวรรค์

Andre Honore'
น้ำเป็นน้ำแข็งด้วยความเยือกเย็น เมื่อความเยือกเย็นทำให้น้ำที่อ่อนเหลวแกร่งแข็งขึ้น มันก็ทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน

Alana Marie Charite'
ธรรมชาติของน้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำแผ่ขยายกว้างใหญ่และให้ชีวิตแอนดีซองก็ควรเป็นเช่นนั้น

Marsilio,Cardinal of Annedisonge
หากมือของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาปก็จงตัดมันทิ้งเสียเพราะท่านขึ้นสวรรค์โดยปราศจากมือยังดีกว่าต้องตกนรกพร้อมมือทั้งสองข้าง

Vioria, the Frigid Witch
ภายใต้หน้ากากอันเยือกเย็นของท่านมีเพียงแววตาที่เย็นชาของท่านเท่านั้นที่ข้ามองเห็นแต่ความเย็นชานี้มันช่างสร้างความร้อนรุ่มให้ใจข้าอย่างประหลาด....อองเดร  ออเนอร์เร่  ให้ความเร่าร้อนของข้าช่วยละลายความหนาวเย็นของท่านเถิด


Fudenun Tribe
ฟูดีนัน “จิตวิญญาณแห่งผืนดิน”
ผืนแผ่นดินมิใช่สมบัติของผู้ใดหากแต่เป็นมารดาผู้มีแต่ให้กับทุกสรรพสิ่ง

Harison Bandara
ที่เรานิ่งเฉยใช่ว่าเพราะเราโง่งม ที่เราอดกลั้นไม่ใช่เพราะเราขลาดกลัว แต่การที่เราอดทนและปกป้องนั่นต่างหากคือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด

Wanaan Bandara
เมื่อสัมผัสผืนดิน ท่านจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบอุ้มท่าน เมื่อกลิ่นหอมของดอกไม้โชยมาท่านจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาดีที่ธรรมชาติมอบแด่ท่าน

Woojin,the Elder
แม้จะมีทรัพย์สมบัติทั้งโลกมาอยู่ในมือเจ้าแต่เมื่อวันตาย เจ้าหยิบอะไรไปได้บ้างแม้แต่ร่างเจ้ายังต้องกลับกลายเป็นธุลีดินจะมีประโยชน์อะไรหากทั้งโลกอยู่ในมือเจ้าแต่เจ้ากลับต้องเสียวิญญาณไป

Yggdrasill
…..ลูกเอ้ย จงหลับอย่างสบายในอ้อมแขนแม่ อ้อมแขนแม่คือคีรีบันดาที่โอบกอดเจ้า
ลูกแม่ จงหลับอย่างอบอุ่นในอ้อมอกแม่ อ้อมอกแม่คือพุ่มไม้สีเงินอ่อนนุ่มของอิกดราซิล
ลูกรักจงวางใจหลับสบายอย่างกลัวอะไรเพราะแม่อยู่เคียงเจ้าปกป้องเจ้าดั่งดวงใจ…..
(ตอนหนึ่งจากเพลงกล่อมเด็กของชาวฟูดีนัน)


ครบไหมอ่า Y-Y พยายามหาที่ผิดอยู่ ส๊าธุ หลักสวรรค์ทั้ง 5 ได้โปรดให้พรแก่ลูกช้างด้วยเถิด

« Last Edit: May 02, 2003, 05:37:04 AM by Felasia_Sword » Logged


วายุดำ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 86


Email
« Reply #26 on: May 02, 2003, 02:30:10 AM »

ท่าทางพี่ Felasia_Sword แกจะได้แล้วละ

น่าจะครบแล้วนะ เหลือแค่ว่าพิมถูกอะป่าว
Logged


TueSbaSS
Member
*****
Offline Offline

Posts: 338


Email
« Reply #27 on: May 02, 2003, 03:06:04 AM »

ด..ดาบน้อย นี่เล่นพิมพ์ถูกแม้กระทั่งจำนวนจุดเลยเรอะ
Logged


Joseph, the Deacon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2433


Email
« Reply #28 on: May 02, 2003, 03:42:40 AM »

To พี่ปอคับ
แล้ว ัตัวละครเหล่านี้ล่ะคับ
Xerxes,the Nacromancer
Fayre,the Harper
Megan,the Water Witch
มีนิสัยอย่างไร ถิ่นกำเนิดจากไหน ขณะนี้อยูที่ใด มีความเป็นไปเป็นมาอย่างไร

ขอบคุณคับ

To วายุดำ
หลังจากที่ข้าน้อยได้ อ่านจากประวัติท่าน กระผมทราบว่า อายุเราห่างกันน้อยกว่า 1 ปี ขอรับ

ขอให้ไม่ผิดเถิดสาธุ

To Julius
กำลังคิดว่า มีจุดไหน ที่พลาดไปหรือเปล่า มันเป็นสิ่งที่หลายคนข้ามไป ซึ่งมันอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดอันร้ายแรงได้ แต่วรรคตอนนี่ ไม่สามารถกำหนดได้อ่ะคับ ขอโทษด้วย

Logged


วายุดำ
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 86


Email
« Reply #29 on: May 02, 2003, 04:08:12 AM »

To วายุดำ
หลังจากที่ข้าน้อยได้ อ่านจากประวัติท่าน กระผมทราบว่า อายุเราห่างกันน้อยกว่า 1 ปี ขอรับ

ขอให้ไม่ผิดเถิดสาธุ

เอ๋ ก็ 16 เท่ากันไม่ใช่เหรอ ?     หรือว่าไม่ใช่?

Megan,the เด็กน้อย
เป็นเด็กที่เล่นบอร์ดคนนึง ตอนเข้ามาใหม่ๆ ชอบโพสแหลก ประมาณปั้ม Reply จนเป็นที่น่ารำคาญของหลายๆคน แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะดีขึ้นแล้ว (เอ... หรือว่าเรารู้สึกไปเอง)
Logged


Pages: [1] 2 3 ... 7  All
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.112 seconds with 20 queries.