Summoner Master Forum
April 25, 2024, 01:42:40 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: 1 [2]  All
  Print  
Author Topic: [Fic] Elvin , The Pegasus Knight Chapter : 19  (Read 21382 times)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic.
the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #30 on: September 01, 2008, 11:21:24 PM »

หุหุ จบภาคแรกแว้ว มีภาคสองด้วย

Quote
“นายคงต้องการ การพักผ่อน งั้น พวกเราไปก่อนนะ”เกรกอรี่พูดแล้วเดินออกจากห้องไป

บิชอป พูดสำเนียงแบบนี้ฟังดูแล้วมันแปลกๆไงไม่รู้แต่ช่างเถอะเอาแค่เข้าใจในเนื้อหาก็พอแล้ว
อยากดูภาคสองเร็วๆจัง

เปลี่ยน "นาย" เป็นเจ้าอาจจะเป็นปรกติแล้วมั้งครับ - -

อนึ่งว่า เดินทางไปทั่ว Merrisia เดี๋ยวก็ต้องเจอ Merman Unicorn Pegasus Dancer อีกละสิเนี่ย ^^


ป.ล. Ordonus หักแล้วทำลาย Mystic Card ได้ 1 ใบนะครับ ดาบชาร์ลไง   
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #31 on: September 05, 2008, 11:37:54 PM »

Episode II Elvin's Experience

ณ เมือง ฟิเลเซีย

"พับๆๆๆ"เสียงแกว่งของปีกสีเงิน ก้องกังวานได้ยินไปทั่วเมืองฟิเลเซีย ผู้คนก็ออกมาปรบมือและดีใจ คนที่ขี่ม้าเปกาซัสปีกสีเงินอยู่ เป็นเด็กหนุ่มอายุเพียง 18 ปี
"เอลวิน ๆ"ผู้คนที่อยู่รอบบริเวณสนามหญ้า ตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน เอลวินก็ยิ้มด้วยความปลื้มปิติยินดี

เอลวินก็ขี่ม้าเปกาซัสปีกเงินขึ้นไปบน อากาศ
"2 ปีที่ผ่านมา ข้าทำเพื่อแผ่นดินอันศักดิ์สิทธ์นี้ ข้าสัญญา ข้าจะกลับมา ฟิเลเซีย !!"
ม้าเปกาซัสปีกเงินและเอลวิน บินลับไปกับก้อนเมฆ

"ฟิเลเซีย ตอนนี้คงไม่ค่อยมีสีสันเลยนะทุกคน"กษัตริย์ซิกมันต์ที่ 3 ตรัส
"ใครบอกล่ะ เสด็จพ่อ"เด็กอายุ 10 ปีอ่อนกว่า เอลวิน 10 ปี เขามีนัยตาสีคราม ผมสีบรอนซ์ ยืนอยู่หลัง กษัตริย์ซิกมันต์ที่ 3 พูดออกมา
"ซิกมันต์ที่ 4"กษัตริย์ซิกมันต์ที่ 3 ตรัส
"องค์ชายค่ะ องค์ชาย"เหล่าพี่เลี้ยงในวังวิ่งตาม องค์ชาย ซิกมันต์ที่ 4
"ถ้า เอลวินคือสีสันของฟิเลเซียในอดีต ข้าเองล่ะ เป็นสีสันของฟิเลเซียในปัจจุบัน"ซิกมันต์ที่ 4 ก็พูดออกมาอย่างอาจหาญ

กษัตริย์ซิกมันต์ที่ 3 ก็หัวเราะ ออกมา "ไม่เลวๆ สมแล้วที่เป็นลูกของข้า โรน่า เกรกอรี่ ข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นราชครู"
"พะยะค่ะ ฝ่าบาท"

ณ โบสถ์ฟิเลเซีย
เกรกอรี่ก็ยังนั่นสวดมนต์ต่อหน้า รูปภาพเทพเซราฟเช่นเคยเหมือนทุกวัน แสงสีขาว น้ำเงิน ฟ้า แดง เหลือง ก็ปรากฏขึ้นรอบกายเกรกอรี่
"ว่าไง ท่านนางฟ้าทั้งห้า"เกรกอรี่หลับตาพูด
"เด็กเอลวิน"เสียงมาจากแสงสีขาว
"ทำไมเหรอ ท่านวิกตอเรีย"เกรกอรี่ยังหลับตาอยู่แล้วเขาก็ถาม
"บางทีสิ่งที่ ท่านคาดหวัง ก็ไม่ตรงกับสิ่งที่คนอื่นเขาคาดหวังก็ได้ คนอื่นที่ล่วงลับ"เสียงออกมาจากแสงสีขาว
"คนล่วงลับ ใคร ใครกัน"เกรกอรี่พูด และลืมตาขึ้น แสงห้าสี ก็จางหายไป
"ใครกันที่คาดหวังในตัวเอลวินอยู่ ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ"เกรกอรี่บ่น

นี่เกริ่นนำ นะครับ
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #32 on: September 06, 2008, 02:32:51 AM »

มาทิอัสหรอ = =

สงสัยไม่ได้ผุดเกิดเพราะมีห่วง > <



ลูกชายสงสัยออกมาหาดาบให้พ่ออีกมั้งเนี่ย - -
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #33 on: October 13, 2008, 12:49:32 AM »

Chapter : 14 มุ่งหน้าสู่ ลาซาล

ทาง ตะวันตกเฉียงใต้ของ อาณาจักร ซาโลม

เอลวินก็เดินทางผจญภัยไปเรื่อยๆ และก็ได้พักอยู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่เขาลงจากวินดี้ เขาได้สังเกตป้อมปราการขนาดใหญ่ ข้างหน้าอีกไม่ไกลมากนัก

"ท่านมาจากที่ใดกันเหรอครับ ดูท่าทางท่านน่าจะเป็นคนใหญ่คนโตมากเลย"เจ้าของบ้านพักถามเอลวิน
"ท่านก็ชมข้ามากเกินไป ข้ามาจากฟิเลเซียน่ะ ไม่ทราบว่า ป้อมปราการข้างหน้าเนี้ย คือตัวเมืองซาโลมใช่หรือไม่"เอลถ่อมตัว แล้วก็เอ่ยปากถาม
"ฮ่าๆ ไม่ใช่หรอก ถ้าท่านจะไปซาโลมนะ ยังอีกไกลแถมท่านยังมาผิดทางอีกนะเนี่ย"เจ้าของบ้านพักหัวเราะออกมา
"อ้าว แล้วข้าอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย"เอลวินชักสงสัย
"แคว้นลาซาลไง ท่าน แสดงว่าท่านยังไม่เคยมาแน่เลยใช่มั้ย"เจ้าของบ้านพักถาม
"อื้ม ใช่"เอลวินตอบ
"ข้าเชิญท่านพักผ่อนเลยแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะให้ลูกข้านำทางท่านเข้าสู่ ลาซาลเอง"เจ้าของบ้านพักพูด
"อื้ม"

เอลวินก็เข้าห้องไปพักผ่อน แล้วเขาก็นั่งลงบนเตียงไม้ แล้วเขาก็ฟุบลงบนเตียงไม้นั่น

"เอลวิน"เสียงกระซิบข้างหูของเขา
"เอลวิน"เสียงดังขึ้นกว่าเดิม
เอลวินก็ลืมตาขึ้นมา เห็นคุณตาใส่ชุดลำลองสีขาวนั่งอยู่ตรงปลายเตียง "ท่านคือใคร" เอลวินถาม
คุณตาคนนั้น หันหน้ามา เอลวิน ก็แทบจะร้องให้ "คุณปู่ !!!"
เอลวินก็จะกอดปู่ แต่ มือทั้งสองข้างของเขาก็เหมือนคว้าลม
"เอลวิน เจ้าเคยสัญญากับปู่ว่ายังไง"ปู่มาธีอัส ขึ้นเสียง
"อะไรนะครับ"เอลวิน
"เจ้าจะเป็น อัศวินมังกร ไง แล้วนี่ เจ้าเป็นอะไร"มาธีอัสเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ตาของเขาเริ่มแดงก่ำเหมือนปีศาจ
"แกไม่ใช่ปู่ของฉัน"เอลวินตะโกนใส่
"แกสิ ไม่ใช่หลานของฉัน ไอ้เลวไอ้หลานทรพี"มาธีอัสเสียงดัง มือของมาธีอัสเปลี่ยนเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ แล้วก็ตะปบเข้าหน้าของเอลวิน ก็กรงเล็บขนาดใหญ่ตะปบเข้ามา เขาสังเกตเห็น เงาขนาดใหญ่ มีหัวกระโหลกอยู่ส่วนบนของเงา ถือขวาน  อยู่ด้านหลังปู่ของเขา

เอลวิน ก็ตื่นขึ้นมา แล้วก็จับหน้าตัวเอง
"เห้ย ฝันร้ายเหรอเนี่ย"เอลวินเหงื่อแตกไปหมด
เจ้าของบ้านพักเห็นเสียงดังก็มาเคาะประตูหน้าห้องเอลวิน

"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ"เจ้าของบ้านพักพูดอยู่หน้าประตู
"ไม่มีอะไรครับ ขอบคุณๆ"เอลวินตอบกลับ

วันรุ่งขึ้น
ลูกชายของเจ้าของบ้านก็ รอเอลวินอยู่หน้าบ้านพัก
เอลวินก็จูงม้าวินดี้ ออกมาตามมา
เอลวินเห็นลูกชายของเจ้าของบ้าน ยืนอยูคนเดียว เอลวินสงสัย
"นี่ เจ้า จะไปเข้าเมืองยังไง มันก็ไกลอยู่นะ"เอลวินถาม
"ปรี้ด!!"ลูกเจ้าของบ้านเป่านกหวีดที่ค้องอยู่บนคอ
จิงโจ้ตัวหนึ่ง กระโดดออกมา
"อ๋อ เข้าใจแล้ว"เอลวินยิ้มแล้วก็ขึ้นมา ม้าวินดี้

พวกเขาทั้งสองก็มุ่งหน้าสู่เมืองลาซาล


มันหน้าตาอย่างนี้ล่ะครับ เงาที่อยู่หลังมาธีอัส


จิงโจ้ที่ว่า
« Last Edit: October 13, 2008, 12:57:19 AM by ArtiizZŽ » Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #34 on: October 13, 2008, 01:57:35 PM »

อ๊ะ โพสท์บอย ^^

อนึ่ง "แกสิไอ้หลานทรพี  = ="  อ่านแล้วมันไม่ตลกเลยนะ แต่อยากจะขำแปลกๆ

เหมือนกับขำหนังผีบ้านเรารึเปล่า นึกภาพตามแล้วมัน .... > <


ป.ล. อัพแคปเทอร์ต่อไปเร็วๆนะฮะ 

Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #35 on: October 15, 2008, 12:41:10 AM »

Chapter : 15  โจรทะเลทราย

ท่ามกลางทะเลทราย ที่ร้อนระอุ
เอลวินและ ลูกชายเจ้าของบ้านพักที่เอลวินอยู่ เดินทางอยู่บนทะเลทรายแห่งนี้

"นี่ นายชื่ออะไรเหรอ"ลูกชายเจ้าของบ้านถามระหว่างขี่อยู่จิงโจ้
"ข้าชื่อ เอลวิน ไบลธ์ แล้วเจ้าล่ะ"เอลวินแนะนำตัวและถามกลับไป
"ข้าเหรอ ข้าชื่อ คูรินิล "เขาแนะนำตัวเช่นกัน

เขาทั้งก็เดินทางไปเรื่อยๆ ป้อมปราการที่เอลวินสังเกตเห็น เหมือนไม่เข้าใกล้เลย เหมือนเป็นภาพลวงตา
"เมื่อไรจะถึงล่ะเนี่ย"เอลวินถาม
"เดี๋ยวซักหน่อยก็ถึงล่ะ"คูรินิลบอก
"มันเหมือนกับเราเดินทางไปเรื่อยๆ แต่ภาพป้อมปราการข้างหน้าทำให้ข้าไม่รู้สึกเข้าใกล้มันเลย"เอลวินพูด
"อ่อ เรื่องป้อมปราการน่ะเหรอ พ่อข้าบอกว่า มันเป็นป้อมปราการลวงตา ที่จริงเมืองลาซาลไม่มีป้อมปราการที่ใหญ่ขนาดที่ท่านเห็นหรอก ภาพลวงตานี้ เอาไว้กันพวกอาณาจักรอื่นมารุกราน ทำให้ลาซาลอยู่มาได้ทุกวันนี้ไงล่ะ"คูนิริลอธิบาย
"ข้าเข้าใจล่ะ"เอลวินพูด

พวกเขาเข้าพวกที่โอเอซิส แห่งหนึ่งกลางทะเลทราย พวกเขาก็เห็นป้าย " ระวังพวกนักล่าเงินรางวัลและนางแมว " ปักไว้ใต้ต้นตะบองเพชร
"มันมีด้วยเหรอพวกนี้"เอลวินถามคูรินิล
"ข้าเคยเจอนะ พวกมันเอาแต่ของที่มีค่า แต่โชคดีที่ข้าไม่ได้พกของที่มีค่าไว้เลย ฮ่าๆ"คูรินิล หัวเราะ
"อ้าวแล้วในกระเป๋าด้านหลังเจ้ามีอะไรล่ะ แบกซะตุงเชียว"เอลวินถาม
"พวกจดหมายน่ะ เมืองลาซาลเนี่ย ใช้ไปรษณีย์ทางบกอย่างเดียว เพราะทางอากาศทำได้ลำบากมาก จะใช้นกฮูกหรือนกอื่นๆไม่ได้หรอก เพราะเป็นเหมือนคำสาป ที่อะไรลอยอยู่บนฟ้า นี่แทบจะลุกเป็นไฟแล้วไหม้เป็นจุล เลยต้องใช้ทางบกเอา"คูิรินิลอธิบายอีก

คูนิริลพูดจบ นางแมวประมาณ 7-8 ตัว และ ชายชกรรจ์คนหนึ่ง ปรากฏขึ้นต่อหน้า เอลวินและคูรินิล
"ข้า ขอม้าตัวนี้ได้มั้ย"ชายชกรรย์คนนั้นพูด พร้อมก็ถือมีดชี้มาที่หน้าเอลวิน
"ข้าคงให้ไม่ได้"เอลวินพูด นาวแมวทั้งหลายตัว เข้าโจมตีเอลวินทันที
เอลวินหยิบดาบที่อยู่ติดตัวเขาขึ้นมา เป็นดาบยาว ด้ามจับใหญ่ ใบดาบขนาดใหญ่ คล้ายดาบหลวงฟิเลเซีย

"นี่มัน !!! ดาบศึกฟิเลเซี
« Last Edit: November 27, 2008, 11:43:31 PM by ArtiizZŽ » Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #36 on: October 18, 2008, 01:34:34 PM »

สั้นๆง่ายๆ

"ใครตะโกน?"       


ป.ล. อ๊ะ อัพแล้วต้องให้ตาม ไม่มีบอกเล้ยยยยยย = = 
Logged


Zenonymn
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 483


« Reply #37 on: October 19, 2008, 12:11:52 AM »

หนุกดี ๆ ครับ 
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #38 on: November 28, 2008, 12:25:36 AM »

Chapter : 16  สงครามขนาดย่อมกลางทะเลทราย

จอมโจร ราชาดหยุดมือทันที เมื่อได้ยิน หันหน้าไปทางชายผมขาวชุดดำ สวมผ้าคาดดวงตาทั้งสองด้าน เอลวินเคยเห็นหน้าชายผู้นี้ในประกาศจับในเมืองฟิเลเซีย ซึ่งค่าหัวของเขา ถึง 2 ล้าน ออเรียส

"เจ้าคือ คนใน ประกาศจับนั้น"เอลวินตะโกนขึ้นมา เอลวินควงดาบศึกฟิเลเซีย โจมตีใส่ชายชุดดำนั้น ชายชุดดำนั้น ยกดาบเซเบอร์คู่ประจำตัว ป้องกัน
"เฮ้ ฟังหน่อยสิ"ชายชุดดำพูด และป้องกันตัวเองไปในตัว
ราชาดและนางแมวรอบๆ พากันยกมีดป้องกันตัวชายชุดดำอย่างเข้มแข็ง
"หยุดก็หยุด แต่ข้าอยากถามเจ้า ว่า เจ้าคือใคร ทำไมถึงไปอยู่ในประกาศจับนั่น"เอลวินเก็บดาบลง แต่เขาก็ยังไม่ไว้ใจชายคนนั้น
"ข้าคือ เดลาโน่ มือสังหารแห่งฟิเลเซีย ข้าจำเป็นต้องหนีจากฟิเลเซีย เพื่อความปลอดภัยของตัวข้าเอง และ ครอบครัวของข้าก็ถูกประหารสิ้น"เขาแนะนำตัว
"แล้วเจ้ามีความผิดอะไร และทำไมต้องมาอยู่แบบนี้ด้วย"เอลวินซักไซร้
"ข้าถูกใส่ร้ายเรื่อง ลอบปลงพระชนม์ องค์ชายน้อยซิกมันต์ที่ 4 เมื่อ 2 ปีก่อน ในวันเกิดเหตุข้า่ไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ วันรุ่นขึ้น ทหารก็มาล้อมบ้านข้า และจับตัวข้าส่งให้ศาล และศาลสั่งประหารชีวิตข้า แต่ข้ารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะแม่ทัพชาร์ลช่วยเหลือ ข้าจึงหนีมาเรื่อยๆจนถึงลาซาล และก็ได้พบกับกลุ่มโจรกลุ่มนี้ ข้าจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มโจรนี้ด้วย เพราะข้าจำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอดของตนเอง"เดลาโน่พูดถึงอดีต

เดลาโน่พูดจบ เอลวินเองก็เข้าใจ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเดลาโน่
คุรินิล ก็เดินเข้ามาหาเอลวิน เหมือนจะยื่นของบางอย่างให้เอลวิน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ลูกธนูแหวกอากาศปักทะลุหน้าอกเด็กชาย เลือดจากหน้าอกกระเซ็นใส่เอลวินผู้อยู่เบื้องหน้า

"ตึกๆๆ" เสียงสัตว์ขนาดใหญ่วิ่งมาจำนวนมาก เอลวินกำลังตกใจกับร่างของเด็กชายผู้อยู่ต่อหน้า

หอกด้ามยาว แหวกอากาศมาหากลุ่มโจรจำนวนมาก เหล่านางแมวบางตัวก็ตาย เดลโน่และราชาด เริ่มหาที่กำบังหอกเหล่านั้น เอลวินเองก็นำร่างคุรินิลหาที่กำบังเช่นกัน

เอลวินมองไปเป็น อัศวินมังกรทะเลทราย [Desert Dragon Rider] ประมาณกองหนึ่ง เกือบ 100 นาย เขานับคนที่มี มีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ

"ทำยังไงดีท่านเดลาโน่"ราชาดเอ่ยปากถาม
"เอ่อ .. อื้ม"เดลาโน่อ้ำอึ้งอยู่ ทั้งๆ ที่ห่าฝนธนู โปรยพราย บริเวณที่เขากำบังอยู่
พวกเขาคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป เอลวินมองสิ่งที่ คุรินิลตั้งใจจะยื่นให้เขาเมื่อครู่ เขาจึงหยิบขึ้นมาดู เหรียญอะไรซักอย่างมีรูปนกอยู่ตรงกลาง แต่เขาเดาไม่ออกว่านกนั้นคืออะไร
" พี่ .. เอล ... วิน"เสียงเล็กๆเหมือนคนใกล้ตาย
เอลวินก้มลงมา คุรินิลยังไม่ตาย "ว่าไง คุรินิล เจ้ายังไม่ตาย"
"ปลดผนึกมัน...ปลดผนึกมัน"คุรินิลพูดสั่นๆ แล้วเขาก็สำลักเลือดออกมา และเขาก็สิ้นลมไป
 เอลวิน หยิืบเหรียญขึ้นมา " แล้วข้าจะรู้เหรอปลดผนึกยังไง "

เดลาโน่ ราชาด หรือกลุ่มนางแมวเองมองเอลวินด้วยความหวัง
เอลวินแบมือขวาขึ้น และวางเหรียญลงบนมือขวา จากนั้น เ้อามือซ้ายลูบผ่านเหรียญ และพูดในใจว่า "คลายผนึก"

แสงสีแดงสว่างจ้าออกมาจากมือขวา เอลวินมองไปบนฟ้า เห็นนกสีแดง จำนวน 20 กว่าตัว

"เกิดมา ข้าเพิ่งเคยเห็น นี่ล่ะ นกฟินิกซ์ ในตำนาน"
« Last Edit: December 01, 2008, 01:17:11 AM by ArtiizZŽ » Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #39 on: December 05, 2008, 03:39:30 PM »

Chapter : 17 คำสาปแห่งมิติ

นกฟินิกส์นับ 20 ตัว บินเข้าจู่โจมใส่ เหล่าอัศวินมังกรทะเลทราย ปีกสีเพลิง ทิ้งขนเล็กๆ ใส่ พื้นทะเลทราย
ทะเลทรายเปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงในทันใด จากนั้น นกฟินิกส์ก็หายลับไป

เอลวินมองเห็นเพลิงเช่นนั้น จึงขึ้นม้าวินดี้ " เดลาโน่ เจ้าจงหนีไป เพราะทหารพวกนี้ หวังจะจับท่านเข้าไปยังฟิเลเซีย ข้าว่าหลังจากนี้ไป ฟิเลเซีย จะต้องเกิดเรื่องแน่ๆเลย"เอลวินพูด
"ขอบคุณ เจ้าชื่ออะไรหรือ"เดลาโน่ถามก่อนที่จะจากลาไป
"ข้า เอลวิน ไบลธ์ รองแม่ทัพเปกาซัสแห่งฟิเลเซีย " เอลวินแนะนำตัว ก่อนจะนำพาวินดี้ขึ้นฟ้า เพื่อกลับไปยังฟิเลเซีย เพื่อเข้าพบแม่ทัพชาร์ล

เอลวินบินขึ้นไป บนฟ้าเหนือเมฆ อัศวินม้าดำคนหนึ่ง ที่เขาเคยเจอในเขาเวฮาล ปรากฏขึ้นต่อหน้า
"แกอีกแล้วเหรอเนี่ย"เอลวินตบม้าควงดาบศึกฟิเลเซีย เข้าประหัตศัตรู

แต่ เอลวินก็หยุดการโจมตี

"ปู่" เอลวินพูดเสียงดังอย่างตกใจ เพราะหน้าของอัศวินม้าดำคนนั้น คือ มาธิอัส ไบลธ์ คนที่เลี้ยงเขามากับมือ
อัศวินดำคนนั้น ไม่พูดอะไร ควงหอกแทงเข้าหา ตัวเอลวิน
เอลวินกำลังตั้งท่าหลบ

ลำแสงสีน้ำตาล จากเขาม้าดำที่อัศวินคนดังกล่างขี่ จี้เข้าหาตัวเขา ตัวเขาแข็งทื่อดั่งหินก้อนหนึ่ง
ตัวเขาแข็งทื่อ บนม้าวินดี้ อัศวินม้าดำ ก็นำหอกเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนห่างกันประมาณครึ่งเมตร

"คำสาป แห่ง มิติ" เสียงกระซิบเบาๆข้างหูเอลวิน จากนั้นตัวเอลวินและวินดี้ก็หายลับไปกับตา อัศวินม้าดำคนนั้น
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #40 on: December 05, 2008, 07:11:43 PM »

โดนม่านมิติหายไปทั้งคู่เลย

แล้วทำไมจะจบตอนสักทีนี่ต้องมีอะไร Surprise อยู่เรื่อยเลย
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #41 on: December 06, 2008, 03:47:56 AM »

Chapter : 18  การต้อนรับที่แสนอบอุ่น

คำสาปแห่งมิติ หรือที่รู้จักกันดีในนาม Dimension Curse สามารถพาผู้ที่ถูกคำสาป ไปที่ไหนก็ได้โดยสุ่ม บางคนโชคดีหน่อย อาจจะตกอยู่ในบริเวณ ที่ถูกคำสาปนี้ แต่ถ้าโชคร้ายหน่อย ก็จะไปอยู่กลางอ่าวแอนดิซอง เป็นเหยื่อของมังกร จอร์มันการ์ดไป หรือ เกาะวาลอค ที่สิงสถิตของตำนานมังกรไฮดร้า และอีกหลายที่

แต่เอลวิน ตกลงมาจากประตูมิติกางออกเป็น พื้นที่กว้างๆ เป็นถนน มีต้นไม้ดอก สีชมพูบานสะพรั่งหลายต้น
เอลวินเดินกลางถนนจูงม้าวินดี้คู่ใจมาพร้อม
"ข้าไม่เคยเห็น ไม้ดอกที่งดงามเช่นนี้ใน ฟิเลเซีัยมาก่อนเลย" เอลวินมองขึ้นไปบนต้นไม้งามเหล่านั้น
เอลวินเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ เห็นเป็นแหล่งน้ำ ขนาดใหญ่ประมาณทะเลสาบ เขาจึงจูงวินดี้มาแวะกินน้ำ และเขาก็ดื่มน้ำริมทะเลสาบนี้ด้วย น่าแปลก ที่ถนนเลียบทะเลสาบไม่มีพื้นที่อยู่อาศัยเลย

เมื่อ ปฏิบัติอะไรต่อมิอะไรเสร็จแล้ว ก็เดินตามถนนไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง จนเกือบเวลาตะวันตกดิน ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะเจอ ที่พักอาศัยเลย
เอลวินจึงพักใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง วินดี้ก็หลับไปเสียแล้ว
เอลวินกำลังนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเช้า กับ เดลาโน่ "ถ้าเดลาโน่พูดความจริงทุกประการ เจ้าชายซิกมันต์ที่ 4 ก็กำลังจะตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ เกี่ยวกับบัลลังค์ของพระองค์ แต่คงจะไม่เป็นไรหรอกนะ แม่ทัพชาร์ลก็อยู่ แม่ทัพโรน่าก็อยู่"
และเขาก็ยังค้างคาอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องปู่ของเขา เขาจึงหยิบสมุดขึ้นมาเล่มหนึ่ง และจดลงไป "ตอนนี้ ข้าไม่เข้าใจว่า วิญญานของปู่ ยังติดค้างอะไรกับข้าอีก โปรเจคอมานคริส และทฤษฎีมังกรก็อยู่ในมือผู้สืบทอดแล้ว พี่รีเบคก้า ข้าไม่เข้าใจ ข้าติดค้างอะไรไว้"

ระหว่างที่เขาเขียนอยู่ เงาสองเงาแล่นผ่าน พุ่มไม้ด้านหน้าที่เอลวินนั่งอยู่
เอลวิน เอ๊ะใจขึ้นมา เลยลุกขึ้น หยิบดาบศึกฟิเลเซียออกจากฝัก
เงาทั้งสองปรากฏต่อหน้าเอลวิน เป็นชายคลุมหน้าทั้งคู่ พลางถามเอลวินด้วย " เจ้าเป็นใคร "
" ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการอะไร แต่ถ้ามาป้วนเปี้ยนตอนเวลาคนจะหลับจะนอน ข้าไม่ชอบ" วาแล้วเอลวินฟาดดาบศึกฟิเลเซีย ใส่ชายคลุมหน้าคนนึ่ง เขาหลบไม่ทัน ดาบศึกหั่นโดนมือขวา ขาดสะบั้นลงมา
คนที่มาด้วยอีกคนหนึ่ง หยิบ คาตานะ ด้านหลัง เข้าโจมตี เอลวิน เสียงเคร้ง ๆ ดังกึกก้องสนั่น "ดาบเล็กแค่นี้ ทำไมมันแข็งแกร่งจังเลย" เอลวินบ่น
"บ่นอะไรกันนักหนา"ชายคลุมหน้าพูด

ชายคลุมหน้า กระโดดลังกาหลัง ถอยไปห้าก้าว และทำท่าเหมือนจะเก็บดา่บ ความสีขาวๆพุ่งออกมาจาก เขาฟาดฟัน ควันเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงเป็นแสงดาบเล็กๆ นับหมื่นพุ่งเข้าหาเอลวิน เอลวินคงหลบไม่พ้น จึงยกดาบกัน ดาบศึกฟิเลเซีย เองก็ทนก็โจมตีแบบนี้ไม่ได้ ตัวดาบเริ่มบิ่นๆ ไปตามแรง

แสงดาบพุ่งเข้าหาเอลวินอย่างจัง ควันต่างๆ ฟุ้งกระจายไปหมด
เอลวินล้มลงตามแรงโน้มถ่วงโลก ในใจก็คิดเจ็บใจที่ไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้มาเลย ดาบศึกฟิเลเซียก็อยู่ในสภาพใช้การไม่ได้แล้ว
เอลวินมองขึ้นมา หาคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็หายไปเสียแล้ว สงสัยพวกนั้นนึกว่าเขาตาย

เสียงคนเดินมาใกล้ๆอีกเสียง เข้ามาในหูเขา
"จะอะไรกันอีกเนี่ย"เขาคิดในใจ
เขานอนเอาสายตามองช้าๆ สังเกตเป็นเสื้อสีแดงเถือก มัดผมสีดำ ไม่ปิดหน้าตาเหมือนคนเมื่อครู่ และที่สำคัญเป็นผู้หญิง
"เจ้าไหวไหมเนี่ย"เสียงผู้หญิงคนนั้นถาม
"อาจจะไม่ไหว เจ้าคือใครเหรอ"เอลวินถาม
"เดี๋ยวค่อยแนะนำตัว ข้าว่าไปที่พักของข้าเถิด เจ้าโชคดีมากเลยนะเนี่ย ที่รอดมาจาก ดัชนีหมื่นจันทรา ของ มือสังหาร มิสึกิ"ผู้หญิงคนดังกล่าวพยุงเอลวินลุกขึ้นมา พร้อมกับจูงม้าวินดี้มาด้วย

"ขอบใจเจ้า"
ผู้หญิงพยุงตัวเอลวินมาอย่างช้าๆ เข้าไปในป่า เอลวินเองก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ผู้หญิงคนนี้แผ่มาให้เขา และที่สำคัญในตอนที่เขาล้มลงในป่า เขามองเห็นหน้าเธอไม่ชัด สิ่งเขาต้องการเห็นที่สุดตอนนี้ คือ ใบหน้าของเธอคนนี้
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #42 on: December 07, 2008, 02:55:04 PM »

มิสึกิ  ???
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #43 on: January 02, 2009, 02:50:47 AM »

Chapter 19 : ทีมงานล่าสังหาร

ในตำหนักแห่งกิเลน กลางเมืองหลวงของประเทศนิโคอุ นางางิสะ

"ท่านไดเมียว การไล่ล่าเป็นอย่างไรบ้าง"จักรพรรดินี มิโกะ มะอิ ทรงตรัสถาม ไดเมียวชุดสีดำ ที่นั่งอยู่บริเวณเยื้องๆของพระที่นั่ง บุคลิกเหมือนคนท้วมดูหน้าตาคราว 50 ปี
"ยังไม่พบ เลยพะยะค่ะ"ไดเมียววัยกลางคน ถวายบังคมแล้วพูด
"แล้ว ทางเหนือล่ะ ท่านไดเมียวก็ไม่พบเลยเหรอ"จักรพรรดินี ทรงตรัสถามอีกรอบ
"ทางผู้ตรวจการภาคเหนือ ชิบาสึ ก็ยังไม่พบเลยพะยะค่ะ ภาคใต้เองก็เช่นกัน"ไดเมียวพูดตอบ
"นับมากี่วันแล้ว ที่มี ข่าวที่ ชิโรอิ จะกลับมาทวงราชบัลลังค์ ข่าวนี้เหมือนมารที่กวนใจข้าเหลือเกิน ท่านไดเมียว ข้าขอกำชับอีกที จับเป็นได้ขอให้จับเป็น แต่ถ้ากลับได้ศพกลับมาก็ไม่เป็นไร เอาล่ะ ท่านออกไปได้แล้วล่ะ"จักรพรรดินีตรัสสั่ง
"พะยะค่ะ"ถวายบังคมแล้วเดินออกมาจากห้องบรรทม

ณ จวนไดเมียวเต่าดำ
มือสังหารสองคน เดินเข้ามาไดเมียววัยกลางคนกลางห้องโถง
มือสังหาร เมื่อเห็นไดเมียว ก็ทำความเคารพ แต่อีกคนไม่สามารถทำได้เพราะ แขนขวาขาดไป
"เกิดอะไรขึ้น มิสึกิ"ไดเมียวไปถามมือสังหารผมสีแดงนาม มิสึกิ
"เป็นความของข้าเอง ข้าประมาทศัตรูมากเกินไป"มือสังหารแขนขาดคุกเข่าลง
"ลุกขึ้นมาเถอะ ชิบะ จงไปหาเซชิ เซชิน่าจะช่วยเจ้าได้ ส่วนมิสึกิ เจ้าจงไป ที่ห้องประชุม ทุกคนกำลังรอเจ้าอยู่"ไดเมียวพูดกับลูกน้อง
"ขอรับ ท่านไดเมียว"

มิสึกิค่อยๆเดินไปห้องประชุม เมื่อเปิดประตูออกมา มี เหล่ามือสังหารและนินจานับ สิบคนนั่งล้อมโต๊ะอยู่ ไดเมียวก็เดินเข้ามาตรงโต๊ะ แล้วก็พูด "มิสึกิ นั่งก่อน"

ไดเมียวก็นั่งลง อยู่ท่ามกลางมือสังหารและนินจานับสิบ
"พวกเจ้าทำงานกันไปถึงไหนแล้ว"ไดเมียวถาม
"ข้าพบร่องรอยของ ชิโรอิแล้ว"มือสังหารหญิงคนหนึ่งลุกขึ้นตอบ
ไดเมียว และมือสังหารทุกคนมองไป เป็นมือสังหารหญิงผมสีน้ำตาลออกจะเป็นเหลืองใส่ชุดรัดกุมสมกับเป็นมือสังหาร
"ว่ามา ยูริ"ไดเมียวพูด
"ข้าเจออยู่ตรงป่าริมถนน นางางิสะ-ชินาโนะ มีหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่า หมู่บ้านซากุระสีรุ้ง"ยูริอธิบาย
"งั้นให้ข้าไปจัดการเลยมั้ยครับ ท่านไดเมียว"เสียงหนุ่มอายุน้อยดังขึ้น สายตาทุกคนมองไป เป็นมือสังหารอายุน้อยที่สุด โฮโนโอะ
"งานนี้ข้าว่าเจ้าคนเดียวคงทำไม่ได้หรอก โฮโนโอะ แต่ถ้าข้าคนเดียวคงสบาย"คราวนี้เป็นเสียงแหบๆ พูดขึ้นมา สายตาทุกคนกวาดไปอีกรอบ เป็น ชายผมสีขาวอมม่วง ชุดสีม่วงทั้งตัว เขาคือมือสังหารเฮียว นากายากุ
"พอเถอะทั้งสองคน เรืองนั้นข้าคิดไว้ในใจแล้ว"ไดเมียวพูดเสียงดังเพื่อหยุดความวุ่นวายในห้องประชุม

"ยูริ คุเรไน ชิสึเนะ พวกเจ้าจงปฏิบัติภารกิจนี้"ไดเมียวพูดช้าๆชัดๆ
เหล่ามือสังหารชายไม่พอใจขึ้นมาทันใดที่ได้ยิน แต่ไดเมียวก็ไม่สนใจ ทั้งสามมือสังหารสาวเดินเข้ามาหาไดเมียว
"ท่านไดเมียว ข้าขอถามอะไรซักอย่าง"คุเรไน มือสังหารหญิง ที่มีผมยาวดำปิดหน้า ซึ่งเป็นคนไม่ค่อยพูด ถาม
"ว่ายังไง คุเรไน"ไดเมียวพูด
"จับเป็นหรือจับตาย"คุเรไนพูดช้าๆ

"ว่าแล้วว่าเจ้าต้องถามแบบนี้ งั้นก็แล้วแต่เจ้าต้องการแล้วกัน" ไดเมียวพูด

 ทั้งสามมือสังหารหญิงก็เดินจากห้องไป

มิสึกิที่นั่งเงียบอยู่นาน ก็นั่งคิดอยู่คนเดียว
"เมื่อวานนี้ ที่ที่เราเจอกับชาวต่างชาติ ก็บริเวณนั้นนี่นา หมอนั่นก็เก่งเอาเรื่องอยู่ เหอะแต่ช่างมันเถอะ ดัชนีหมื่นจันทราน่าจะพามันไปพบยมทูตแล้วล่ะมั้ง"

Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #44 on: January 03, 2009, 02:09:42 AM »

Chapter 20 : ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เวลาเช้ามืด
ณ บ้านหลังหนึ่ง ใน หมู่บ้านซากุระสีรุ้ง
หญิงผิวขาว หน้าตาดี ผมยาวตรงสีดำ กำลังขมักเขม้นทำกับข้าวอยู่ในครัว เมื่อเธอทำอาหารเสร็จ เธอก็ตรงไปที่ห้องนอนของเธอทันที

พบผู้ชายคนหนึ่งพันผ้าพันแผลรอบตัวนอนอยู่บนเตียงไม้ แน่นอน ชายคนนั้น เป็นเอลวิน

เขายังไม่รู้สึกตัวเลย
หญิงสาวผมดำก็ไม่ปลุก ได้แต่วาง อาหารเช้าที่โต๊ะใกล้ๆกับเตียง แล้วเธอก็ไปนั่งอยู่ตรงข้างๆเท้าของเอลวิน

เอลวินเริ่มจะรู้สึกตัว เขาเริ่มลืมตาออกมาเห็นภาพหญิงสาวที่ช่วยเขาไว้เมื่อคืนนั่งอยู่บนปลายเตียง
"เจ้า วินดี้ ม้าของข้าล่ะ"เอลวินห่วงม้าของเขาเป็นสิ่งแรก
"เจ้านี่จริงๆเลย ม้าเจ้าอยู่ในคอกม้าข้างบ้านนี่ล่ะ"หญิงสาวพูดกับเอลวินช้าๆ
"แล้วเจ้า เจ้าเป็นใคร"เอลวินลุกขึ้นมานั่งบนเตียง แล้วเริ่มเพิ่มความดังของเสียงตนเอง
"ใจเย็นๆ ข้าคือ ชิโรอิ ฮาโทเนะ ข้าควรถามเจ้ามากกว่า ว่าเจ้าเป็นใครทำไมมาอยู่แถวนี้ได้"เธอแนะนำตัวแล้วก็ถามเอลวิน
"ข้าเหรอ"เอลวินชี้นิ้วชี้มาที่ตัวเอง ชิโรอิพยักหน้าลง
"ข้า เอลวิน ไบลธ์"เอลวินแนะนำตัว
"เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เจ้าเป็นคนของคณะซิสเตอร์เหรอ"ชิโรอิถาม
"เปล่าซิสเตอร์อะไรกัน ข้าเป็นคนฟิเลเซีย"เอลวินส่ายหัว แล้วพูด

เพล้ง !!!

เสียงกระจกแตกละเอียด ในห้องนอน ชายหญิงที่นั่งอยู่บนเตียงหันไปมอง
ชิโรอิเห็นอะไรลอยเข้ามา
"ระเบิดควันเอลวิน หลบก่อน"ชิโรอิพูด

ฟู่ ควันจากระเบิดควันแผ่ออกเป็นวงกว้าง
มือสังหารชุดดำ โผล่ตัวออกมา พร้อมกับ คาตานะสีดำสนิท ปาดเข้าฟันร่างของชิโรอิ
ชิโรอิหลบทันควัน พร้อมกับหยิบดาบวากิคาชิออกจากฝักที่ติดตัวเธออยู่เสมอ
"ไปเอาม้าสิ เอลวิน"ชิโรอิตะโกนสั่งเอลวิน
เอลวิน วิ่งไปออกไปทางประตูหน้า
 มือสังหารสองคนยืนดักอยู่ ทั้งสองถือ คาตานะเล่มสีดำ เหมือนกันกับคนที่อยู่ในห้องนอน แต่ชุดสีแดงทั้งสองคน

เอลวินเองก็ยังไม่หายดี เลย ไม่คิดจะต่อสู้ เลยวิ่งไปที่คอกม้าอย่างว่องไว

ปัง!!

เอลวินถีบประตูคอกม้าอย่างเร่งรีบแล้วก็ขึ้นไปอยู่บนหลังวินดี้ ทั้งสองมือสังหารตามมาติดๆ หวังจะสังหารม้า แต่วินดี้ ก้าวหลบ เอลวินควบม้า ไปที่หน้าประตูบ้าน ชิโรอิที่มัวแต่ต่อสู้กันอยู่หน้าประตู เห็นเอลวินควบม้ามา
"ชิโรอิ เร็วเข้า"เอลวินตะโกน
เอลวินหยุนม้าที่ประตูบ้าน พร้อมยื่นมือ ชิโรอิคว้ามือเอลวิน แล้วขึ้นบนหลังม้า

มือสังหารทั้งสามก็ตามไปเรื่อยๆ มือสังหารคนหนึ่งวิ่งทันม้า และขว้างคาตานะสีดำใส่ชิโรอิ
ชิโรอิเอาวากิคาชิปัดออกไป

"ข้าว่าแล้ว ว่าจะไม่สำเร็จ"มือสังหารผมสีแดงยืนยิ้มพร้อมถือดาบคาตานะคู่ใจ มือขวาพร้อมที่จะดึงดาบออกจากฝัก
"มิสึกิ!!ลบเร็ว เอลวิน นั่นมันจะใช้ดัชนีหมื่นจันทรา"ชิโรอิทุบหลังเอลวินแล้วพูด

มิสึกิ ดึงดาบออกมาอย่างรวดเร็ว แสงดาบสีขาวพุ่งออกมาจากดาบเป็นร้อย พุ่งเข้าหาม้าวินดี้

แต่เอลวินไม่หลบกลับควบวินดี้เข้าไปตรงๆ
"เอลวินไม่ได้ยินเหรอ บอกให้หลบไง"ชิโรอิพูดเสียงดังขึ้น

"กางปีกสิ วินดี้"

วินดี้สยายปีกออกมา บินหลบแสงดาบเหล่านั้น แล้วขึ้นฟ้าได้อย่างปลอดภัยทิ้งความงง ให้กับมือสังหารเหล่านั้น
"เรื่องบังเอิญใช่มั้ยเนี่ย พระเจ้าช่วยเราไว้อีกแล้ว" ชิโรอิพูด

"ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก และไม่ใช่พระเจ้าด้วยที่ช่วย"
Logged


the St. of Amara
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 3091


Email
« Reply #45 on: January 03, 2009, 02:31:33 AM »

Honoo , the Oinin

อยู่ฝ่าย Shiroi ไม่ใช่หรอครับ           :'(

เหอๆๆ มาโผล่ Nikkou เฉยเลย -*-

 
Logged


S u p e r ~ J u n i o r
Member
*****
Offline Offline

Posts: 1167


Email
« Reply #46 on: January 08, 2009, 01:37:24 AM »

Chapter 21 : ต้นไม้ซากุระสีเลือด

ชิโรอิและเอลวินกำลังนั่งอยู่บนวินดี้ ที่อยู่บนฟ้าเหนือเมืองชินาโนะ

ชิโรอิยัง อึ้งและตกใจไม่หายว่าตนเองมาอยู่นี้ได้ยังไง เอลวินก็อธิบายถึงเปกาซัสไปเรื่อยๆ จนชิโรอิเองเข้าใจ

"นี่เอลวิน เห็นต้นไม้เลือดริมหน้าผานั้นมั้ย"ชิโรอิชี้ไปทางต้นไม้ซากุระสีเลือด ที่เด่นอยู่ริมหน้าผาสูงชัน
"เห็นสิ เจ้าจะทำไรเหรอ ต้นไม้ต้นนั้นมีอะไร"เอลวินหันหลังถามชิโรอิ
ชิโรอิเงียบไปซักพักหนึ่ง "เอลวิน ข้าอยากลงไปไหว้มารดาของข้า ผู้ล่วงลับ" ชิโรอิพูดช้าๆ
"ข้าไม่น่าถามเลย ข้อขอโทษนะ"เอลวินส่ายหัวแล้วพูด น้ำเสียงของเขาดูเอื่อยๆ ชิโรอิจึงตบหลังเบาๆ "ไม่เป็นไรหรอกน่าเอลวิน"

เอลวินก็นำม้าลงข้างหน้าต้นไม้ซากุระสีเลือด ซึ่งดูน่ากลัวมากๆ ชิโรอิเดินเข้าไป ที่ลำต้นช้าๆ และเอามือลูบ คลำลำต้น น้ำตาของเธอเริ่มไหลออกมาช้าๆ

"ฟู่ววววว " เสียงลม พัดผ่านหน้าผาเสียงดัง ใบไม้จากต้นซากุระสีเลือด ร่วงหล่นลงมา ชิโรอิจึงหยิบใบไม้ที่เป็นสีแดงเลือดสดขึ้นมา
"ท่านแม่..."ชิโรอิพูดแม้กระทั่งน้ำตา จนน้ำตาร่วงบนใบไม้ใบนั้น

เหตุอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น

ใบไม้สีแดงเลือดสด เปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน
"ชิโรอิ ลูกแม่"เสียงห้าวๆหน่อยเหมือนผู้ชาย ชิโรอิหันกลับไป เจ้าของเสียงซักครู่ คือ เอลวินนั่นเอง
ชิโรอิอย่าง งงๆ แต่ความช่างสังเกตของชิโรอิ นัยน์ตาสีเขียวของชาวฟิเลเซีย เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอ่อน ชิโรอิ มองที่เพื่อนร่วมทางของเธอ

"แม่ทนทุกข์ทรมาณมา เกือบ 20 ปีเต็ม 20 ปี ที่ผ่านมาหลังจากที่แม่ตาย และได้สาปแช่งผู้คนทั่วทั้งนิโคอุ"องค์หญิงฮิเดโกะในร่างของเอลวินพูด
"แต่แม่ เรื่องมันก็ผ่านมา 20 ปีแล้วนะ แม่ยังไม่ลืมความแค้นอีกเหรอ"ชิโรอิพูดด้วยน้ำเสียงรุนแรงขึ้น
"แม่เจ้าใจลูกนะ ในเมื่อคำสาปแช่งของแม่เกิดผลจริง มีวิธีเดียวที่จะ ถอนคำสาปแช่งนี้ได้ คือ ได้มิโกะกิเลนองค์ใหม่ที่ไม่มีเชื้อสายจากไดเมียว หรือขุนนางชั่วเหล่านั้น ประเทศของเราจะได้สงบสุขเสียที"องค์หญิงฮิเดโกะพูด
"ทำไม แม่ไม่ถอนคำสาปแช่งนั้นด้วยตัวเองล่ะ" ชิโรอิพูด
"แม่ทำไม่ได้ ตอนนั้น เหมือนมีบาปที่เข้าครอบงำแม่ แต่ก็ช่างเถอะ แม่ติดตามดูลูกอยู่ตลอดเวลา เพื่อนลูกทั้งสามคนในโบสถ์น่ะ กำลังมีอันตรายนะ จงรักษาตัวของเจ้าไว้ดี แล้วอีกอย่าง ชายคนนี้ ก็ เป็นเพื่อนของเจ้าอีกคนเช่นกัน"ร่างของเอลวินค่อยๆทรุดลง

"มาโกโตะ ริวสึเกะ อุทาดะ!!!" ชิโรอิตะโกนขึ้นมา เอลวินก็สะดุ้งขึ้นมาทันที

"ไปเถอะเอลวิน พวกเราต้องรีบไป ไปช่วยเพื่อนของพวกเรา"

ชิโรอิยื่นมือจับเอลวินไว้แน่น แล้วดึงเอลวินลุกขึ้นมา เอลวิและชิโรอิขึ้นบนม้าวินดี้ บินขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้าสู่โบสถ์ที่ชิโรอิรู้จักดีริมทะเลชานเมืองนางางิสะ อย่างเร็วที่สุด
Logged


Pages: 1 [2]  All
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.084 seconds with 20 queries.