Summoner Master Forum
April 28, 2024, 09:20:38 AM *
Welcome, Guest. Please login or register.

Login with username, password and session length
News: ประกาศใช้เวบบอร์ดใหม่ http://www.stmagnusgame.com/webboard/index.php

 
   Home   Help Login Register  
Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 10  All
  Print  
Author Topic: Legend of The Thaliwilya (Complete 33 ตอน) update บทพิเศษ ครอบครัว  (Read 134627 times)
0 Members and 2 Guests are viewing this topic.
Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #60 on: January 04, 2006, 09:53:40 PM »

สมิงหมาป่าขี้ผู้ชาย (มูลชาย) นี่เอง
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #61 on: January 04, 2006, 09:56:52 PM »

บทที่ 2 แสงมิตรภาพ part1
 บัดนี้หมู่บ้านมังกรถูกกลุ่มคนลึกลับสิบโจมตีหมู่บ้านที่มีความก้าวหน้าความมั่นคงกลับถูกลุ่มคนชั่วช้าที่อยู่เหนือน่านฟ้าทำลายย่อยยับภายในพริบตา

“ หึๆๆจงตายซะเจ้ามังกรชั้นต่ำเพื่อให้ความประสงค์ของท่านผู้นั้นสำเร็จผล ”
เสียงแหบแห้งจากคนในกลุ่มนั้นดังกังวานขึ้นชายผู้เอ่ยคำประกาศถอดเสื้อคลุมที่ดำตั้ง
ศีรษะจรดเท้าถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นที่หัวมีวงแหวนที่มีอักขระโบราณสลักไว้สวมบนศีรษะสามวงไล่ตั้งแต่วง
เล็กไปใหญ่โดยวงใหญ่ที่สุดสวมไว้ด้านบนสุดเสื้อคลุมของเขาเป็นสีม่วงดำที่ชายเสื้อมีลายสีทองกับแดงสลับกัน

แถบผาดอยู่ด้านในเสื้อคลุมสีดำที่เขาพึ่งโยนทิ้งไปผมสีเขียว ปลิวลู่ไปตามสายลมที่พัดผ่าน

“ ท่าน จาไน ครับกองทหารมนุษย์ที่เราส่งไปตามพวกมันหลุดจากเวทย์สะกด แล้วครับเอาไงดีครับท่าน ”
ชายลึกลับในกลุ่มอีกคนเข้ามาแจ้งข่าวให้ชายคนที่ถอดเสื้อคลุม เมื่อครู่

“ ช่างมันเราแค่ต้องการให้ลูกมักงกรตัวนั้นบอดทางมาที่นี่เท่านั้นพวก เจ้าไปจัดการควบคุมซากมังกรที่ตายแล้วให้ขัดขวางกองทัพของพวกมันซะส่วนข้าจะไปหาสิ่งนั้นเอง ”

จาไน สั่งกลุ่มคนนั้นจบทุกคนในกลุ่มก็พากันโยนเสื้อคลุมทิ้งทุกคน
มีวงแหวนขนาดขนาดกลางที่มีวงแหวนขนาดเล็กกว่าคล้องเอาไว้กันคนละ 4 วงที่
มือสองวงที่หัวอีกสองวงแต่ละวงจะมีเชือกสีทองผูกไว้เสื้อคลุมสีม่วงดำที่อยู่ใต้ผ้าคลุมสีดำ
และผ้าสีแดงยาวสยายพัดสะบัดไปตามลมพวกเขาคือ ดราก้อนเนโครแมนเซอร์ (ผู้ควบคุมมังกรแห่งความตาย)


“ จัดการให้หมดอย่าให้เหลือ ”
สิ้นเสียงคำสั่ง จาไน ก็มุ่งไปยังวิหารที่ถัดจากวิหารเขาพึ่งถล่มมันไปกลุ่ม
 ดราก้อนเนโครแมนเซอร์(ต่อไปย่อเป็น dn )

ก็พุ่งไปคนละทิศคนละทางจากวิหารที่1
สามคนอยู่ที่วิหารนี้สองคนไปยังวิหารที่ 2 ที่อยู่เหนือสุดของมิตินี้
จาไนไปยังวิหารที่3 ที่อยู่ถัดลงมาจากวิหารที่ 2

ซึ่งอยู่กลางมิตินี้อีกสองคนไปยังวิหารที่
 4 ที่อยู่สุดทางทิศตะวันตกอีกสองคนไปยังวิหารที่5  

ที่อยู่สุดทางทิศตะวันออกทุกคนต่างก็แยกย้ายไปยังวิหารรอบมิตินี้
จากวิหารมังกรวึ่งอยู่กลางหู่มบ้านมังกรไปยัง วิหารแห่งน้ำ วิหารแห่งไฟ วิหารแห่งดิน และวิหารแห่งลม
ที่หน้าประตูพวก Lr ได้เดินทางมาถึงแล้ว

” เปิดเลยนะ ”
วิลพูด

“ กีซซซซซซซซซซซซ ” ( เอาสิ )
ทุกคนตอบกลับ

“ กีซซซซซซซซซซซซซซ ” ( ผู้ปกป้องศักดิ์สิทธ์ )
สิ้นเสียงวิลประตูก็เปิดออกเมื่อพวก Lr เข้าไปในมิติมังกรก็ได้แต่ตกตะลึงเมื่อภาพหมู่บ้านของตน
ที่เคย อุดมสมบรูณ์กลับกลายเป็น ทะเลเพลิงไปแล้ว

“ ก็าซซซซซซซซซ ” ( ไงตกใจล่ะสิที่เห็นหมู่บ้านกลายเป็นยังงี้ )
เสียงของใครบางคนที่คุ้นหูมากๆดังสะท้อนออกมาจากเงาใต้ต้นไม้ร่าง สีแดงเพลิงเดินออกมาจากเงามืด

“ กีซซซซซซซซซซซ ” ( น..นิทินโคป..ปีกนายไปโดนอะไรมาน่ะ )
วิลพูดเมื่อเห็นพังพืดปีกของนิทินโคที่ฉีกขาดเป็นรูโหว่ทั้งสองข้าง

“ ก็าซซซซซซซซซซซซซซซ ” (ระหว่างที่ฉันกำลังกลับ มามันก็เป็นงี้ไปแล้วพ่อฉันบอกให้มาหลบอยู่นี่ส่วนพ่อแม่พวกนายน่ะพ่อฉันกำลังไปช่วยแต่ว่าคงยากมากล่ะ)
นิทินโคพูดจบก็หันไปทางหมู่บ้าน

“ ก็าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ ” ( พวกศัตูรมันควบคุมซากของมังกรได้ทำให้เข้าไปไม่ได้สักที )
นิทินโคพูดเสียงเครียด

“ กีซซซซซซซซซซซ ” ( งั้นเราออก ไปตามหาครอบครัวกันเถอะเพราะมีถ้ำอยู่ตรงตีเขาด้านโน้นมันเชื่อมกับถ้ำตรงตีนเขาฝั่งหมู่บ้านเราไปกันเถอะ )
Lr เสนอทุกคนก็เห็นด้วยยกเว้นนิทินโค

“ ก็าซซซซซซซซซซซซซซซ ” ( เอาจริงเหรอมันร้ายกาจสุดๆเลยนะ )
นิทินโคพูดเสียงเรียบ

“ กีซซซซซซซซซซซซ ” ( ยังไงซะเราก็ต้องลองดู )
Lr พูดจบก็นำทุกคนวิ่งไปยังตีนเขานั้น

 " ก็าซซซซซซซซซซซ " ( งั้นก็ตามใจ )
นิทินโคประชดแล้วก็หัลงกลับไปยังต้นไม้นั่น

" กีซซซซซซซซซซซ " ( อีกเดี๋ยวก็จะถึงแล้วนั่นไงทางออก )
Lr พูดขณะที่วิ่อยู่ในถ้ำสักพักจนเห็นแสงสว่าง

" กีซซซซซซซซซซซซซ " ( ถึงแล้วอะนี่มันอะไรกัน )
Lr ร้องด้วยความรื่นเริงแต่ก็ต้องกลับกลายเป็นความ ตกตะลึงแทนเมื่อเห็นศพมังกรที่ถูกคล้องด้วยห่วงของดราก้อนเนโครแมนเซอร์

" เจ้าพวกลูกมังกรข้าจะไม่ให้พวกเจ้าผ่านไปได้หรอกจัดการ "
dn สั่งจบพวกซากมังกรที่ถูกควบคุมอยู่ก็เข้าจู่โจมพวก Lr ทันที

" กีซซซซซซซซซซซ " ( Lr นายไปตาม dvd มาช่วยก่อนละกันเพราะท่าเป็นท่านจะรู้วิธีจัดการกับพวกมันส่วนทางนี้เราจะรับมือเอง )
ไลท์พูด

" กีซซซซซซซซ " ( แต่พวกนายจะไหวเหรอ )
" กีซซซซซซซซซซ "  ( นายต้องไปไม่งั้นเราจะตายกันหมดนะ )
ไลท์ตะคอก

" กีซซซซซซซ " ( อื้อตกลง )
Lr รับคำเสียงสั่นด้วยความเป็นห่วงและเริ่มออกวิ่งไปหา dvd ทันที

" ขัดขวางไว้อย่าให้มันไปได้ "
dn สั่งจบพวกมังกรที่ถูกควบคุมก็ตาม Lr ไปแต่ก็ถูกเปลวเพลิงสีขาวเผาจนมอดไหม้

" อะไรกัน "
dn พูดแล้วหันไปข้างหลัง

" กีซซซซซซซซซซซซ " ( เราไม่ยอมให้แกทำหรอกพวกเราลุย )
สิ้นเสียงของไลท์ทุกคนก็เฮโลกันเข้าจู่โจมกันอย่างดุเดือด

ที่ใต้ดินของวิหารมังกร
 " ฮูมมมมมมมมมมมมม " ( อาที่นี่มันจริงสิเราติด อยู่ใต้วิหารเพราะใครบางคนระเบิดวิหารนี้นี่นา )
dvd เอ่ยเสียงการสู้รบกันดังมาจากข้างบน

" ฮูมมมมมมมมมมมมม " ( อะเราจะชักช้าไม่ได้ แล้วทุกคนกำลังสู้กันอยู่ถ้าเดาไม่ผิดจะเป็นพวกที่เทียแมตบอกแน่ๆงั้นก็แสดงว่ามันต้องการศิลามังกรนี้แน่เราต้องเอามันออกไปเพื่อให้พ้นมือของพวกมันทางใต้ดินนี้เชื่อมต่อกับวิหารอื่นๆมันน่าจะออกได้สักวิหารล่ะ )
dvd พูดจบก็ออกเดินไปตามใต้ดิน

โปรดติดตามตอนต่อไป ;)
ปล. part 2วันศุกร์นะคับที่ต้องแยกเพราะแทบไม่ได้พักเลยขอพักหน่อยเถอะนะคับ ;D
« Last Edit: November 06, 2008, 01:30:02 AM by greamon » Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #62 on: January 07, 2006, 12:37:20 AM »

dvd เดินไปตามทางเดินใต้ดินของวิหารเพื่อหาทางออกขณะที่ทุกคนในหมู่บ้าน
กำลังสู้กันอยู่แม้ทุกคนในหมู่บ้านจะรวมพลังกันสู้แต่ด้วยมังกรที่ dn ใช้ต่อกรด้วยนั้นกลับเป็นมังกรที่หาตายไม่
แม้กำลังมังกรของหมู่บ้านจะลดจำนวนลงแต่ มังกรของพวกมันกลับหาลดลงไม่ ตรงข้ามกลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย

 เมื่อมังกรตายหนึ่งตัวพวก dn ก็จะนำซากของมังกรนั้นมาเป็นพวกทำให้ทั้ง กองทัพในหมู่บ้านและกองทัพที่มาช่วยเหลือไม่อาจต่อต้านกำลังของพวกซากมังกรที่ถูกควบคุมได้ ในระหว่างนั้นพวก ไลท์ กำลังต่อสู้อย่างยากลำบากด้วยตัวเป็นเพียง มังกรน้อย แต่กลับต้องต่อกรกับอำนาจมืดที่มีกำลังกล้าแกร่ง


" กีซซกีซซซ " ( แฮ่กๆ )
ไลท์ หอบด้วยความเหนื่อยเพราะต้องปล่อยพลังออกมาตลอดเหล่ามังกรน้อยตัว
อื่นๆเองก็เริ่มอ่อนกำลังลงเช่นกัน

" กีซซซซซซซซซซ " ( นี่นายคิดว่า Lr เจอ dvd หรือยังน่ะพวกเราเริ่มเหนื่อยอ่อนลงทุกทีแล้วนะ  )
นิลเฮอร์ถามไลท์ด้วยเสียงเหนื่อยหอบและก็คอยโจมตีศัตรูไปด้วย

" กีซซซซซซซซซซซซ " ( เราต้องเชื่อมั่นในตัว Lr นะฉันเชื่อว่าเขาจะต้องทำสำเร็จเขาจะต้องไม่ทำให้ฉันผิดหวังแน่นอน )
ไลท์กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

" แกคิดเหรอว่าเจ้าเด็กนั่นมันจะทำสำเร็จหึๆ "
 dn ที่กำลังเผชิญหน้ากับพวกเขาพูดขึ้น

" กีซซซซซซซซซซซซซซ " ( ยังไงซะเขาก็ต้องทำได้ฉันเชื่อในตัวเขา )
ไลท์พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

" หึๆฮ่าๆ "
dn หัวเราะด้วยความสะใจ

" กีซซซซซซซซ " ( ขำอะไรของแกน่ะ )
ไลท์ตะคอกทำให้ dn หยุดหัวเราะไปชั่วขณะและเริ่มพูดต่อ

" พวกแกเชื่อมั่นในตัว เด็กมนุษย์คนนั้นด้วยรึทั้งๆที่มันเป็นตัวการที่ ทำให้พวกเจ้าต้องลำบากมาจนถึงทุกวันนี้เจ้ายังหวังในตัวมันอีกรึ หึๆ...ยังไงซะข้าจะบอกให้เอาบุญว่าพวกข้าน่ะได้
กระจายกันออกไปทำลายวิหารศักดิ์ทั้งสี่แล้วและเจ้า dvd หน้าโง่นั่น
ก็ติดอยู่ใต้วิหารป่านนี้หัวหน้าของขัาคงจะ ไปรอมันอยู่ที่วิหารแห่งดินซึ่งเป็นวิหารที่ 3
แล้วและจัดการเก็บมันไปแล้วอีกอย่างถ้าเจ้าเด็กนั่นเดินไป โต้งๆยังงั้นมัน ก็คง ถูกฆ่าไปแล้วล่ะ
ถ้ามันจะตามหาน่ะนะหรือไม่ก็คงหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว แล้วล่ะแล้วทีนี้ เจ้ายังจะเชื่อในตัวมันอีกไหมฮ่าๆๆๆ "

dn พูดจบก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งและ ในเสี้ยววินาทีนั้นเองพวกของไลท์ก็กจับตัวเอาไว้หมด


" หึๆแล้วทีนี้เจ้ายังหวังอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ "
dn พูดจบ ไลท์ ก็เงียบไปครู่หนึ่งในใจของเขาบัดนี้ปวดร้าวด้วยความสิ้นหวังความกลัวที่กลัวว่าตนไม่สามารถเชื่อใจเพื่อนของตนได้อีกแล้วหรือแต่เขาก็พยายามที่จะไม่เชื่อเช่นนั้นไม่ เขาคงเชื่อ
 เชื่อมั่นมาตลอดว่าเพื่อนของเขาจะต้องไม่ใช่คนที่เห็น แก่ตัวเช่นนั้นไม่ต้องไม่ใช่แน่
ไลท์ค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆแล้วกล่าวว่า

" กีซซซซซซซซซซซ " ( เชื่อสิฉันเชื่อมั่นในตัวเขามาตลอด ไม่มีทางที่เขาจะหักหลังเราไม่มีทาง Lr หรือว่านายหรือว่านายจะ.. )
ไลท์กล่าวเสียงสั่นด้วยความขมขื่นที่ตนไม่เชื่อใจเพื่อนแล้วหรือ

" หึๆคงจะเข้าใจแล้วสินะว่ามนุษย์ก็คือมนุษย์สิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น มาด้วยพระหัตถ์ของตนเองก็ยังมีความชั่วความกลัวอยู่ในจิตใจปีศาจต่างหากที่จะต้องคอยพิพากษาทุกสิ่งปีศาจต่างหากคือ
ความถูกต้องหากไม่เป็นเช่นนั้นท่านก็ลองดูสิสัตว์เทพเช่นพวกมันถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เช่นนี้แต่มนุษย์ที่ท่านเชื่อพวกมัน นักหนากลับทรยศต่อพวกมันเองหรือนี่สิ่งที่ท่านต้องการกันแน่ "
dn กล่าววาจาดูหมิ่นพระเจ้าสูงสุดแห่ง โลกเทอร่า ดูหมิ่นสววรค์อย่างร้ายแรง

" กีซซซซซซ " ( ไม่..ไม่หรอกถึงยังไงฉันก็ยังเชื่อใจ Lr ว่าเขาจะต้องไม่หักหลังฉันอย่างเด็ดขาดรู้เอาไว้ซะด้วย )
ไลท์ตะโกนสุดเสียงพร้อมกลับพ่นเปลวเพลิงออกมาอีก ครั้งเปลวเพลิงพุ่งผ่านแขนเสื้อข้างขวาของ dn ไหม้จนเป็นรูโหว่

" หนอยยฆ่ามันให้....อุ้บ "
 dn พูดด้วยความเจ็บปวดแต่ ก็ยังไม่ทันที่จะขาดคำเขาก็โดนเปลวเพลิงอันร้อนละอุปกคลุมเอาไว้

" ก็าซซซซซซซซซซ " ( ยังไงซะเจ้านั่นก็ไม่มีทางทิ้งเพื่อนได้หรอก )
เจ้าของเปลวเพลิงพูด ลงมาจากฟากฟ้ายามค่ำคืนที่บัดนี้สว่างไสวด้วยเปลวเพลิงจากการสู้รบ
นิทินโคกันลูกน้องมังกรไฟของเขานั่นเองที่มาช่วยเอาไว้

" ก..กีซซซซซซ " ( น..นิทินโค )
ลูกมังกรที่อยู่ข้างล่างร้องเป็นเสียงเดียวกัน

" ก็าซซซซซซซซ " ( อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะ ว่าฉันจะเชื่อใจเจ้าหมอนั่นด้วยฉันแค่มาช่วยพวกนาเท่านั้น
ตอนนี้กองทัพมังกรมืดของหมู่บ้านมังกรมืดและกองทัพมังกรศักดิ์สิทธ์มาถึงแล้วไม่เชื่อก็ดูนั่นสิ )
นิทินโคพูดจบก็ชี้ไปทางท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านมังกรบัดนี้เหนือน่านเต็มไปด้วยทัพมังกรแสง
และทัพมังกรมืด ร่วมแสนกำลังโบยบินอยู่เหนือน่านฟ้า


" ย้ากกก "
เสียงดังมาจากเปลวเพลิงที่พึ่งจะลุกไหม้ใส่ dn ไปเมื่อครู่ดังออกมา dn พุ่งออกมาจากกองไฟ

" หนอยยยพวกแกเจ้าลูกมังกรจอมจุ้นทั้งหลายข้าจะฆ่าให้หมด "
 dn กล่าวด้วยวาจาโทสะและเริ่มควบคุมซากมังกรอีกครั้งแต่แล้ว ก็มีคลื่นพลังที่รุนแรงอันเกิดจากการรวมของ สายน้ำ เปลวเพิลง สายลม ผืนดิน พุ่งลงมายัง dn และระเบิดอย่าง รุนแรงลูกมังกรทั้งหมดซึ่งตอนนี้หลุดจากพันทนาการของซากมังกร ต่างพากันบินหนีออกไปจากบริเวณนั้น

" ก็าซซซซซซซซ " ( มานี่ฉันจะพานายไปหา dvd เอง )
นิทินโคพูดขณะที่จูงมือไลท์พาไปยังวิหารดิน

.............
...................


ที่ใต้ดินของวิหาร

" ฮูมมมมมมมมมมมมม " ( ทางนี้ก็ปิด หรือเนี่ยงั้นก็เหลือแต่วิหารดินวิหารใจกลางวิหารเดียวสินะ )
 dvd เดินไปตามทางสักระยะก็เห็นแสงสว่างอยู่ที่ปลายทางข้างหน้า
" ฮูมมมมมมมมมมมมม " ( อะฮ้าทางออกเจอแล้ว )
dvd รีบว่งไปยังทางออกขึ้นบันไดไปยังวิหารแห่ง dvd หลับตา ไปด้วยขณะที่เดินขึ้นมายังวิหารเพื่อปรับระดับสายตาให้เข้ากับแสง

" มาแล้วรึส่งศิลามาให้ข้าเดี๋ยวนี้ "
ร่างของชายคนหนึ่งปรากฎอยู่ตรงหน้า dvd

" ฮูมมมมมมมม " ( ค..ใครน่ะ )
dvd พูดและค่อยลืมตาขึ้นสู้แสงจนในที่สุดเมื่อ เขาเห็นชัดเจนจึงได้เห็นตัวการที่โจมตีหมู่บ้านนั้นมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

" ฮูมมมมมมมมมมมม " ( ก..แกจาไนสินะ )
dvd พูด

" โอ้รู้จักข้าด้วยรึแต่ว่านะเรามาคุยกันด้วยภาษามนุษย์ดีกว่านะ "
จาไนมีสีหน้าทึ่งเล็กน้อย

" ก็ได้ในเมื่อแกล่อให้ข้ามาถึงนี่ก็คงจะเตรียมใจไว้แล้วสินะ "
dvd กล่าว

" ใครกันแน่ที่ต้องเตรียมใจไว้ "
จาไนกล่าวจบก็ไม่รีรอรีบโจมตี dvd ทันทีคลื่นพลังสีดำกระจายไปทั่ววิหาร

" Aurora Beam "
สิ้นเสียงของ dvd แสงสีขาวก็กระจายกลบแสงสีดำของจาไนจนหมด

" กีซซซซซซซซซซซ " ( อะนั่นไงที่นั่นแน่ๆ )
ไลท์พูดเมื่อเห็นวิหารแห่งมีแสงสว่างวาบสลับการออกมา

" ก็าซซซซซซซซซซซซซซ " ( งั้นนายไปก่อนละกันฉันจะไปสมทบกับพ่อฉันหน่อย )
นิทินโคพูดแล้วทั้งสองจึงตกลงที่จะแยกกัน
เมื่อนิทินโคพาไลท์ลงมายังวิหารแล้วจึงบิน
กลับไปไลท์วิ่งไปที่วิหารแต่ยังไม่ทันที่จะไปถึงก็เกิดแผ่นดินไหว
จนวิหาร ถล่มลงไลท์ล้มลงไปขุกเข่ากับพื้นจากนั้นก็มีแสงวาบออกจาซากวิหารที่ถล่ม

" อา....ไลท์ "
dvd พูด

" กีซซซซซซซซซ " ( พ่อครับ )
ไลท์วิ่งเข้าไปหา dvd

" ฮูมมมมมมมมม " ( เราต้องช่วยหมู่บ้านแล้วเอาล่ะไลท์เตรียมพร้อมนะ )
dvd พูด

" กีซซ " ( ครับ )
ไลท์รับคำแล้วทั้งสอก็เดินเข้าหากันเกิดแสงสว่างขึ้นรอบบริเวณนั้น

" growth "
สิ้นเสียงแสงก็ค่อยๆจางลงทั้งสองรวมกันกลายเป็น Valvathos, the divine dragon




และแล้วเจ้ามังกรยักษ์ ก็บินขึ้นไปยังท้องฟ้าและรวบรวมพลังงานแสงสาดกระจายแสงศักดิ์สิทธ์
กระจายไปทุกหนแห่งขจัดซึ่งความชั่วร้ายจนหมดสิ้น ซากมังกรที่ถูกควบคุมก็กลับไปเป็นเพียงซากไร้ชีวิตไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้เหล่า dn ก็แตกสลายกลายเป็น ผุยผงไปในเวลา
เดียวกันพวกวิลเองก็ได้พบกับครอบครัวตอนนี้ดูเหมือนเหล่ามังกรจะได้รับชัยชนะ
แล้วแต่ทว่า วอลวาทอส ก็ถูกคลื่นพลังที่รุนแรงกระแทกจนตกจากฟากฟ้า

และทันใดนั้นเองก็มีภาพเงาของคนคนหนึ่งปรากฎอยู่บนท้องฟ้า
" หึเหล่ามังกรทั้งหลายบัดนี้พวกเจ้าอย่าได้หวังเลยว่าจะพวก
เราได้เอาล่ะ จาไน จงลุกขึ้นมาข้าจะมอบพลังให้เจ้า "

สิ้นเสียง ก็มีแสงสีดำถูกยิงลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับภาพนั้นก็หายไปในบัลดล
แสงนั้นตรงไปยังวิหารและระเบิดซากของวิหารที่ทับ จาไน อยู่บัดนี้ จาไน ได้รับพลังจากผู้ลึกลับผู้

หนึ่งจนมีพลังมากมายจไนลอยขึ้นไปยังท้องฟ้าและปล่อย คลื่นพลังสีดำไปทั่วหมู่บ้านเหล่ามังกรต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันหมดที่ป่าด้านล่าง Lr ได้วิ่งไปยังจุดที่ dvd กับไลท์ตกไปจนเมื่อมาถึงเขาก็พบกับไลท์

" ไลท์นายเป็นอะไรรึเปล่าไลท์พุดกับฉันสิไลท์ "
 Lr เขย่าร่างไร้สติของไลท์ตาของไลท์ค่อยๆลืมตาขึ้น

" Lr นายนายไม่ได้ทิ้งเราไปใช่ไหม "
ไลท์พูดด้วยเสียงเหนื่อยอ่อนจากอาการบาดเจ็บ

" ไลท์นายพูดอะไรน่ะฉันไม่มีทางทิ้งนายอยู่แล้ว "
 Lr พูด

" งั้นเหรอแนดีใจจริงที่นายไม่เป็นอะไรอึ้ก "
ไลท์พูดจบเขาก็หมดสติไป Lr ถึงกับช็อกที่ไลท์หมดสติไปเขาอุ้มร่างของไลท์ขึ้นมาแล้วเงยหน้าขึ้น

" ไลท์ "
เขาตะโกนสุดเสียงจนดังลั่น ไปทั้งป่าทันใดนั้นศิลามังกรที่ตกอยู่ข้างก็ส่องแสงออกมา

" Metamorphose Fusion ( เมตามอฟอส ฟิวชั่น ) "
เสียงดังกังวานออกมาพร้อมกับแสงสว่างจ้าจาก ศิลามังกร ลำแสงพลังงานสีขาว พวยพุ่งออกมาขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วและแตกกระจายออกเป็นวงแหวนแสงขนาดใหญ่ขึ้นมาหนึ่งวงละอองแสงกระจาย
ฟุ้งออกจากวงแหวนแสงขนาดไปทุกทิศทางวงแหวนแสงเริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่อยวงแหวนแสงที่หมุนเร็วขึ้นรวมเอาละอองแสงที่กระจายออกมาในตอนแรกจนหมดและ

แล้วลำแสงพลังขนาดใหญ่ก็ถูกยิงลงมาทั้งสองในลำแสงร่างของทั้งสองได้ รวมกันเป็นหนึ่งร่างกายที่รวมกันของทั้งสองนั้นค่อยๆเติบ โตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นลำแสงพลังงานก็ สลายไปเหลือไว้แต่เรือนร่างของทั้งสองที่รวมกันเป็นหนึ่งยังคงส่องแสงเจิดจ้า และค่อยๆจางลง

เผยให้เห็นร่างอัศวินมังกรสีขาวสะอาดปีกทั้งสอง ข้างที่สวยเหมือนดั่งปีกของพญาหงส์ตาสีแดงน่าเกรงขาม
มือข้างขวาถือแท่งพลังงานแสงที่ยังคงส่องประกาย เจิดจ้าอยู่สักพักมันก็ค่อยเปลี่ยนรูปร่างเป็นดาบสีทองที่มีแถบสีขาวพาดอัศวินมังกรตนนั้นสบัดปีกทั้งสองข้างเพื่อไล่ละอองพลังงานที่ยังติดอยู่ออกจากร่างจากนั้นก็ยกดาบขึ้นฟาดฟันเนกระบรวนท่าอันสวยงามน่าเกรงขาม

บัดนี้ไลท์กับ Lr ได้รวมร่างกันเป็นอัศวินมังกรแห่งทาลิวิลย่า( Thalucus, the Dragoon of Thaliwilya )



" ไลท์ เป็นเพื่อนของฉันใครก็ตามที่มาทำกับเขาแบบนี้ฉันจะไม่อภัยให้เด็ดขาด "
ทาลูคูสพูดด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

โปรดติดตามตอนต่อไป ;)
ตัวอย่างตอนต่อไป
ในที่สุดด้วยมิตรภาพความเชื่อใจซึ่งกัน และกันทำให้ทั้งสองกลายเป็นอัศวินมังกรแสงแห่งมิตรภาพและเข้าต่อกรกับจาไนอีกครั้งขณะเดียวเกรเกอรี่เองก็กำลังพาชาลว์มายังหมุ๋บ้านมังกรตามด้วยขบวนเสด็จของกษัตริย์ซิกมันเรื่องราวจะเป็นเช่นไรติดตามได้ในบทที่ 3 การเริ่มต้น
« Last Edit: November 06, 2008, 01:39:56 AM by greamon » Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #63 on: January 08, 2006, 10:31:33 PM »

ต้องขอโทษด้วยนะคับที่วันเสาร์กับวันอาทิตย์นี้ไม่ได้ลงไว้ก็เพราะผมต้องไปธุระที่ต่างจังหวัดก็เลยไม่ได้เขียนเลยเพราะฉนั้นผมจะรวบยอดไปวันพุธนะแต่ถ้าวันพุธตอนพิเศษไม่จบอีกผมจะต่อวันพฤหัสเลยต้องขออภัยที่ไม่ได้โพสเพิ่มเติมเลยนะคับสวัสดีคับ :'(
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #64 on: January 15, 2006, 05:41:34 PM »

พื้นที่ลงตอนพิเศษ เก็บไปรวมไว้ที่เดียวกันแล้วจ้ะ เพื่อความสะดวก
« Last Edit: September 14, 2008, 06:15:25 PM by greamon » Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #65 on: January 16, 2006, 05:24:03 PM »

มาวาดแฟนอาตร์กันเถอะLegend  of The Thaliwilya กันเถอะ
ยังจำกันได้มั้ยว่าในเรื่องน่ะนะจาไนเคยพูดถึงท่านผู้นั้นซึ่งก็คือหัวหน้าของจาไนนั่นเองและเขาก็คือผู้ที่ก่อสงครามครั้งนี้ขึ้นหน้าตาจะเป็นยังไงเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองวาดภาพท่านผ้นั้นกันดูและทาลิวิลย่าตอนพิเศษที่สู้กับเอเลี่ยนน่ะคับได้ติดปืนของทิโมธีไว้ด้วยเป็นยังไงเชืญวาดกันได้นะคับที่ลิงค์นี่เลย http://www.santoninogame.com/yabb/index.php?board=25;action=display;threadid=18039





รูปนี่ผมไม่ได้เป็นคนวาดนะคับเพื่อนเขาฝากมาลงนะคับ
อ้อระบุด้วยว่าวาดตัวไหนหรืออยากจะส่งตัวอื่นๆมาด้วยก็ได้นะคับแต่ขอให้เกี่ยวกับมังกรนะงับอ้อเกือบลืมนิยายวันเสาร์นะคับเมื่อวานรีบเลยพิมพ์ผิดเป็นวันจันทร์ส่วนเรื่องใหม่อีกเรื่องอาทิตย์วันพุธคับ
ขอขอบคุณเรื่องรูปภาพโดยก็อบเพื่อนของผมนะคับ ;D
« Last Edit: January 16, 2006, 05:26:02 PM by greamon » Logged


Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #66 on: January 17, 2006, 08:30:52 PM »

รูปมันเจอบีบ ๆ อัด ๆ เลยดูยากจัง น่าทำแยกเป็นรูป ๆ ชัด ๆ นะครับ
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #67 on: January 20, 2006, 08:22:49 PM »

หวัดดีคร้าบบบบ ฮ่าๆๆจะหวัดดีใครล่ะเนี่ยช่วงนี่กระทู้ผมเงียบจังไม่รู้ อีฟจัง กับ นิฮิล ยังดูอยู่รึเปล่าเนี่ยคับ(ฮือๆๆไม่มีคนดูเนี่ยเลิกเลยดีไหมเนี่ย :'( ฮือๆๆ ฮ่าๆๆบ้าไปแล้วล้อเล่นคับแต่ยังไงๆก็โพสกันบ้างสิอาทิตย์ก่อนกระทู้เกือบตกไปหน้าสองแน่ะ)
เอาเถอะครับตอนนี้ทุกคนคงรู้ดีว่าทาลิวิลย่าจะต่อเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์
แล้วนะครับสาเหตุมาจากที่ตอนนี้เรื่องเข้าตอนหลักแล้ว
(บอกก่อนนะว่ายังหนุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน) แล้วตอนนี้วันพุธไม่ได้ลง
อะไรแล้วคงเบื่อแย่ถ้างั้นวันพุธหน้าที่กำลังจะถึงผมจะลงอีกเรื่องไว้อีกกระทู้นะครับ
ชื่อเรื่องคือ Summoner Master Duel Legend นะคับเรื่องเป็นเกี่ยวกับการเล่นการ์ดซัมมอนเน่อเนี่ยแหละครับแต่ว่าที่แล้วๆมาไอ้เรื่องเกี่ยวกับเล่นการ์ดเนี่ยถ้าไม่เป็น
ยุคอนาคตที่การ์ดเป็นโปรแกรมแบบของที่คุณนิฮิลแต่งอยู่( smn system code เนี่ยแหละปล.ต่อตอนซะทีอยากอ่าน ) หรือไม่ก็เป็นยุคปัจจุบันที่เป็นการร่ายเวทย์ออกมาจากการ์ดทำเสมือน
การ์ดเป็นเวทย์มนที่ใช้เรียกสัตว์อสูรหรือนักรบออกมาของอีกหลายๆคนแต่ว่าไอ้แบที่เป็นการ์ดเล่นกันธรรมดาเนี่ยไม่ค่อยได้เห็นเพราะฉนั้นเราเลยแต่งเองซะเลย(แต่ขอบอกก่อนนะว่าเราไม่เอาตัวเอกชนะตลอดหรอกไม่งั้นน่าเบื่อตายแถมในเรื่องยังมีคนเล่นการ์ดที่ไม่ใช่มนุย์ด้วยแต่เรื่องยุคมันเป็นอนาคตน่ะสิเหอๆ ;D) เพราะฉนั้นผมจะเอามาลงให้วันพุธหน้าน่ะครับตอนเย็นๆเพราะตอนเช้าผมไปเรียนอ่ะดิทีนี้นอกเรื่องมาซะนานที่จริงโพสนี้ผมโพส tip for dragonology น่ะเล่นคุยเพลินไปหน่อยเอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า
tip for dragonology  เรื่องส่วนต่างๆของนิยาย

สำหรับตอนนี้เข้าถึงส่วนในนิยายแล้วนะครับในบทที่หนึ่งกับบทที่สองทุกคนอ่านก็คง งงๆว่ามันยังไงผมเขียนเองยังงงเลยเช่นบทที่หนึ่งนั้นผมเขียนบรรยายภูมิศาสตร์ของหมู่บ้านแบบงงๆ
เพราะมีวิหาร
กลางหมู่บ้านมังกรตั้ง 5 แห่งแต่ผมดันไปเขียนว่าเป็นหมู่บ้านมังกรหมู่บ้าน
เดียวซะเฉยๆแล้วมันก็ถูกนะครับสำหรับผู้อ่านที่เข้าใจว่าเป็นหมู่บ้านเดียวน่ะถูกแล้วครับเพราะมันมีหมู่เดียวจริงๆตรงกลางน่ะ
มีวิหารที่1ที่พวกจาไนทำลายไปเพื่อปิดทางเข้าออกของดีวายดราก้อนก็คือวิหารมังกร ส่วนวิหารอื่นๆ
อยู่นอกหมู่บ้านโยแต่ละวิหารจะตั้งอยู่ตรงกับที่ตั้งของชนเผ่ามังกรเพราะมังกรที่อพยพเข้ามายังมิติที่ Lr อยู่ก็ไม่ได้มีแค่พวกเดียวหากแต่เข้ามาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อนแต่ก็เป็นชนเผ่าเล็กๆกระจายกันอยู่ไม่ได้รวมตัวกันสร้างหมู่บ้านดังเช่นพวก Lr นั่นเพราะเหล่ามังกรที่สร้างหมู่บ้านนั้นเป็นกลุ่มมังกรชุด
ที่ช่วยอิสราเฟลจัดการกับซินจึงอยู่ด้วยความสามัคคีกันได้แต่หลังก็เริ่มแตกแยกบ้างเพราะด้วย
มังกรเก่าๆนั้นบางตัวได้ตายตามระยะกาลเวลาไปทำให้เหลือแต่ลูกหลานซึ่งไม่ได้รับพรจากอิสราเฟล
จึงทำให้แตกแยกกันแต่ด้วยความสัมพันธ์กับมังกรธาตุอื่นๆที่สืบทอดทางสายเลือดมายังลูกหลานก็ยังคงไหลเวียนอยู่ไม่จางหายไปทำให้ยังอยู่ร่วมกันได้แต่มังกรอื่นๆที่อพยบเข้ามาทีหลังไม่ได้รับพรจาก  อีสราเฟลจึงไม่มีความสามัคคีและแตกแยกกันด้วยนิสัยของมังกรไม่ค่อยจะชอบอยู่เป็นฝูงกันซักเท่าไหร่หากไม่ใช่ชนิดเดียวกันจึงกลายเป็นอยู่กันเป็นชนเผ่าแทนแต่มังกรแสงนั้นกลับเข้ากันได้กับมังมังกรชนิดอื่นเนื่องจากในสงครามซินนั้นมังกรแสงกลับใจไปช่วยเทพเป็นฝ่ายแรกจึกได้รับพรฝังลึกกว่ามังกรอื่นและด้วยที่ว่ามังกรแสงเดิมก็ชอบที่จะอยู่กันเป็นฝูงอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะอยู่ร่วมกันกับมังกรอื่นส่วนวิหารมังกรนั้นหากอ่านดีๆจะเข้าใจว่า วิหารแห่งดินอยู่ที่ใจกลางของมิติซึ่งคือวิหารที่3 ส่วนวิหารที่2 อยู่ข้างบนสุดของมิติเป็นวิหารแห่งลม และจากวิหารแห่งลมวิหารแห่งไฟที่เป็นวิหารที่4ก็อยู่เยื้องมาทางซ้าย และวิหารแห่งน้ำก็อยู่ตรงข้ามกับวิหารแห่งไฟจะเห็นได้ว่าวิหารมังที่อยู่
กลางหมู่บ้านมังกรอยู่ด้านล่างของมิติก็หน้าประตูทางเข้าแล้วทีนี้ในบทที่สองพวกหมู่บ้านมังกรมืดและกองทัพมังกรศักดิ์สิทธิ์ตามมาช่วยนั้นมาจากไหนขอเริ่มจากชั้นมิติมังกรก่อนเลยนะคับ
มิติมังกรนี้ใช่ว่าจะมีชั้นเดียวแต่มันมีด้วยกันสี่ชั้นชั้นกลางก็คือชั้นที่พวก Lr อยู่ชั้นบนก็คือเมืองมังกร
เทพและมิติด้านหลังที่อยู่ชั้นเดียวกับพวก Lr ก็คือมิติหมู่บ้านมังกรมืดแต่อยู่ด้านหลังส่วนชั้นล่างสุดเป็นมิติมังกรที่รับใช้ซิน
โดยแต่ละมิติก็มีข้อจำกัดในการเข้าออกด้วยเช่นกันโดยหมู่บ้านมังกรมืดนั้นการจะเข้าไปจะต้องท่อง
บทเปิดประตูที่เป็นภาษามังกรมืดด้วยเหมือนกับประตูทางของมิติมังกรที่พวก Lr อยู่ที่จะต้องท่องบทเปิดประตูซึ่งก็คือโฮลี่การ์เดี้ยนนั่นเองส่วนของมิติมังกรเทพนั้นจะเป็นระดับเมืองเพราะมีมังกรเทพอาศัยอยู่มากและยังมีความเจริญสูงกว่ามิติกลางซะอีกแต่เงื่อนไขการเข้านั้นยุ่งยากมากๆนั่นก็คือจากมิติกลางตัวมังกรที่จะขึ้นไปจะต้องเป็นมังกรที่ได้รับอนุญาตจากมังกรเทพหรือตัวมังกรนั้นเป็นมังกรที่มีชั้นระดับเทพส่วนมิติมังกรรับใช้ซินก็คือส่วนที่ผนึกพวกมังกรซินเอาไว้แต่ที่มันมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะมิติมังกรนั้นถูกสรางให้เชื่อมกันเอาไว้แต่แบ่งสัดส่วนกันนั่นเพราะการสร้างมิตแต่ละมิติไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างเพราะพระเจ้าสูงสุดแห่งโลกเทอร่าต้องใช้เวลาในการสร้างเช่นกัน
จึงต้องรวบเอาไว้ด้วยกันส่วนเงื่อนไขการเข้าก็คือการที่มังกรตัวนั้นหันไปเข้าหาซินและรับใช้เหล่าซิน
ส่วนการเข้าจากมิติอื่นๆมายังมิติกลางนี้จากมิติหมู่บ้านมังกรมืดนั้นแค่ท่องโฮลี่การ์เดี้ยนบทเปิดประตูของมิตินี้เท่านั้นแต่อีกสองมิตินั้นแตกต่างกันด้วยเพราะว่าแม้มังกรมืดจะเป็นมังกรที่กลับใจมาเป็นฝ่ายเทพหลังสุดแต่ก็เป็นเพียงมังกรธรรมดาหาใช่มังกรปีศาจเช่นพวกมังกรซินไม่
มิติมังกรเทพนั้นการจะเข้ามายังมิตินี้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากสภาเทพมังกรซะก่อนส่วน    
มังกรซินนั้นจะไม่สามารถออกจากมิติของตนได้ยกเว้นจะมีผู้ใดนำศิลามังกรเทพมาไว้ที่วิหารดินซะก่อนโดยศิลามังกรที่จะนำไปทำพิธีเปิดนั้นต้องเป็นศิลาของมังกรเทพที่อีสราเฟลร่วมรบด้วยซึ่งก็คือมังกร Sunthawilight the dragon of god ที่มีเพียงก้อนเดียวส่วนที่มาของมันเราจะมาพูดถึงกันตอนหน้า
ซึ่งการเปิดประตูแบบนี้นั้นจะเป็นการนำเอามิติทั้งสี่มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว(และนั่นก็คือพลังของศิลามังกรนี้เองที่มีพลังในการรวมสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าด้วยกันได้ทำให้พวก Lr รวมร่างกันได้)
ทำให้มังกรที่อยู่อีกสามมิติจะมาอยู่รวมกันที่เดียว
เอาล่ะคับก็จบกันแค่นี้นะคับสำหรับโพสแล้วเจอกันคราวหน้านะคับอ้อวันนี้ไม่มีตอนต่อไว้ต่อพรุ่งนี้เพราะว่าวันนี้ติดธุระแล้วเจอกันใหม่วันพรุ่งนี้นะคับ ;)

Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #68 on: January 22, 2006, 11:35:18 PM »

บทที่3  การเริ่มต้น

ท้องฟ้าเหนือหมู่บ้านมังกรสะท้อนแสงไฟจากต้านล่างจนกลายเป็นสีแสดเหมือนท้องฟ้ายามเย็นที่ไม่มีดวงอาทิตย์เบื้องล่างเปลวไฟลุกโชติช่วงเผาผลานซากสิ่งก่อสร้างของ หมู่บ้านและเหล่าซากมังกรที่ตายแล้วจนเป็นเถ้าธุรี
ร่างที่นอนสลบไสลของเหล่ามังกรที่บาดเจ็บจากการ โจมตีของพ่อมดแห่งป่าทมิฬจาไนที่ได้รับพลังจากท่านผู้นั้นได้ร่องลอยอยู่บนท้องฟ้า

และยังปล่อยลำแสงเวทย์สีดำให้กระจาย ไปทั่วหมู่บ้านจนทั้งหมู่บ้านถูกปกคลุมด้วยแสงสีดำ
ที่วิหารแห่งดินมีแสงสว่างส่องประกายเจิดจ้า สาดส่องมาจนถึงหมู่บ้านกลุ่มแสงนั่นค่อยๆเคลื่อนที่เข้าใกล้หมู่บ้านเรื่อยๆ
เพียงชั่วครู่แสงสีขาวนั่นก็ส่องสว่างลบเอา ความมืดที่ปกคลุมอยู่เมื่อครู่ออกจนหมดแสงทั้งสองหักล้างกันจนจางหายไปหมด
ปรากฏร่างของอัศวินทาลิวิลย่าสีขาว

“ ก..กีซซซซซซ ”  ( อ..อาา เกิดอะไรขึ้นเนี่ย )
วิลลุกขึ้นและมองไปรอบๆก็เห็นร่างของทุกคนนอน สลบอยู่วิลเดินไปยังร่างของมังกรสีเขียวตัวหนึ่งที่สลบอยู่ข้างๆซึ่งก็คือพ่อของวิลเป็น มังกรดิมมินูวเลี่ยน(dimminuialion, the wind dragon)



“ ก..ก็าซซซซซซซซซซซซ ” (อ..อยูเกิดอะไรขึ้นเนี่ยอ้าววิลไม่เป็นไรใช่มั้ยเอาล่ะไปปลุกทุกคนกันเถอะ)
พ่อของวิลพูดจบวิลกับเขาก็พากันไปปลุกทุกจนฟื้นครบทุกคน

“ ฮูมมมมมมมมมม ” (เกิดอะไรขึ้นเนี่ยจำได้ว่าพวกเรามารวมตัวกันเพื่อช่วยลูกๆของเรานี่นาแล้วจู่ก็มีแสงสีดำตกลงมาแล้วเราก็หมดสติไป)
แมนเทลลูม่า(mantelluma, the snow storm wyvern) วายเวินแห่งพายุหิมะพ่อของเฟินกอลโล่พูด



“ กีซซซซซซซ ” (ดูนั่นสิพวกเรา)
โอโรฟาเน่(Orofarne, the cliff dragon) มังกรแห่งหินผา พ่อของนิลเฮอร์
พูดพร้อมกับชี้ขึ้นไปบนฟ้าทุกคนจึงหันขึ้นเช่นกัน



และสายตาของทุกคนก็จับจ้องอยู่ที่ร่าง ของทาลูคูสที่บินอยู่เหนือพวกเขาซึ่งกำลังประจันท์หน้ากับจาไนอยู่

“ แกเป็นใครบังอาจมาขวางทางข้า ”
จาไนถาม

“ นามของข้าคือ ทาลูคูส ข้าจะลงทัณฑ์เจ้าที่บังอาจมาทำลายชีวิตของผู้อื่นจนข้าไม่อาจนิ่งดูดายได้ ”
ทาลูคูสตอบกลับและกำดาบในมือไว้แน่น

“ เจ้าคิดจะเป็นปรปักษ์ กับข้ารึนั่นเท่ากับเจ้าเป็นปรปักษ์กับท่านผู้นั้นด้วยใครก็ตามที่ขัดขวางแผนการนี้ข้าจะเก็บมันเอง ”
จาไน พูดเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมกับขบกรามแน่นปากเริ่มร่ายคาถาอีกครั้ง

“ อย่าได้หวังเลยข้าจะจัดการเจ้าซะก่อนที่จะท่องมนต์เสร็จซะอีก Lux et Dragos ”
สิ้นเสียงของทาลูคูสดาบที่มือก็ตวัดออกไปแรงจากการตวัดทำให้ เกิดคลื่นพลังงานรูปเสี้ยวพระจันทร์สีขาวพุ่งไปยังจาไน

“ Earth Barrier “
สิ้นเสัยงจาไน กำแพงดินก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นเบื้องล่างกันการโจมตีเอาไว้

“ เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอกฮ่าๆๆทีนี้รองของข้ามั่ง ”
จาไนพูดจบก็เรื่มท่องมนต์อีกครั้ง

ที่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้านมังกร

“ ที่นี่แน่หรือท่านบิชอป ”
เสียงจอมทัพแห่งสายลมชาลว์ดังขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ

“ ไม่ผิดหรอกทางนี้แหล่ะ ”
บิชอปหนุ่มตอบด้วยเสียงมั่นใจพร้อมกับควานทางต่อไป

“ แล้วทำไมต้องพาเพื่อนท่านมาด้วยล่ะเนี่ย ”
ชาลว์พูดเมื่อเห็นทิโมธีเอาแต่จ้องมองดูเครื่องมือ ประหลาดที่อยู่ที่มือเครื่องมือนั้นส่องแสงกระพริบๆตลอด

“ นั่นก็เพราะมีทิโมธีคนเดียวที่ใช้เครื่องแกะรอยเป็นนี่นา ”
บิชอปหนุ่มพูด

“ อะฮ้าถึงแล้วทีนี้ต้องทำอะไรต่อล่ะ ”
ทิโมธีหันไปถามบิชอปหนุ่ม

“ เอาล่ะที่เหลือให้ข้าจัดการเอง ”
บิชอปหนุ่มพูดแล้วหันไปหาอะไร บางอย่างจน เมื่อเขาหันไปทางหนึ่งเขาก็ เริ่มตั้งสมาธิแล้วหยิบเอาเครื่องบางอย่างออกมาจาก ถุงผ้าที่เขาถือ มาด้วยมันเป็นเครื่องที่มีหัวกลมๆและมีโคนยาวลงมาเป็นแท่ง

“ กีซซซซซซซซซซซซซซ ” (ผู้ปกป้องศักดิ์สิทธิ์)
เสียงของบิชอปหนุ่มดังขึ้นทันใดนั้นก็เกิด แสงสว่างรวมตัวกันเป็นประตูและ
ค่อยเปิดออกแม่ทัพชาลว์และ ทิโมธี ทั้งสองมีสีหน้าทึ่งในสิ่งที่เห็นอย่างมาก

“ เอาล่ะพวกท่านตามเรามา ”
บิชอป หนุ่มหันไปพูดกับทั้งสองที่กำลังยืนตะลึงอยู่ทั้งสองจึงรู้สึกตัวและตามบิชอปหนุ่มเข้าไปในประตู

“ นี่เกรเกอรี่เจ้าเคยบอกใช่มั้ยว่าหมู่บ้านของมังกร เนี่ยมันมีวิทยาการที่ก้านหน้ามากๆเลยน่ะ ”
ทิโมธีถามน้ำเสียงดูสนใจไม่น้อยระหว่างที่กำลังผ่านทะลุมิติ

“ ใช่เราเคยแอบเข้ามาแล้วได้เห็นสภาพภายในนั้นช่างหน้าตื่นตาจริงๆ ”
ทิโมธีพูดแล้วหันไปมองแสงสว่างข้างหน้า

“ งั้นที่ท่านเล่า เรื่องทั้งหมดให้พระองค์ซิกมันต์ทรงฟังแล้วพระองค์ดูจะไม่ค่อยเชื่อเลยนะ ”
ชาลว์ถาม

“ นั่นก็คือสาเหตุที่ เราต้องมาสำรวจให้แน่ใจก่อนที่พระองค์จะเสด็จตามมายังไงล่ะ ”
เกรเกอรี่ตอบ
ทั้งหมดผ่านประตูมิติเข้าภาพที่เห็นตรงหน้าแทนที่
จะเป็นหมู่บ้านที่เจริญก้าวหน้าตัดกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนแต่ก็หาเป็นเช่นนั้น
ไม่เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นหมู่บ้านที่ลุกไหม้ด้วยเปลงเพลิงที่โชติ

ช่วงเหล่ามังกรพากันบินว่อนไปทั่ว ซากมังกรที่ตายแล้วก็ถูกไฟเผาไหม้จนเหลือ
แต่กระดูกซากสิ่งก่อสร้างต่างๆที่พังจนไม่เหลือชิ้นดี

“ นี่มันอะไรกันหมู่บ้านถูกโจมตีรึ ”
ชาลว์พูดด้วยความตื่นตะลึง

“ หรือว่าพวกมังกรฆ่ากันเอง ”
ทิโมธีพูด

“ ไม่น่าใช่นะเพราะว่าตอนที่เราเคยแอบเข้ามาพวกมังกรก็ปรองดองกันดีออก ”
เกรเกอรี่พูด

“ อ๊ะนั่นอะไรน่ะ ”
ทิโมธี อุทานพร้อมกับชี้มือไปที่แสงสีดำและสีขาวกำลังปะทะกันอยู่บนท้องฟ้า

“ หรือว่าหมู่บ้านถูกโจมตีโดยคนนอก ”
ชาลว์กล่าวพร้อมกับหันไปยังทิศที่ทิโมธีชี้

“ งั้นเราคงต้องช่วย พวกเขาแล้วล่ะอีกเดี๋ยวกองทัพของฝ่าบาทก็จะมาถึงแล้ว ”
เกรเกอรี่กล่าวขณะที่มองไปบนฟ้า

“ Lux et Dragos ”
คลื่นแสงถูดตวัดเข้าใส่จาไนไม่หยุดหย่อนแต่จาไนก็หลบได้หมดทุกครั้ง

“ หนอยสู้ซึ่งๆหน้าเห็นทีจะไม่ได้งั้นลองเจอนี่หน่อย Earth Barrier ”
สิ้นคำของจาไนกำแพงดินก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้งบดบังร่างของเขาไว้

“ ต่อให้เจ้าสร้างกำแพงขึ้นปกป้องตัวเจ้าสักกี่ครั้งก็ตามข้าก็จะพังมันลงแล้วเข้าไปจัดการเจ้าให้ได้ ”
ทาลูคูส พูดเสียงเกรี้ยวกราดพร้อมกับปล่อยคลื่นแสงไปอีกครั้ง
และพังทลายกำแพงลงได้แต่ทว่าจาไนกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“ เป็นไปไม่ได้ ”
ทาลูคูสอุทานและบินตรงไปหันซ้ายทีขวาทีแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของจาไน

“ หึๆๆตกใจล่ะสิที่ข้าหายไปแบบนี้น่ะ  ”
เสียงของจาไนดังขึ้นแต่เมื่อ ทาลูคูส หันไปก็ไม่เห็นวี่แววของจาไนเลยแม้แต่น้อยและทันใดนั้นหางตาของเขาก็ดูเหมือนจะจับภาพอะไรบางอย่างได้แต่เมื่อหันไปก็ไม่มีอะไร

“ หนอยแน่จริงก็อย่าเอาแต่ซ่อนสิวะออกมาสู้กันซึ่งๆหน้าเลยสิ ”
ทาลูคูสตะโกนเสียงเดือดดาล

“ หึๆๆสู้น่ะข้าสู้แน่แต่ข้าจะออกไปสู้กับเจ้าตรงๆหรอกนะเพราะไม่งั้นข้าก็ไม่ชนะสิฮ่าๆๆ ”
จาไนห้วเราะชอบใจที่ศัตรูมองหาตนอย่างหวาดระแวง

“ เอานี่ไปชิม Dark Ray ”
เสียงของจาไนดังขึ้นและแสงสีดำก็พุ่งเข้าใส่หลังของทาลูคูสอย่างจัง

“ อ็าคคคคคคคค ”
ทาลูคูสร้องด้วยความเจ็บปวดปีกของเขาได้รับความเสียหาย
อย่างหนักและเมื่อเขาจะหันไปสวนกลับแต่ก็ไม่เห็นจาไนอีก

“ หนอยเอาอีกแล้วเรอะ ”
ทาลูคูสพูดน้ำเสียงรำคาญและหันไปมองหาจาไนอีกครั้ง

“ ไงฤทธิ์เดชเวทย์ลวงตาของข้า( Dimension curse )ทำเอาสะอึกเลยใช่มั้ยล่า ”
จาไนพูด

“ เวทย์ลวงตาอ๋อ อย่างงี้เองถ้างั้นเราก็มีวิธีรับมือกับมันแล้ว ”
ทาลูคูสคิดในใจแล้วก็แสยะยิ้มออกมาในหัวของเขาเริ่มคิดถึงตอนที่เรียนกับ dvd ในวิชาเวทย์มนต์ศาสตร์

“ ฮูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม ” (นักเรียนทุกคนเวทย์มนต์น่ะมีหลายชนิดบางชนิดก็เป็นเวทย์เสริมพลัง ฟื้นฟู หรือโจมตีแต่หนึ่งในนั้นเวทย์ประเภทคำสาป(curse )ก็มีเช่นกันและมันได้แบ่งออกเป็นสองจำพวกได้แก่คำสาปที่ใช้ เสริมพลังไห้กับตัวเอง

 และลดพลังคู่ต่อสู้คำสาปประเภทเสริมพลังให้กับตัวเองก็มีเวทย์เร่งพลังและ
 เวทย์ลวงตาแต่ เวทย์ลวงตานั้นจะเป็นเวทย์ที่สามารถจะใช้กับตัวเองหรืออีกฝ่าย
ก็ได้แต่เวทย์คำสาปนั้นไม่ว่าจะยังไงมันก็จะ ส่งผลเสียให้แก่ตัวผู้รับเองได้
ในภายหลังเพราะฉะนั้นเวทย์จำพวกนี่จึงนิยมใช้กับอีกฝ่ายมากกว่าตัวเองแต่มันก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากด้วยเช่นกัน )
dvd พูด

“ แล้วข้อเสียของเวทย์ลวงตาคืออะไรล่ะครับ ”
Lr ถาม

“ ฮูมมมมมมมมมมมมมม ” ( ถามได้ดีมากข้อเสียของมันก็คือการที่
ผู้รับมันจะต้องรอจนกว่าผลของเวทย์จะหายไปจนหมดจึงจะสามารถขยับ
ได้เพราะเวทย์นี้ก็คือการส่งตัวผู้รับไปยังมิติขนานและไม่สามรถที่จะขยับ
ได้เพราะม่ว่าจะขยับยังไงก็เมื่อกลับมาก็ยังคงอยู่ที่เดิมเพราะเราจะไปอยู่
ขนานกับจุดที่เราใช้เวทย์นี้พูดง่ายก็คือเหมือนกับเราเข้าไปในช่องส่วนหนึ่งของจุดนั้นๆและวิ่งวนอยูที่เดิม )
dvd พูด

ภาพความคิดของทาลูคูสค่อยๆจางลง

“ หึๆๆ ”
ทาลูคูสหัวเราะอย่างมีเลศนัยขึ้นมาทันที

“ หัวเราะอะไรของแก ”
จาไนเอ่ยขึ้นอย่างหวาดระแวง

“ ฉันหัวเราะเพราะฉันไม่น่าโง่ให้ แกหลอก เลยความจริงแกไม่ได้ไปไหนเลยจากที่เดิมที่แกหายตัวไปแต่แกก็หรอกให้ฉันหันไปหันมาจนลืมทิศแต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วแกอยู่ตรงนั้นยังไงล่ะ ”
ทาลูคูสพูดพร้อมกับหันหลังกลับไปยกดาบชี้ไปข้างหน้า


“ เอาล่ะไลท์ขอพลังให้ฉันด้วยเถอะ ”
ทาลูคูส คิดในใจแล้วก็ยกตาบขึ้นตวัดเป็นกากบาท แล้วพุ่งไปด้วยความเร็วจนกลายเป็นแสงรูปมังกรพุ่งผ่านทะลุทะลวงความมืดที่บดบังหมู่บ้านเอาไว้และพอดีกับที่
เวทย์ลวงตาหมดฤทธิ์จาไนค่อยโพล่ออกมาจากช่องมิติและมีสีหน้าหวาดผวา

“ Great of Dragon ( ความยิ่งใหญ่แห่งมังกร ) ”
เสียงของทาลูคูสดังกังวานขึ้น

“ อ็าคคคคคคคคคค ”
จาไน ร้องโอดครวญอย่างโหยหวนทันทีที่ร่างของเขา ปะทะเข้ากับมังกรพลังงานจนร่างแหลกเป็นผุยผง
บัดนี้ความมืดที่ปกคลุมท้องฟ้าค่อยๆจางลงรุ่งอรุณแห่ง
วันใหม่มาถึงแล้วร่างที่เปล่งประกายแสงสีขาวอยู่บนท้องฟ้า ทาลูคูส ค่อยๆลดดาบลง

“ สำเร็จแล้วนะไลท์เราทำได้ ”
เสียงของ Lr ดังออกมาจากตัวทาลูคูส

“ ขอบใจนะ Lr ที่ไม่ทิ้งพวกเราไป ”
เสียงของไลท์เองก็ดังออกมาจากทาลูคูสเช่นกัน

“ ก็าซซซซซซซ ” ) เย้เราชนะแล้ว )
เสียงของโห่ร้องดีใจในชัยชนะของเหล่ามังกรดังกระหึ่ม

“ กีซซซซซซซซ ” ( เอ้าพวกเราไชโยให้ทาลิวิลย่าหน่อย เอ้าเฮ้  )
วิลพูดแล้วทุกคนก็พากันเฮด้วยความดีใจน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตัน

“ กีซซซซซซซ ” ( เอ็ะนั่นมันอะไรน่ะ )
นอพฮอฟ พูดแล้วชี้ขึ้นไปทุกคนจึงหันไปที่พระอาทิตย์
ที่ตอนนี้ขึ้นมาเหนือฟ้าแล้วแต่กลับมีเงาสีดำขนาดใหญ่ค่อยๆเคลื่อนที่เข้าบดบังดวงอาทิตย์

“ สุริยะคราสรึ ”
เกรเกอรี่พูด

“ ไม่น่าใช่นะนี่ยังไม่กำหนดครบรอบที่สุริยะคลาสจะมานี่นา ”
ทิโมธี พูดพร้อมกับพยายามวิเคราะห์หาสาเหตุของปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดนี้

“ เดี๋ยวดูให้ดีๆสินั้นมันไม่ใช่เงาพระจันทร์ของสุริยะคลาสหรอกนะมันเป็น.. ”
ชาลว์ พยายามคิดหาคำพูดที่จะเรียกเพราะเขาไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน
สิ่งนั้นเป็นอะไร บางอย่างที่มีลักษณกลมสีดำใหญ่พอที่จะบดบังพระอาทิตย์จนดำมืด

“ เหล่า มังกรทั้งหลายเอ๋ยอย่าพึ่งดีใจไปพวกเจ้าบังอาจขัดขืนการปกิบัติการของท่านผู้นั้นข้าแบล็คไวเซอร์ผู้นี้จะสานต่อเอง ”
เสียงของผู้ที่ติดต่อกับ จาไน ที่ในป่าและเป้นคนๆเดียวกับที่เงาของชานที่ปรากฏบนท้องฟ้าแล้วส่งพลังให้จาไน

“ อะ แบล็ค..แบล็คไวเซอร์ ”
เกรเกอรี่ พูดสีหน้าตกใจไม่ใช่ น้อยเมื่อได้ยินเสียงของชายลึกลับคนั้นที่กำลังลอยอยู่บนฟ้า

“ ระ..หรือว่าเคอร์วิน(Kerwin) ”
ทิโมธีเองก็เช่นกันสายตาจับจ้องไปที่ชายผู้นั้น

“ ไม่จริงก็เคอร์วินตายไปแล้วนี่ ”
เกรเกอรี่พูด


โปรดติดตามตอนต่อไป ;)

ตัวอย่างตอนต่อไป
ชายลึกลับที่ติดต่อกับจาไนคือแบ็ลคไวเซอร์ที่เป็นเคอร์วินเพื่อนเก่าของทิโมธีกับเกรเกอรี่ที่ตายในสงครามนั้นกลับมาอยู่หน้าพวกเขา
และแล้วหมู่บ้านก็ถูกทำลายลงเหล่ามังกรต่างพากันถูกกองทัพของชายคนนั้นจับตัวทาลูคูสเองก็เข้าต่อกรผลของการต่อสู้จะเป็นเช่นไรโปรดติดตามในตอนหน้าบที่4 กองกำลังต่อต้าน
« Last Edit: November 06, 2008, 01:45:55 AM by greamon » Logged


Legendary_krean
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 9


Email
« Reply #69 on: January 23, 2006, 01:59:09 AM »

ทาลิแสงจอมรีมูฟส่งจาไนไปไหนแย้ว

ปล.เมื่อไรทาลิมืดจะมาซะทีฟะ
Logged


Nihil
Administrator
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 12423


Email
« Reply #70 on: January 23, 2006, 07:33:58 AM »

ภาพที่ลงรู้สึกถูกเหมือนถุกบีบ ๆ อัด ๆ ยังไงไม่รู้อะฮะ

อนึ่งชอบที่เอาท่าการ์ดมาประกอบได้อย่างลงตัวจัง
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #71 on: January 24, 2006, 09:59:56 PM »

คือขออธิบายให้เป็นที่เข้าใจตรงนี้เลยนะคับว่า url ของภาพที่ผมเอาเนี่ยผมแสกนจากหนังสือแล้วตัดต่อด้วยโฟโต้ช็อปแล้วทีนี้เว็บที่ผมจะโหลดภาพนะคับมันได้ไม่เกิน512กิโลไบต์ครับก็ต้องขออภัยด้วยถ้าใครมีเว็บที่จะสามารถเก็บไฟล์ข้อมูลภาพก็โพสบอกได้นะคับผมจะได้เอาไปแก้ไขได้นะคับสำหรับคนที่บอกผมขอขอบคุญล่วงหน้าเลยนะคับ :)

แล้วก็ทาลิมืดอะนะอีกไม่นานก็มาแล้วคอยดูก็แล้วกันนะ ;)
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #72 on: January 28, 2006, 03:59:31 AM »

บทที่ 4 กองกำลังต่อต้าน

“ อ..อะไรกันน่ะ ”
ทาลูคูสพูดด้วยสีหน้าตกตะลึงเมื่อแสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้ากลับกลายเป็นค่ำคืนอีกครั้งชายผู้อยู่ตรงหน้าคือผู้ที่สั่งจาไนให้มาทำลายหมู่บ้าน
ข้างหลังของชายผู้นั้นก็คือกองทัพดราก้อนเนโครแมนเซอร์อีกกว่าแสนนายปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนแสงของดวงอาทิตย์ไม่อาจส่องมาถึง
“ พวกแกเป็นใคร ”
ทาลูคูสถามมือกดาบไว้แน่นพร้อมที่จะรับทุกกระบรวนท่าชายคนนั้นนิ่งเงียบไปชั่วครู่และมองลงไปเบื้องล่างที่ๆพวกเกรเกอรี่ยืนมองขึ้นมา
” พวกเราได้รับคำสั่งมาจากท่านผู้นั้นให้มากำจัดพวกเจ้าซะ ”
ชายผู้นั้นบอกแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องอยูที่พวกเกรเกอรี่ไม่เปลี่ยน
” ท่านผู้นั้นคือใคร ”
ทาลูคูสพูดมือกำดาบไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม
” ไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องบอกพวกเราบุก ”
ชายผู้นั้นพูดจบก็สั่งให้ทัพเคลื่อนพลบุก กองทัพ dn พุ่งลงไปยังกลุ่มมังกรที่ยังหลงเหลืออยู่
” ข้าไม่ให้เจ้าทำเช่นนั้นหรอก Lux et Dragos ”
สิ้นเสียงทาลูคูสเริ่มตวัดดาบซัดสาดคลื่นแสงใส่กองทัพ dn ไม่ยั้งจนกองทัพมิอาจที่จะลงไปยังหมู่บ้านได้
” Dark PurPose ”
สิ้นเสียงของชายผู้นั้น แสงสีดำก็แผ่ออกมาและพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าปะทะเข้ากับร่างของทาลูคูส
” อ็าคคคคคคคคคคค ”
ทาลูคูสโอดครวญด้วยควาบเจ็บพร้อมกับตกลงไปยังเบื้องล่าง
” หึๆๆถึงจะเป็นอ้ศวินมังกรแห่งตำนานแต่ก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรอย่างที่ได้ยินมาเลย ”
ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเหียดหยามและสั่งให้กองทัพบุกอีกครั้ง กองทัพ dn เริ่มเข้าจู่โจมอีกครั้ง
บัดนี้ร่างของทาลูคูสค่อยๆร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าหมู่บ้านก็ถูกกองทัพของชายผู้ที่อ้างว่าตนเป็นแบล็คไวเซอร์
ก็เริ่มเข้าทำลายและกวาดต้อนเหล่ามังกรที่ยังเหลืออยู่กลับขึ้นไปบนท้องฟ้าที่วงกลมสีดำซึ่งมันก็คือหลุมที่เกิดจากการบิดเบือนของมิติเข้าไปเรื่อยๆในใจของทาลูคูสตอนนี้กำลังพยายามที่จะสู้ต่อแต่ก็ไม่ไหวร่างของเขาบาดเจ็บสาหัส
” Lr  เราจะแพ้ไม่ได้นะเราต้องพยายามไม่เช่นนั้นพวกเราก็จะโดนพาตัวไปหมดนะ ”
เสียงของไลท์ดังขึ้นทั้งสองกำลังถกเถียงกันอยู่ภายในร่างของทาลูคูส
” แต่ร่างของเราทั้งสองรับไม่ไหวแล้วนะ ”
Lr พูด
” กีซซซซซซซซซ ” ( ช่วยด้วยLr  )
เสียงดังขึ้นมาจากเบื้องล่างเป็นเสียงของพวกนิลเฮอร์ที่กำลังถูกไล่ต้อนจน จนมุมเหล่าพ่อแม่ของพวกนิลเฮอร์ก็พยายามต่อสู้เต็มที่แต่จำนวนของ dn มากเกินที่จะต้านไว้ได้
” ฟื้นขึ้นมาลุกขึ้นมาสู้กับมันสิ Lr ”
เสียงของนิทินโคดังขึ้นมาทำให้ทั้งสองรวมจิตกันเป็นหนึ่งอีกครั้งตาของของทาลูคูสลืมขึ้นมาอีกครั้งปีกทั้งสองข้างเริ่มกระพือเพื่อลดความเร็วของการตกลงจนเมื่อเขากลับมาทรงตัวได้อีกครั้งเขาก็พุ่งไปหานิทินโคที่ตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาพยายามปกป้องเขาอยู่
” ก็าซซซซซซซ ” ( ไฟร์เข้ามานี่เร็ว )
มังกรซาลามันเดอร์ร่า( salamandera ) พ่อของนิทินโคเรียกให้เขาเข้ามาอยู่ในวงล้อมของพ่อแม่
” หึๆๆอย่าคิดขัดขืนเลยยอมมากับเราซะดีแล้วพวกแกจะได้ไม่ต้องถูกฆ่าฮ่าๆๆ ”
 dn คนหนึ่งพูดขึ้น
” ก็าซซซซซซซซซซ ” ( หนอยคิดจะมาเอาตัวลูกข้าไปเรอะอย่าหวังเลยย้าก )
ซาลามันเดอร์พูดจบก็พ่นเปลวเพลิงออกมาเผาผลานพวก dn แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อพวก dn สร้างเกราะพลังงานขึ้นมากันเปลวเพลิงเอาไว้
” Great of Dragon ”
เสียงของทาลูคูสดังมาจากทางซ้ายของพวกเขาพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดและร่างที่ค่อยๆแตกสลายของพวก dn และมังกรพลังงานพุ่งทลายวงล้อมเข้าและสลายไปก่อนจะปะทะเข้ากับซาลามันเดอร์ร่าทั้งสอง
” ไม่เป็นไรนะเข้ามาช่วยแล้ว.. ”
ทาลูคูสพูดแต่ยังไม่ทันขาดคำแบล็คไวเซอร์เข้ามาพาตัวซาลามันเดอร์ร่าสองพ่อแม่ไป
” ก็าซซซซซซซซ ” ( พ่อครับแม่ครับ )
นิทินโคพยายามจะรั้งตัวพ่อแม่ไว้แต่ก็ไม่ทันและเมื่อเขาจะบินตามไปทาลูคูสก็จับตัวเขาไว้ไม่ให้แบล็คไวเซอร์พาไปอีกคน
” ก็าซซซซซซซซซซซ ” ( ปล่อยฉันปล่อยเดี๋ยวนี้ฉันไปช่วยพ่อกับแม่ )
นิทินโคพยายามจะสลัดตัวให้หลุดออกจาทาลูคูส
” ไม่ได้นะไม่งั้นนายจะถูกพาตัวอีกคนนะ ”
ทาลูคูสพูดพร้อมกับพยายามจะรั้งตัวนิทินโคเอาไว้
” ก็าซซซซซซซซซ ” ( ฝากลูกฉันด้วยนะ )
แม่ของนิทินโคพูดก่อนจะถูกพาตัวไป
” ก็าซซซซซซซซซซซซซซ ”( พ่อครับบบแม่ครับบบบ ฮืออออ)
นิทินโคร้องเรียกพ่อแม่ของตนก่อนที่ทั้งสองจะหายไปจากสายตาพร้อมกับร่ำไห้ออกมาอย่างขมขื่น
” ช่วยด้วย ”
เสียงของวิลดังขึ้นทาลูคูสหันไปยังต้นเสียงก็เห็นว่าพวกพ่อแม่ของพวกวิลกำลังถูกพาตัวไปจนหมดจนบัดนี้เหลือเพียงพวกเขาเท่านั้นไร้ซึ่งการปกป้องจากพ่อแม่
” แย่ล่ะสิเราเองคนเดียวคงช่วยไม่ได้หมดแน่ๆจะทำยงัไงดี ”
ทาลูคูสรีบเร่งหาทางแก้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดี
” ฮ่าๆๆๆมากับเราซะดีๆ ”
dn คนนึงที่กำลังจะจับตัวพวกวิลพูดขึ้น
” ไม่มีทางนี่แน่ะ ”
นอฟฮอฟพูดจบก็พ่นเปลวเพลิงสีดำใส่พวก dn
” หนอยแกอึ่ย อ็ากกกก ”
สิ้นเสียงของ dn ร่างของเขาก็ถูกคลื่นแสงระเบิดจนแหลกไปตามๆกัน
” ไม่เป็นไรใช่มั้ย ”
ทุกคนต่างหันไปยังต้นเสียงก็ได้เห็นร่างสีขาวขนาดยักษ์ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแกรนเดครอสน่ะเองที่ช่วยพวกเขาไว้
” Darkness Fall ”
เสียงอีกหนึ่งดังขึ้นพร้อมควันสีดำที่ค่อยกีระจายฟุ้งไปทั่วเมื่อพวก dn หายใจเข้าไปร่างก็ค่อยๆละลายลงไป
” อย่าสูดเข้าไปนะ ”
แกรนเดครอสพูดทุกคนก็กลั้นหายใจทันทีที่เห็นภาพ
” เจ้านั่นเล่นแรงงี้เลยเรอะ ”
แกรนเดครอสพูดจบก็บินขึ้นไปบนกายสีดำที่กำลังปล่อยไอพิษซึ่งเป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่
” เทียแมตเล่นแรงไปหรือเปล่า ”
แกรนเดครอสถามมังกรดำตัวนั้น
” ไม่หรอกน่า ”
เทียแมตพูด

” หนอยพวกแกไอ้บัดซบเอ้ยต้องเจอข้า dark .. ”
แบล็คไวเซอร์พูดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแต่ก็ยังไม่ทันที่จะร่ายมนต์สำเร็จก็ถูกเสียงสวดเข้ามาแทรก
” Holy Words ”
เกรเกอรี่นั่นเองที่สวดขัดขวางการร่ายเวทย์
” หนอยเกรเกอรี่แกอย่ามาขัดขวางข้าจะดีกว่าน่า ”
แบล็คไวเซอร์พูดเสียงเกรี้ยวมองไปทางเกรเกอรี่ที่ยังคงสวดต่อไป
” ข้าบอกให้หยุดไงล่ะ ”
แบล็คไวเซอร์ย้ำอีกครั้งเกรเกอรี่จึงหยุดและลุกขึ้นพูด
” เราไม่อาจจะให้เจ้ากระทำชั่วต่อไปได้อีกได้โปรดวางมือซะเถอะ ”
เกรเกอรี่พูดน้ำเสียงอ้อนวอน
” เฮอะเจ้าคิดว่าข้าจะยอมรึความเคียดแค้นที่ข้ามีต่อเจ้ามันยังไม่จางหายไปหรอกนะข้าจะจัดการแกทีหลังเมื่อข้าเสร็จภารกิจ ”
แบล็คไวเซอร์พูดจบก็เริ่มร่ายเวทย์อีกครั้งแต่เกรเกอรี่ก็แทรกเข้ามาอีกครั้ง
” หนอย เฮลลิคมาเดี๋ยวนี้ ”
แบล็กไวเซอร์เรียกอะไรบางอย่างมามันเป็นนกที่มีรูปร่างประหลาดมีตาสี่ตากายสีเขียวมันร้องเสียงแสบแก้วหูมาก่อนที่จะถึงตัวเค้าเฮลลิคเบิร์ด( Hellish Bird )
” ไปจัดการกับเจ้านักบวชนั่นเดี๋ยวนี้ ”
แบล็คไวเซอร์ชี้ไปที่เกรเกอรี่เจ้านกนั่นก็บินลงไปก่อกวนการสวดของเกรเกอรี่ถึงแม้ทิโมธีและชาลว์พยายามจะจับตัวมันไว้แต่
ก็ไร้ประโยชน์มันบินเร็วไป
” หนอยไอ้เจ้านกบัดซบ  ”
ชาลว์พูดอย่างหัวเสีย
” หึๆๆเก็บตรงนั้นไปได้ก็.. ”
แบล็คไวเซอร์พูดไม่ทันขาดคำดีก็ถูกมังกรพลังงานพุ่งเข้าใส่อย่างจังทาลูคูสนั่นเองที่เข้าโจมตีอีกครั้ง
” อัก..อะไรกันฮึ่ยหนอยมีแต่คนจะขัดขวางข้าอย่างเดียวเลยนะลองเจอนี่หน่อย Super Dark Terror  ”
สิ้นคำของแบล็คไวเซอร์ลูกพลังงานสีดำก็ก่อตัวขึ้นเหนือเขาและพุ่งลงไปยังเบื้องล่างนับพันลูกหนึ่งในนั้นพุ่งไปยัง พวกวิล
” หนอยไม่ยอมหรอก ”
ทาลูคูสบินเข้าไปปะทะกับลูกพลังงานนั้นแต่ก็พลาดท่าถูกแรงระเบิดซัดล่วงลงมา
” ทุกคนมาหลบนี่เร็ว ”
แกรนเดครอสเรียกให้ลูกมังกรทั้งหมดมาหลบหลังขาซึ่งลูกมังกรที่เหลือบัดนี้เหลือเพียงแค่พวกของวิลเท่านั้น
” MAGNUS TEMPLUS ”
สิ้นเสียงแกรนเดครอสก็มีละอองพลังงานไปรวมกันที่มือทั้งสองข้างและเมื่อเขาประกบมันเข้าด้วยกันก็เกิดเป็นเกราะพลังงาน
” อะนั่นทาลูคูสอยู่นั่นเราต้องช่วยเขานะ ”
วิลชี้ไปทางที่ทาลูคูสนอนสลบอยู่
” ไม่ได้เรากางบาเรียไปแล้วถ้าจะยกเลิกตอนนี้ไม่ทันแน่ ”
แกรนเดครอสพูด
” ลำพังพวกเราจะรอดรึเปล่ายังไม่รู้เลย ”
เทียแมตพูด
” นั่นใครน่ะ ”
นอพฮอฟพูดทุกคนหันไปเป็นทางเดียวกันชายคนเดียวกันที่ช่วยวิลไว้ที่ป่าเข้ามาปกป้องร่างของทาลูคูสไว้
” Paladin Saber ”
สิ้นเสียงของชายคนนั้นดาบก็ถูกตวัดเกิดคลื่นพลังงานรวมตัวกันเป็นเกราะแสงขึ้นมากันการโจมตีไว้
การโจมตีของแบลฺคไวเซอร์ระเบิดเอาพื้นที่ทั้งจนเป็นจุลเพียงพริบตาเดียวแม่น้ำที่เคยเต็มไปด้วยน้ำมากมายก็แหลเละแตกกระจายจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวพืนป่าก็ร้างไปในทันทีเมื่อคลื่นพลังจางลงหมู่บ้านก็ไม่เหลือแล้วเกราะของพวกแกรนเดครอสและของชายลึกลับก็จางลงเช่นกัน
” หึๆๆพวกแกแพ้แล้ว ”
ขณะที่แบล็คไวเซอร์กำลังยินดีในชัยชนะของตนก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
” แบล็คไวเซอร์เราขอจับกุมแกข้อหาทำลายมิติแห่งมังกร ”
เจ้าของเสียงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกองทัพนักรบที่ใส่เกราะสีขาวเดินมา
” ในนามของกองกำลังต่อต้านจงยอมจำนนซะโดยดี ”
เจ้าของเสียงที่เป็นแม่ทัพสั่งดังมาจากเบื้องล่างที่อยู่ใกล้กับเกรเกอรี่


โปรดติดตามตอนต่อไป ;)
อ้อวันนี้โพสช้าไปหน่อยว่าแต่เข้าเรื่องเลยละกันจะได้ไม่เสียเวลาตอนที่ผมเขียนเรื่องเนี้ยผมไม่ได้อธิบายถึงลักษณของ Lr เลยพรุ่งนี้ผมจะเอามาให้ดูคอยดูให้ดีนะคับจะได้เห็นโชมหน้าL r แล้วจะเป็นยังไงบ้างและอีกอย่างผมมีเพลงประกอบมาให้ด้วยโหลดแล้วเปิดฟังตอนที่ Lr แปลงร่างเป็นทาลิวิลย่านะคับจะได้อรรถรถยิ่งขึ้นตามลิงค์นี่เลย  
http://images.animelab.com/midi/Digimon/break_up.mid
ตัวอย่างตอนต่อไป
แบล็คไวเซอร์ถูกกองกำลังต่อต้านเข้าต้อนจนจนมุมแต่ก็หนีไปได้เกรเกอรี่ได้ลงไปพบกับพวก Lr และวิลเองก็รู้ว่าเกรเกอรี่ดป็นใครจึงได้ถามถึงเรื่องที่อีสควอเทียเคยพูดไว้ทำให้ได้รู้เรื่องทั้งหมดรวมทั้งเรื่องที่อีสควอเทียโกทแค้นเกรเกอรี่ด้วยเหตุการณ์ณจะเป็นเช่นไรโปรดติดตามต่อไปในบทที่ 5 ความจริงที่ไม่น่าเชื่อ

Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #73 on: January 29, 2006, 03:04:46 AM »

บทที่ 5 ความจริงที่ไม่น่าเชื่อ
กองทัพอัศวินอยู่ในชุดเกราะสีขาวอาวุธครบมือทั้งดาบและโล่ต่างก็มีสัญลักษณแห่งแสงสลักไว้ได้ยืนอยู่บนเนินเขาสูงเกรเกอรี่และพวกยืนหลบอยู่หลังกองทัพแม่ทัพของในชุดเกราะสีขาวเดินออกไปประกาศจับตัวแบล็คไวเซอร์
“ ฮึๆๆฮ่าๆๆๆๆ ”
แบล็คไวเซอร์หัวเราะออกมาทำให้แม่ทัพมีอารมณฉุนเฉียวขึ้นมา
“ ขำอะไรของเจ้า ”
แม่ทัพตะคอกกลับทำให้แบล็คไวเซอร์( ต่อไปขอย่อเป็น bw นะคับพิมพ์หลายๆรอบมันยาวอ่ะ ) หยุดหัวเราะแล้วหันไปมองหน้าแม่ทัพด้วยสายตาเฉียบคมเย็นลึกเข้าไปถึงกระดูกแม่ทัพถึงคนนั้นถึงกับถอยเซ
“ คิดจะจับข้ารึฝันไปเถอะลองสู้กับเจ้าพวกนี้ดูหน่อยเป็นไงเฮลลิคกลับมา ”
แบล็คไวเซอร์พูดจบก็เรียกนกคู่ใจของตนกกลับมาเจ้าวิหกโลกันต์บินกลับมาเกาะที่ไหล่ของเขา bw จึงเริ่มร่ายเวทย์วาดมือเป็นวงแล้วจากนั้นก็ประกบมือเข้าด้วยกันเกิดแสงสีดำส่องประกายออกมาจากมือของเขาเกิดเป็นลูกบอลสีดำนิลลูกเล็กขนาดเท่ากำมือขึ้นมาสองลูกจากนั้น bw ก็ถอนขนของวิหกโลกันต์มาสองเส้นแล้วใส่มันเข้าไปในลูกบอลนั่นลูกละเส้นจนครบแล้วโยนมันลงไปที่พื้นลูกบอลดำเมื่อ
ตกถึงพื้นก็แตกออกพร้อมกับควันสีดำที่พวยพุ่งออกมาจนตลบอบอวนไปทั่วบริเวณนั้นจนเมื่อควันจางลงก็ปรากฏสิ่งมีชีวิตขึ้นมาสองตัว
ตัวนึงเป็นสัตว์อสูรสายพันธ์งูยักษ์(Viper)มีเขาขนาดใหญ่เหมือนปีกค้างคาวกลับหัวที่หัวทั้งสองข้าง
มีมือหกมือกายสีดำ ส่วนอีกตัวเป็นสัตว์อสูรสายพันธ์ปีศาจค้างคาว(Gargoyle) มีขนเป็นเหล็กเหมือนใส่เกราะ
“ จัดการมันซะไดโบริค( diabolic viper ) กากอยเหุ้มกราะ ( Amored Gargoyle )สาดหนาบปีศาจใส่มันซะ ”





bw สั่งเสร็จอสูรทั้งสองก็บุกเข้าไปโจมตีกองทัพอัศวินเมื่อครู่สัตว์อสูรที่ชื่อไดโบริคได้เข้าจู่โจมอย่างเร็วเพียงเสี้ยววินาทีอัศวินหกคนก็ถูกมันจับเอาไว้ในมือทั้งหกของมันถูกในสภาพที่ร่างถูกฉีกกระชากออกเป็นสองท่อน
” อ็าคคคคคคคคค ”
เสียงร้องของอัศวินทางปีกขวาของกองทัพที่ถูกโจมตีด้วยขนที่เป็นเหมือนเข็มของกากอยหุ้มเกราะดังมาทำให้อัศวินคนอื่นๆหันไปยังต้นเสียงก็เห็นร่างของอัศวินหลายนายถูกฝนเข็มปีศาจที่กากอยหุ้มกราะสลัดลงมาถูกปักอยู่ทั่วร่างก่อนจะค่อยๆละลายไป
” มันลงมาแล้ว ”
เสียงอัศวินอีกคนดังมาจากทางซ้ายของกองทัพเมื่ออัศวินคนอื่นหันไปก็เห็นว่าไดโบริคเริ่มจู่โจมอีกครั้งเหล่าอัศวินพยายนามสู้เต็มที่แต่ก็ไม่อาจตามความว่องไวของมันได้จึงถูกฆ่าไปจำนวนมาก
” เอาไงดีครับมันร้ายกาจจริงๆ ”
อัศวินคนหนึ่งถามแม่ทัพ
” ถ้าเรามีอัศวินที่มีความเร็วพอก็ดีสิ ”
แม่ทัพขบฟันครุ่นคิดหาวิธีรับมือกับเจ้าอสูรทั้งสองตัว
” ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นแม่ทัพกับอัศวินคนนั้นหันไปยังทิศทางของเสียงก็พบว่าชาลว์นั่นเองที่เสนอตัวอาสารับมือกับอสูรทั้งสอง
” เจ้าคนเดียวจะไหวรึ ”
แม่ทัพถามแต่เกรเกอรี่ที่อยู่ข้างๆชาลว์ก็เดินไปตบไหล่ของแม่ทัพพร้อมกับพยักหน้า
” เชื่อมือเขาเถอะเขาเป็นอัศวินที่ฝีมือดีคนนึงเลยนะข้ารับรอง ”
เกรเกอรี่พูดจบก็หันไปพยักหน้าให้ชาลว์แสดงฝีมือทันที
” แค่นี้น่ะใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็เสร็จแล้ว ”
ชาลว์พูดอย่างมั่นใจแล้วก็เริ่มร่ายรำเพลงดาบเพียงชั่วครู่ก็มีเสียงตวัดดาบเกิดขึ้นร่างของไดโบริคก็ขาดออกเป็นสองท่อนส่วนเจ้ากากอยหุ้มเกราะก็ถูกฟันปีกขาดสองข้างจนไม่สามารถจะทำอันตรายใครได้อีกซากของสัตว์ก็สลายกลายเป็นดังเดิม
” โอ้รวดเร็วซะจริงๆ ”
แม่ทัพกล่าวชมในฝีมือของชาลว์


” พวกเขาเป็นใครน่ะ ”
แกรนเดครอสพูด
” นี่มัน ”
เสียงวิลอุทานดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองร่างของทาลูคูสส่องแสงออกมาก่อนที่จะแยกออกเป็นสองร่างคือ Lr กับไลท์
” ข้าต้องไปแล้ว ”
ชายลึกลับเอ่ยขึ้นแล้วก็ออกเดินแต่ก็ต้องหยุดเมื่อวิลตะโกนเรียก
” เดี๋ยว ”
วิลพูดทำให้ชายผู้นั้นหยุดเดินแต่ยังคงหันหลังให้
” ท่านเป็นใคร ”
วิลพูดเสียงสั่นเล็กน้อยไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เป็นความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
” ชื่อของข้าไม่ได้มีความสำคัญอะไรนักไม่จำเป็นรู้ไว้หรอก ”
ชายคนนั้นพูดเสียงเย็น
” ได้โปรดบอกด้วยเถิดเราอยากจะรู้ชื่อของท่านไว้ในฐานะมิตรน่ะ ”
วิลพูดเสียงสั่นมากขึ้นตอนนี้ในใจของวิลเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแปลกๆที่บอกไม่ถูว่าดีใจหรือกลัวกันแน่
” เรียกข้าว่า เมทาไนท์ ( Meta Knight ) ก็แล้วกัน ”
ชายคนนั้นพูดแล้วก็เดินจากไปอย่างเร็ว
” เมทาไนท์งั้นเหรอ ”
วิลเอ่ยขึ้นลอยๆ
” Lr ฟื้นแล้ว ”
นิลเฮอร์พูด
” อา เกิดอะไรขึ้นเนี่ยแล้วไลท์ล่ะ ”
Lr พูดจบก็หันซ้ายทีขวาทีเพื่อหาตัวไลท์
” โอยยย  ”
ไลท์โอดครวญ
” ไม่เป็นอะไรใช่ไหมไลท์ว่าแต่หลังจากที่เราถูกซัดลงมาโดยชายที่ชื่อแบล็คอะไรนั่นน่ะแล้วเกิดอะไร ”
Lr พูดจบก็ดเกิดแสงสว่างระหว่างเขากับไลท์เมื่อหันไปมองก็เห็นว่าเป็นศิลามังกรนั่นเองที่ส่องประกายอยู่
” อะไรอีกล่ะเนี่ย ”
นิทินโคพูดและทันใดนั้นที่ซากของวิหารแห่งมังกรก็มีอะไรบางอย่างพุ่งออกมารวมเข้ากับศิลามังกร
” หวา ”
Lr ร้องเสียงหลงเมื่อแสงอะไรบางอย่างพุ่งมาจากซากวิหารตรงมาทางเขาศิลามังกรเองก็เช่นกันของทั้งสองสิ่งพุ่งเข้าหากันเมื่อสิ่งที่พุ่งมาจากวิหารเข้าใกล้มาเรื่อยๆจึงได้เห็นว่าเป็นเชิงตะเกียงรูปมังกรนั่นเอง
” นั่นมันเชิงตะเกียงศิลามังกรนี่นา ”
นอพฮอฟพูด
” มันคืออะไรเหรอไอ้ตะเกียงอะไรนั่นน่ะ ”
นิทินโคถาม
” ที่วิหารมังกรของหมู่บ้านเราน่ะมีศิลามังกรตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินว่ากันว่าศิลามังน่ะมีพลังที่จะสามารถเปิดมิติแห่งนรกมังกรและสวรรค์มังกรได้น่ะสิ ”
นอพฮอฟพูดเทียแมตหันมามองนอพออฟอยู่พักใหญ่
” แล้วแกรู้ได้ไงอ่ะ ”
นิทินโคพูด
” คือ..คือว่าความจริงแล้ว ”
นอพฮอฟหยุดพูดไปชั่วครู่เหมือนจะชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่แต่แล้วทุกคนก็หันเหความสนใจกลับไปยังศิลามังกรอีกครั้งเมื่อศิลามังกรรวมตัวเข้ากับเชิงตะเกียงก็ส่องประกายเจิดจ้าไปทั่วมิตินี้
” อะไรเนี่ยอ็าคคคคคคคคคค ”
bw ร้องด้วยความเจ็บปวดทันทีที่ปะทะกับแสงนั้น
” แกว้กๆๆ ”
วิหกโลกันต์เองก็ร้องด้วยความกลัวในแสงที่กำลังจะมาถึง
” ถอยทัพ ”
bw สั่งให้กองทัพส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่น้อยนิดกลับเข้าไปยังหลุมมิติแล้วก็หนีหายไป

” นี่..นี่มันคือ ”
Lr พูดสีหน้าตกตะลึงในภาพที่เห็นตรงหน้าแสงค่อยๆจางลงศิลามังกรกับเชิงตะเกียงรวมตัวกันเชิงตะเกียงหลอมละลายตัวเองเข้าครอบเอาศิลาไว้กลายเป็นสิ่งของที่มีขนาดเท่ากับก้อนหินขนาดพอเหมาะมือที่มีเเชิงตะเกียงที่เข้าไปหุ้มเป็นรูปมัง
” ด..ดราก้อนฮอลลี่( ต่อไปย่อเป็น dgh นะ )หรือว่าเตำนานที่กล่าวต่อๆกันมาจะเป็นความจริง ”
แกรนเดครอสพูดก็เกิดแผ่นดินไหวทุกคนพากันหนีไปยังประตูมิติบัดนี้แผ่นดินเริ่มแยกตัวออกแตกสลายเกิดพายุหมุนแรงพัดพาทำลายทุกสิ่ง
” หนีเร็ว ”
แม่ทัพอัศวินสั่งทำให้กองทัพพากันวิ่งเข้าประตูกัยจ้าล่ะหวั่นเหล่ามังกรเองพากันหนีออกไปเช่นกันเมื่อเหล่ามนุษย์ออกไปกันหมดแล้วเหล่ามังกรก็ตามกันออกไปดดยลูกมังกรออกไปกันหมดแล้วเมื่อแกรนเดครอส เทียแมต และ Lr จะออกไปแผ่นิดนที่พวกเขายืนอยู่ก็พังทลายลงเทียแมตรีบคว้าตัว Lr ไว้และส่งให้พวกวิล
” รีบออกไปเร็ว ”
เทียแมตสั่งแต่แล้วเขากับแกรเดครอสก็ถูกพายุหมุนดูดเข้าไป
” นอพฮอฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ”
เทียแมตตะโกนก่อนที่จะถูกดูดหายไปในพายุนอพฮอฟเองก็หันไปมองด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย
” มาทางนี้เร็ว ”
เกรเกอรี่เรียกเหล่าลูกมังกรให้ไปสมทบกันเมื่อทั้งหมดเดินออกจากมิติที่กำลังพังทลายลงได้หมด
” พวกท่านแฮ่กเป็นใครกันแฮ่กๆ ”
Lr ถามเสียงหอบ
” เราชื่อ.. ”
เกรเกอรี่พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงแทรกขึ้นมา
” กีซซซซซซซซซซซ ” ( เป็นคุณจริงๆเหรอเกรเกอรี่ )
วิลพูดเสียงตื่น
” เออเจ้าพูดอะไรเหรอมังกรน้อย ”
เกรเกอรี่พูดด้วยไม่เข้าใจที่วิลพูด
” เกรเกอรี่เรอะงั้นไอ้หมอนี่ก็เป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อของครูอีสควอเทียน่ะสิ ”
เฟินกอลโล่พูดเสียงตื่นเช่นกัน
” พวกเจ้าพูดอะไรกัน ”
เกรเกอรี่ถาม
” ท่านรู้เรื่องที่ท่านเคยฆ่ามังกรบ้างไหม ”
Lr ถาม
” อ...หรือลูกมังกรดิมมินิวเลี่ยนตัวนี้จะ ”
เกรเกอรี่หยุดพูดเพื่อชั่งใจว่าควรพูดหรือไม่
” เอาล่ะก็ได้ข้าเล่าให้ฟัง ”
เกรเกอรี่พูด

โปรดติดตามตอนต่อไป
ตัวอย่างตอนต่อไป
ในที่สุดเกรเกอรี่ก็เล่าเรื่องทั้งหมดรวมทั้งเรื่องที่มีกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีต้องการที่จะปลดผนึกซินอยู่ด้วยเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นมายังไงติดตามในตอนหน้าในบทที่ 6 องกรค์แห่งฝันร้ายศักดิ์สิทธิ์ Holy Nightmare ติดตามกันให้ได้นะคับ
« Last Edit: June 13, 2008, 02:36:55 AM by greamon » Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #74 on: January 29, 2006, 10:56:10 PM »

วันี้ของดนะคับงานเยอะเพราะใกล้สอบแล้วก็อีกวันศุกร์ที่จะถึงนี้ต้องไปเข้าค่ายด้วยเพราะฉนั้นอาทิตย์หน้าไม่มีนะคับเพราะเข้าค่ายสามวันแล้วจะต่อให้อีกทีวันจันทร์นะคับแบะนิยายที่เกี่ยวกับการเล่นการ์ดที่ผมบอกว่าจะเขียนให้วันพุทก็ต้องชวดไปก่อนนะคับเพราะอย่างที่บอกใกล้สอบเต็มทีแล้วงานย่อมเยอะมากขึ้นก่อนหน้านี้ผมก็บอกอยู่บ่อยๆว่างานเยอะเพราะเดือนหน้าก็จะสอบแล้วเอาไว้ปิดเทอมแล้วจะโพสนิยายที่เกียวกับการเล่นเมื่อข้างต้นให้นะคับส่วนทาลินั้นจะเพิ่มเวลาโพสให้เยอะขึ้นตอนปิดเทอมนะคับเพราะฉนั้นรออีกนิดนะคับปิดเทอมจะแต่งต่อให้มันไปเลย
 ;)
Logged


NoXMagiS
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2086


« Reply #75 on: January 31, 2006, 01:59:04 AM »

แต่งแล้วเหมือนแต่งง่ายจังเลยอะ

ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

ง่ายจางเลยอ่า ทีนิยายเราไม่เหงทำได้บ้างเลย T-T

สู้ๆน่อ

(ให้เค้าสู้ๆ ตัวเองยังไม่ถึงไหนเลยอะ ซะงั้นอะนะ)
Logged


^O^^O^poocha ^O^^O^
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 122


Email
« Reply #76 on: February 01, 2006, 10:56:06 PM »

Amankrisไม่มีส่วนร่วมเลยเหรอคับ ออกจะเก่งซะขนาดนั้น :-[
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #77 on: February 02, 2006, 01:25:41 AM »

การแต่งนิยายเรื่องนี้ก็ไม่ได้แต่งง่ายๆนะคับต้องใช้จินตนาการมากแต่เพราะผมชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยบ่อยๆจึงเอาข้อคิดในชีวิตจริงมาเขียนเป็นอุทาหรณ์แทรกไว้ด้วย(ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีข้อคิดให้กลับไปคิดซ่อนอยู่นะหาเอาเอง)
ส่วนอาแมนคริสนั้นได้ออกแน่คับแต่อีกนานอดใจรอหน่อยเดี๋ยวปิดเทอมเมื่อไหร่จะปั่นแหลกเลยทั้งเกมส์ทั้งนิยาย ;)
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #78 on: February 05, 2006, 09:19:55 PM »

หวัดดีก้าบบบบบบบบบบบบบบบ แฮ่ๆๆเป็นยังไงกันบ้างไม่เจอกันตั้งสามวันแน่ะฮือๆๆไปเข้าค่ายมาโหดสุดๆลุกไม่ไหวเลยพรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีกได้หยุดเลยแล้วทุกคนที่ติดตามนิยายเรื่องนี้อยู่ล่ะรู้เบื่อๆกันบ้างไหมเอาเป็นว่าวันนี้ผมเหนื่อยอยู่ก็ยังคงจะเขียนนิยายไม่ไหวหรอกคับงั้นวันนี้เอาเป็นข่าวคราวของเกมส์ตำนานทาลิวิลย่า(นิยายเรื่องนี้แหล่ะ) ที่ผมกำลังสร้างอยู่ละหายไปซะนานนะครับเพราะเครื่องผมโดนไวรัสเข้าไปก็เลยต้องลบทิ้งหมดเลยฮือๆๆ(วันนี้มีเรื่องเสียใจสองอย่างเลย)
แต่ไม่เป็นไรคับผมกำลังรีบทำใหม่อยู่เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะเอาภาพโฆษณามาโพสที่นี่ละกันคับเร็วๆนี้
แหล่ะคับ ;) ส่วนนิยายทาลิเดี๋ยวจะเอาโฆษนามาโพสด้วยนะคับ
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #79 on: February 10, 2006, 01:03:54 AM »

พรุ่งนี้อย่าลืมดูนะคับมีอะไรเซอไพร์ด้วย ;)
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #80 on: February 11, 2006, 03:16:01 AM »

และแล้วก็มาแล้วเซอไพร์ที่พูดถึงก็มาแล้วแต่จิงๆมันก็ไม่มีอะไรน่าตกใจหรอกเพราะเรื่องนี้เราน่าจะรู้ๆกันอยู่แล้วนะคับนั่นก็คือตั้งแต่วันที่20เป็นต้นไปนิยายของเราจะเพิ่มเวลาการอัพเดทอีก2วันได้แก่วันจันทร์กับวันท์พุทธส่วนศุกร์ถึงอาทิตย์ก็ตามเดิมส่วนเวลานั้นวันจันทร์กับพุทจะมาเร็วหน่อยนะคับว่าแล้วไปดูนิยายกัน

บทที่ 6 องกรค์แห่งฝันร้ายศักดิ์สิทธิ์ Holy Nightmare

บัดนี้มิติที่เคยมีความเจริญก้าวหน้าสูงสุดกลับพังย่อยยับแม้ตัวมิติเองก็ยังพังทลายไปต่อหน้าต่อตาเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง มังกรยักษ์ทั้งสามได้แก่ดีวายดราก้อน แกรนเดครอสและเทียแมตต้องตกเข้าไปในห้วงมิติที่พังทลายลงไปและหายไปอย่างไร้ร่องรอย มังกรตัวอื่นๆที่ยังเหลือรอดก็ถูกจับไปจนหมดเหลือเพียงเด็กคนหนึ่งกับลูกมังกรอีกหกตัวที่ยังมีอาการหวาดกลัววิตกกังวล
ในตอนนี้นั้นไม่มีคำพูดใดๆสามารถบรรยายความรู้สึกในตอนนี้ได้เลย
“ ชิ..หนอย นี่มันเป็นบ้าอะไรกันไปหมด ”
แม่ทัพกองกำลังต่อต้านเอากำปั้นทุบต้นไม้อย่างแรงจนใบของต้นร่วงโรยลงมา
“ พวกมันแค่ไม่กี่คนเรามีคั้งมากมายยังทำอะไรไม่ได้เลยแล้วจะตั้งกองกำลังมันขึ้นมาทำไมเนี่ย ”
แม่ทัพกล่าวอย่างหัวเสียในความอ่อนแอ่ของกองกำลัง
“ พวกเจ้าปลอดภัยดีนะ ”
เกรเกอรี่ถาม Lr( ลอเรนส์ ) ที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นลูกมังกรทั้งหกก็เช่นกันยังคงหวาดวิตกอยู่เช่นเดิม
“ เอาเถอะอีกเดี๋ยวกองทัพของพระองค์ก็จะมาถึงแล้วถึงตอนนั้นก็พาพวกเค้ากลับไปพักฟื้นก่อนเถอะคืนนี้พวกเขาเจอมามากพอแล้ว ”
ชาลว์กล่าวด้วยความเป็นห่วงเกรเกอรี่เองก็เห็นด้วยจึงพยักหน้าเป็นสัญญาณแล้วจึงหันไปปรึกษากับแม่ทัพต่อ
จากนั้นสักพักกองทัพกับกษัติร์ซิกมันต์ก็เส็ดจมาถึงและพาตัวL r กับลูกมังกรไปพักที่เมืองเอรีม

สามวันผ่านไป

แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าสาดส่องเข้ามาภายในห้องที่ตกแต่งแบบเรียบๆที่ปลายเตียงลูกมังกรทั้งหมดนอนอยู่ที่นั่นยกเว้นวิล
Lr ขยี้ตาเครั้งนึงก่อนจะเดินลงจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ประตูห้องแล้วเมื่อเขาเปิดประตูห้องออกก็ได้ยินเสียงภาษามังกรคุยกันอยู่
“ ก็าซซซซซซซซซซซซซ ” ( ยังงี้ใช้ได้ยังงงงงงงงงงงงงงงง )
เสียงมังกรที่ดังกึกก้องขึ้นมากะทันหันทำให้ Lr ถึงกับชะงัก ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นคือนักประดิษฐ์คนหนึ่งกำลังถือเครื่องมือประหลาดๆอยู่ในมือแล้วพูดภาษามนุษย์ใส่เครื่องนั่นก็กลายเป็นเสียงมังทันทีแต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ระดับเสียงที่ต้องการจึงออกมาดังบ้างเบาบ้าง
“ กีซซซซซซซซซ ” ( ดังไปแล้ว )
วิลพูดพร้อมกับเอามือที่กุมหูออกแล้วก็สังเกตเห็น Lr พอดีจึงเดินไปหา
“  เป็นยังไงบ้าง Lr นายลุกไหวแล้วเหรอ  “
วิลพูด Lr ทำสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย
“ มีอะไรหรือ ”
วิลถามเมื่อเห็นสีหน้าของ Lr
“ นายพูดภาษามนุษย์คล่องแคล่วขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ”
คำพูดของ Lr ทำให้วิลงงเล็กน้อย
“ จะว่าไปนิทินโคเองก็พูดภาษามนุษย์คล่องขึ้นนะ ”
Lr เสริม
“ นายพูดอะไรของนายน่ะนี่ฉันพูดภาษามังกรอยู่นะ ”
วิลพูด
“ อะไรกันก็นี่นายพูดภาษามังกรอยู่นี่ ”
Lr เถียงกลับ
“ แต่เขาพูดภาษามังกรอยู่จริงๆนะ ”
ทิโมธีแย้งขึ้นทำให้ทั้งสองหันไปมอง
“ เอ็ะนั่นอะไรน่ะ ”
วิลพูดแล้วชี้ไปที่กระเป๋ากางเกงของ Lr ที่มีแสงส่องออกมา Lr จึงเอามือล้วงเอาของนั่นออกมา
“ นี่น่ะเหรอตอนอยู่ในมิติน่ะนะมันเป็นศิลามังกรที่มาผสมกับตะเกียงมังกรน่ะมันคงจะทำให้ฉันฟังภาษามังกรเป็นมนุษย์ก็ไดมั้งเอ็ะข้างหลังมีสายคาดด้วยแหะ ”
Lr พูดจบก็บรรจงคาดสายคาดนั่นกับข้อมือ
“ เออข้าว่าเอางี้ดีกว่านะทิโมธีให้เด็กคนนี้เป็นล่ามให้เราดีกว่านะ ”
เกรเกอรี่พูดทำให้ทิโมธีมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็จำใจเก็บเครื่องมือไป
“ เอาล่ะโปรดเล่าเรื่องราวทั้งหมดมาด้วยเถิดว่าพวกมันบุกเข้ามาได้ยังไงกันและอีกอย่างทำไมเด็กมนุษย์จึงมาอยู่กับมังกรด้วยล่ะ ”
คำถามของเกรเกอรี่ นั้นยากจะตอบนักแต่ในที่สุดพวกเขาก็จำใจตอบ
“ เราไม่รู้ว่าพวกมันบุกเข้ามาได้เช่นไรแต่เรื่องของ Lr น่ะมันเอ่อ ”
วิลหยุดพูดกลางคัน
“ ทำไมหยุดซะล่ะ ”
เกรเกอรี่ถามเมื่อเห็นว่าทั้งสองเงียบไป
“ ไม่ได้หรอกนะ Lr เค้าน่ะ ”
ไลท์เปิดประตูห้องออกมา
“ ทำไมล่ะ ”
วิลถาม
“ นายพึ่งย้ายมาคงไม่รู้สินะ ”
นิลเฮอร์เดินตามออกมา
“ คือว่า Lr เขาน่ะ ”
ไลท์ฑุดยังไม่จบประโยคL r ก็แทรกเข้ามา
“ เอาเถอะฉันจะเล่าเอง ”
Lr กล่าวแล้วจึงหันไปแล้วเงยหน้าขึ้นข้างบนพยายามนึกถึงเรื่องราวเล่าเรื่องให้เกรเกอรี่กับทิโมธีฟัง
“ เมื่อ 8 ปีก่อนมีมังกรดำเทียแมตได้ถูกมนุษย์กลุ่มหนึ่งฆ่าคู่ของมันมันจึงตามล่าคนกลุ่มนั้นมาด้วยความโกรทจึงอาละวาดทำลาย
ทุกสิ่งทุกอย่างและในขณะนั้นได้มีกลุ่มชาวป่าทมิฬอพยพหนีออกมาจากการถูกเผาของมังกรเทียแมตอยู่ด้วยแต่ก็ไม่พ้นถูกสังหารจนหมดตอนนั้นผมยังเป็นทารกอยู่แม่ของผมถูกฆ่าตายด้วยเช่นกันแต่ dvd มาช่วยไว้ทันแล้วจึงเก็บผมไปเลี้ยง ”
Lr พูดจบน้ำตาก็ไหลอาบแก้มของเขาเค้าจึงเอามือเช็ดน้ำตาออก
“ ขอโทษด้วยนะที่ต้องให้เล่าเรื่องแบบนั้นน่ะ ”
เกรเกอรี่พูดด้วยความเป็นห่วงว่าความเศร้าจะทำให้  L r อาการทรุดหนักลงไลท์จึงเข้าไปปลอบใจ Lr
“ เอาล่ะทีนี้ตาพวกท่านบ้างแล้วช่วยบอกหน่อยสิว่าพวกที่มาบุกทำลายหมู่บ้านพวกเราเป็นใครกัน ”
วิลถามเกรเกอรี่สีหน้าบึ้งตึงที่เห็นว่าเพื่อนของตนถูกบีบบังคับให้เล่าเรื่องสะเทือนใจ
แต่เกรเกอรี่กลับมีสีหน้างงๆเพราะวิลพูดภาษามังกรไม่ใช่ภาษามนุษย์
“ เออลืมไปว่าเราเป็นมังกรนิ ”
วิลพึมพำL r จึงแปลให้พวกเกรเกอรี่ฟัง
“ เอาล่ะอย่างที่เจ้าเล่าไปเมื่อกี้นี้ที่ว่ามังกรเทียแมตมาโจมตีป่าทมิฬน่ะนะการที่ dvd ซึ่งเป็นมังกรขาวที่ผู้คนนับถือกลับช่วยให้มังกรดำหนีไปทำให้เกิดอาณานิคมการล่ามังกรแต่ความจริงเราทราบมาว่ามีผู้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างมนุษย์กับมังกรพวกเราจึงได้จัดตั้งกองกำลังต่อต้านแต่เมื่อเราสืบสาวไปสักระยะจนได้ความสัมพันธ์ของเรื่องบางเรื่องกับการล่ามังกรนี้นั้นเกี่ยวข้องกันคือมีผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ซึ่งก็คือ องค์กรชั่วร้ายที่คิดจะสร้างสงครามระหว่างเทพกับปีศาจชื่อขององค์กรนั้นก็คือ องกรค์แห่งฝันร้ายศักดิ์สิทธิ์ Holy Nightmare   ”
เกรเกอรี่พูดจบทุกคนในห้องก็เงียบลง


ณ สถานที่แห่งหนึ่ง

“ เป็นยังไงบ้างการบุกจู่โจมของพวกเจ้า “
เสียงเรียบเย็นที่เพียงผู้ฟังได้ยินก็หนาวเข้าไปถึงกระดูกเจ้าของเสียงนั่งอยู่บนบัลลังที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ยกสูงขึ้นไป
“ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจขอรับแต่มีคนเข้ามาขัดขวาง แผนการจึงไม่สมบรูณ “
เสียงเรียบเย็นเช่นเดียวกันตอบกลับมาจากด้านล่างของบัลลังเจ้าของเสียงอยู่ชุดในเสื้อคลุมดำมีวิหกโลกัณฑ์เกาะไหล่อยู่แบล็คไวเซอร์นั่นเองที่กำลังรายงานผลการบุกโจมตีให้กับผู้ที่เป็นหัวหน้าอยู่
“ กองกำลังต่อต้านน่ะรึหึๆๆมันไม่น่าจะเป็นก้างขวางคอชิ้นใหญ่ได้เลยนะหรือว่าเจ้าประมาทพวกมัน “
เจ้านายของแบล็คไวเซอร์พูดเสียงเย็นพร้อนกับหรี่สายตาลงเล็กน้อย
“ ไม่ใช่ครับท่านไม่ใช่พวกมัน “
แบล็คไวเซอร์กลับ
“ แล้วมันเป็นใคร “
เจ้านายของแบล็คไวเซอร์ก็ถามกลับมาเช่นกัน
“ มันเป็นอัศวินมังกรเทพนามทาลูคูสน่ะครับท่าน “
แบล็คไวเซอร์ตอบสีหน้าซีดเซียว
“ เรียกตัว 12 เทพขุนศึกกลับมา “
ชายผู้นนั้นตอบ
“ ต..แต่ท่านครับเรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงมือ 12 เทพขุนศึกหรอกครับท..ท.. “
แบล็คไวเซอร์เงียบไปเมื่อชายผู้นั้นเอากำปั้นกระแทกเข้ากับพนักบัลลังค์
“ ทำไมจะไม่ต้องถึงล่ะยังไงซะเรียกกลับมาให้หมดเราต้องกำจัดก้างขวางคอชิ้นนี้ให้ได้ก่อนที่มันจะตำจนเป็นหนอง “
ชายผู้นั้นกล่าวเสียงเกรี้ยว
“ แต่เราคงถอนกำลังออกจากซาโลมมาหมดเลยคงไม่ได้หรอกครับท่าน12เทพขุนศึกที่เราส่งไปรับมือกับซาโลมที่นำโดยอิสฮานนั้นได้กำลังของเยซีฮานมาช่วยทำให้การบุกยากยิ่งขึ้นหากถอนมาหมดจะไม่สามารถรับมือมันได้นะขอรับ “
แบล็คไวเซอร์กล่าวจบก็มีเสียงกระแทกประตูเข้ามาในห้อง
“ ข้ากลับมาแล้วเรื่องซาโลมน่ะไม่ต้องห่วงไปพวกมันทำอะไรไม่ได้แล้ว “
ร่างของมนุษย์หมาป่าขนสีดำสนิทเดนเข้ามาในห้อง
“ หึๆๆมาจนได้สินะ “
ชายผู้นั้นพูด
“ โปรดไว้ใจข้าได้ข้า 1 ใน12เทพขุนศึกหมาป่าแสงจันทรา( MoonShine WereWolf) shadow moon ( เงาพระจันทร์ ) ผู้นี้จัดการเถิด “
สมิงหมาป่าตัวนั้นพูด



โปรดติดตามตอนต่อไป ;)
จะว่าไปช่วงนี้พิมยาวเหลือเกินจะมีคนอ่านไหมหว่า ???
ตัวอย่างตอนต่อไป
ในตอนหน้าเราจะไปเอ่ยถึงอาณาจักรอื่นๆบ้างว่าได้รับความเสียหายจากการรุกรานของโฮลี่ไนท์แมร์มากน้อยเพียงใดหลังจากสงคราม The Sain จบลงไป12เทพขุนศึกคืออะไรโปรดติดตามในตอนหน้า บทที่ 7 อาณาจักรทั้ง 4
สงครามเริ่มขึ้นแล้ว
« Last Edit: June 13, 2008, 01:23:18 PM by greamon » Logged


Moonshiny Doll
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 2179


« Reply #81 on: February 11, 2006, 01:05:21 PM »

Quote
จะว่าไปช่วงนี้พิมยาวเหลือเกินจะมีคนอ่านไหมหว่า


มี
Logged


-Sparrow-
Member
*****
Offline Offline

Gender: Female
Posts: 380


Email
« Reply #82 on: February 11, 2006, 03:01:01 PM »

อ่านอยู่น่อ แต่ม่ะได้โพส
Logged


Golden Fur Griffin
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 903


« Reply #83 on: February 11, 2006, 08:27:40 PM »

เว้นวรรคมั่งซิครับ กระทู้ยึดยาวมากๆเลยครับ - -"
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #84 on: February 12, 2006, 02:17:19 AM »

วันนี้ขอเลื่อนนะคับใกล้สอบเดี๋ยวสอบเสร็จจะมาต่อให้ยาวเลย
ส่วนเรื่องเว้นวรรคผมจะแก้ให้คับ
อ้ออีกอย่างผมได้สังเกตเห็นความผิดผลาดในนิยายของผมหลายจุดเช่นพิมพ์ผิดเป็นต้นถ้าเช่นนั้นกระผมจะเริ่มแก้ตัวอักษรที่พิมพ์ผิดบางตัวให้หล้งสอบเสร็จนะคับประมาณวันที่20
หากผู้ใดพบข้อผิดผลาดบอกด้วยนะคับผมจะได้แก้ให้ ;)
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #85 on: February 13, 2006, 01:05:04 AM »

บทที่ 7 อาณาจักรทั้ง 4

เมอริเซียหรือจะเรียกว่าทวีปแห่งสงครามก็ว่าได้  ที่ทวีปนี้เกิดสงครามมาหลายครั้งหลายครานับไม่ถ้วน
ที่ทวีป นี้เคยเกิด มหาสงครามที่มี อาณาจักรทั้งส ี่เข้าร่วม สงครามในครั้งนั้นได้มีเทพกับปีศาจยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่ทว่ามหาสงครามนี้ ได้สืบต่อมาตั้งแต่อดีตกาลตั้งแต่ สมัยสงครามเทพกับปีศาจโดยสงครามจบลงตรงที่ว่า
ปีศาจ เป็นฝ่ายปราชัยแต่แท้จริงแล้วพวกมันกำลังจะหาทาง ก่อสงครามขึ้นอีกจนในยุคสมัยของมหาอำนาจแห่งสี่อาณาจักร
ต้นเหตุแห่งสงครามมาจากความโลภของกษัติร์แห่ง อาณาจักร ซาโลม สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งท ี่ปีศาจ ได้เตรียมการไว้เพื่อจะหาทางให้มนุษย์

ทำสัญญา กับตนเพื่อที่จะได้ออกจากมิติแห่งคนบาป ที่เรียกว่านรกและพวกมันก็ทำสำเร็จเทพจึงต้องลงมาแก้ไข
แต่ถึงแม้ เทพ จะลงมา แก้ไขเช่นไรก็ไม่อาจที่จะยับยั้ง พลังปีศาจได้เพราะว่าเหตุที่พวกปีศาจได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้
แต่แรกแล้ว พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด แห่งเทอร่า จึงได้ฝากฝังชะตาแห่งทวีปนี้ไว้กับเด็กน้อยผู้หนึ่ง
ผู้ที่จะนำความหวัง แสงสว่าง ศรัธรา และความรักให้กลับมาเป็นเช่นเดิม เด็กน้อยคนนั้นก็คือลูกของกษัติร์ที่เริ่มก่อสงครามครั้ง
นี้และเขาทำสำเร็จเมื่อเขาสามารถปลดปล่อยผู้ที่มี

แต่ความโกรธเคียดแค้นความโลภซึ่งก็คือ บลาจเซส ผู้ชักจูงให้พ่อของเขาก่อสงครามให้ได้รับอิสระจากพันธนาการแห่งบาป
อันชั่วร้ายและไล่ต้อนจนในที่สุดปีศาจตกเป็นรองแต่พวกปีศาจไม ่ยอมแพ้ง่ายๆ จึงเข้าแทรกแซงผู้เป็นความหวังของพระเจ้าสูงสุด
ทำให้เกิดสงครามที่มนุษย์จะเข่นฆ่ากันเอง และสงครามจะก่อกำเนิดผู้ที่ต้องการอำนาจและปลุกพวกตนอีกครา
ก่อนที่ตนจะถูกไล่กลับไปยังนรกอีกครั้ง และก็เป็นไปตามนั้น แต่สิ่งที่พวกปีศาจไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อผู้เป็นความหวัง

หาได้มีแต่อิสฮานเพียงคนเดียวไม่แต่มีถึงสองเมื่อถึงขั้น วิกริตเธอจึงแสดงตนออกมาเธอคือซิสเตอร์อลาน่า
ผู้เป็นความห;วังสูงสุดแห่งมวลมนุษย์เธอได้สละชีพทำหน้าที่เป็นถ้วยรองรับพระพร จากพระเจ้าสูงสุดจึงทำให้สงครามสงบลง
ทุกอย่างดูเหมือนจะจบด้วยดี แต่ทว่าสงครามที่สงบลง ไปนั้นหาได้สงบจริงไม่เมื่อครั้ง สงครามแห่งปีศาจที่ถูกเรียกว่าสงครามซิน
พวกปีศาจที่ถูกเรียกว่าซิน(บาป)นั้นได้เตรียมพิธีคืนชีพอริของพระผู้เป็นเจ้า มหาเทพปีศาจพิธีที่ถูกขัดขวางทำให้ไม่สามารถคืนชีพสำเร็จ

ได้แต่พวกปีศาจคาดการไว้ก่อนแล้ว จึงส่งเจตจำนงทั้งหมดของตนไว้กับ พิธีเพื่อว่าสักวันหนึ่งผู้ที่จะเป็นร่างจุติของมหาเทพปีศาจ
มาเกิดและเมื่อนั้นเจตจำนงของพวกตนจะออกมาหาร่างอาศัยและสานต่อ พิธีกรรมที่จะปลุกมหาเทพปีศาจ และชื่อของมหาเทพปีศา......

หน้าหนังสือถูกพลิกไปยังหน้าที่เหลือแต่ทุกหน้าถูกฉีกขาดหมด เงาของแม่ชีนางหนึ่งนั่งอยู่ภายในห้องแคบๆที่ไม่มี
หน้าต่างภาย ในห้องมีเพียงแสงสลัวๆจากตะเกียงที่ตั้งอยู่บนโต็ะไม้เก่าๆตัวหนึ่งบนโต็ะมีหนังสือที่ดูเก่าคร่ำเครอะ
มีฝุ่นจับอยู่เต็ม หน้าหนังสือถูกฉีกขาดจนเหลืออยู่สองสามหน้าเท่านั้น

” เฮ้อ วันนี้ก็ไม่ได้อะไรเลย ”
แม่ชีกล่าวลอยๆแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงลุกจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูออกจากห้อง
แสงที่อยู่นอกตัวตึกสาดส่องเข้ามาทำให้ร่างของนางในอาภรสีขาวสลับกับสีน้ำเงิน
หมวกสีน้ำเงินของนางมีป้ายวงกลมที่มีรูปสัญลักษณ์แห่งแสงติดอยู่



นางเดินออกไปตามถนนสองข้างทางที่
เคยมีผู้คนยากไร้มากมายที่อพยพมายังแอนดิซองบัด นี้ทั่วทั้งถนนไม่มีอีกแล้ว
ขณะที่นางเดินผ่านตลาด ก็มีเสียงเรียกลูกค้ามากมายดังอึกทึกผู้คนเดินกันพลุกพล่าน

” เร่เข้ามาทางนี้ถูกๆ ”
เสียงเรียกลูกค้าของพ่อค้าร้านขายผักดังก้องไปทั่ว

” ซาลามันเดอรี่ดอลจากวิหารเซนส์ลอเรนส์จ้า ถูกๆตัวละ 100 เดนาริอันเอง ”

เสียงเรียก ลูกค้าของแม่ค้าร้านของเล่นตะโกนสวนไปมากับเสียงเรียกลูกค้าของร้านอื่นๆ
เมื่อนางเดินผ่านตลาด เสียงก็ค่อยเงียบหายไป
ใบหน้าของนางดูเศร้าศร้อยนางถอนหายใจอีกครั้ง

” ตอนนี้พระองค์ทรงกำลังทำอะไรอยู่นะ ”
นางพึมพำ ขึ้นมาระหว่างแหงนขึ้นมองฟ้า นางจึงสังเกตเห็นเงาสีดำที่ค่อยๆลอยผ่านนางไปทางเมืองนางจ้องมองอยู่นานจนเมื่อ
เงาดำนั้นค่อยๆลดระดับความสูงลงมานางจึงเห็นได้ชัดว่าเป็น
ฝูงแมวดำที่จะคอยกำหนดชะตาของมนุษย์นาม Dark Destiny (ดาร์คเดสทินี่) กำลังหนีอะไรบางอย่างที่กำลังตามล่าพวก
มันมาติดๆ มันเป็นมังกรยักษ์กายสีดำหน้าตาดุดันปีกเหมือนค้างคาวไล่ล่าอยู่

” นั่นมัน มังกรปีศาจบาซินซิลนี่ (Burzinzil, The Evil Dragon)  ”
นางอุทานแล้วจึงรีบเดินกลับไปที่เมืองอีกครั้ง



” ก็าซซซซซซซซซซซซ ”
เสียงคำรามอัน ดังกึกก้องของ มังกรปีศาจบาซินซิล กังวานไปทั่วซากของแมว ดาร์คเดสทินี่ ที่ตายตกเกลื่อนอยู่บนพื้นเมืองที่เคยมีผู้คนคับคั่ง
ของแอนดิซองกลับกลายเป็น ซากเมืองในบัลดลนกส่งสารที่จะไปยังเมือง ท่าแอนดิซองเพื่อขอความช่วยเหลือก็ถูกกลุ่มควันสีดำที่เจ้ามังกรพ่นออก
มาลมควันจนตายตัวแล้วตัวเล่า

” เหมือนกับที่เขียนเอาไว้ในบันทึกเลยหรือว่า เหล่าปีศาจจะเริ่มการแข็งข้อต่อพระเจ้าอีกครั้ง ”
แม่ชีเอ่ยขึ้น เจ้ามังกรหันไปเห็นจึงตรงเข้าจะทำร้าย

” ว้ายยย ”
นางกรีดร้องด้วยความกลัว

” ท่านโรซาน่า ”
เสียงนึงดังขึ้นนางจึงค่อยๆลืมตาจึงเห็นนายทหารสามคนเอา หอกทิ่มแทงเจ้า มังกรจนมันต้องถอยห่าง

” ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ ”
เสียงของซิสเตอร์คนหนึ่งดังขึ้นและเธอก็ส่งมือมาช่วยพยุง โรซาน่าขึ้น

” พวกท่านหนีไปก่อนเถอะไปแจ้งให้ทางเมืองท่าทราบด้วย ”
นายทหราอีกคนตะโกนบอกเมื่อเห็นว่าคงจะต้านไว้ได้อีกไม่นาน เมื่อโรซาน่ายืนขึ้นแล้วทั้งหมดจึงออกวิ่งไปที่ท่าเรือ
นายทหราอีกสามคนที่ต้านเจ้า มังกรไว้ก็ผลักจนเจ้ามังกรล้มหงายไปแล้วจึงวิ่งตามไป

” ก็าซซซซซซซซซซซซซซซซ ”
เจ้ามังกรคำรามก่อนที่จะพ่นควันดำจนทุกคนสำลักควันกันเป็นการ

” แค่กๆๆ อ็าคคค ”
เสียงนายทหราคนนึงในกลุ่มดังขึ้นแล้วร่างของเขาก็ถูกโฉบเอาตัวขึ้น

” หวา ”
เสียงของทหารอีกสามนายดังขึ้นพร้อมกันก่อนร่างจะถูกฉีก กระชากออกเป็นชิ้นๆ

” ว้ายยยยยย ”
ซิสเตอร์ที่มากับทหรากลุ่มเมื่อกี้กรีดร้องด้วยความกลัว เธอเข้าแขนของโรซาน่าไว้แน่นหลับตาปี๋อย่างหวาดกลัว

” ก็าซซซซซซซซซซซ ”
เจ้ามังกรร้องขึ้นทำให้ซิสเตอร์คนนั้นกอดโรซาน่าแน่นขึ้นไปอีก

” ไม่ต้องกลัวจ้ะ พระผู้เป็นเจ้าต้องไม่ทอดทิ้งเราแน่นอนจ้ะเราจะต้องปลอดภัย ”
โรซาน่ากล่าวเพื่อปลอบ ใจซิสเตอร์ที่กลัวจนตัวสั่นอยู่พร้อมกับกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกแต่ในใจของนาง
ก็หวาดกลัวอยู่เช่นกัน

” พระองค์อลาน่าดิฉันจะทำยังไงดีเพคะ ”
เธอภาวนาในใจถึงองค์หญิงที่เธอเคยรับใช้ ก่อนที่เธอจะสละชีวิตหยุดสงครามลงเธอภาวนาแล้วภาวนาเล่า
เสียงแห่งการภาวนาของเธอดังขึ้นไปจนถึงสวรรค์

” ก็าซซซซซซซซซ ”
เสียงของเจ้ามังกรดำดัง ขึ้นพร้อมกับเปลวเพลิงสีดำ พุ่งออกมาหมายจะเผาผลานซิสเตอร์ทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าให้สิ้น
แต่ทว่าก่อนที่เปลวเพลิงจะมาถึงกำแพงน้ำ ก็พุดขึ้นมาจากพื้นดินช่วยป้องกัน เปลวเพลิงอันร้อนระอุไว้และดับสลายซึ่งไฟแห่ง
ความโหดร้าย

” ซิสเตอร์….ซิสเตอร์โรซาน่าจ้ะ ”
มีเสียงดังขึ้นมาในหัวของนาง นางจึงค่อยๆลืมตาขึ้นก็ได้เห็นแสงสว่างเจิดจรัสลอยอยู่ตรงหน้า
กำแพงน้ำ ที่พุดขึ้นมาค่อยๆแตกสลายกลายเป็น น้ำธรรมดาร่างที่ส่องประกายลอยอยู่หน้านางเป็นเด็กน้อยน้ำตาล
มีปีกสีขาวเหมือน ทูตสวรรค์หลับตาอย่างสงบนางจำ เด็กคนนี้ได้ดีเขาคือโฮลี่เด็กช่วยมิสซาที่เป็นอารักขเทวดาของซิสเตอร์อลาน่าอดีตองค์หญิงแห่งเมืองท่าแอนดิซอง



” ฮ..โฮลี่เธอทำไมถึง ”
ซิสเตอร์โรซาน่า พยายามจะพูดออกมาแต่เธอก็หยุดพูดไปเพราะได้มีเสียงดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง

” โฮลี่เขามาช่วยเธอน่ะจ้ะฉันขอให้เค้ามาเอง ”
เสียงดังขึ้นในหัวของซืสเตอร ์อีกครั้งเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

” นั่นพระองค์หรือคะพระองค์อยู่ที่ไหนบอกดิฉันด้วยสิเพคะ ”
ซิสเตอร์ถามไปโดยไม่รู้ตัวในใจของเธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ที่เคยสัมผัสมาก่อน

” เราอยู่กับมาซิสเตอร์ตลอยเลยจ้ะ ”
เสียงนั้นตอบ

” พระองค์ทรงอยู่กับดิฉันมาตลอดเลยรึเพคะ ”
ขณะที่ซิสเตอร์กล่าวน้ำตาของเธอก็ไหลอาบแก้มของนาง แต่หาใช่น้ำตาแห่งความเสียใจไม่แต่เป็นน้ำตาแห่งความตื้นตัน

” ก็าซซซซซซซซซ ”
เสียงของเจ้ามังกรดังขึ้นทำให้การสนทนาต้องหยุดกลางคัน ตาของโฮลี่ค่อยๆลืมขึ้นแววตาสีดำค่อยเปล่งแสงออกมาจนเป็นสีทอง
และทันใดนั้นก็ เกิดแสงส่วางสาดส่องไปจนทั่วก่อนจะจางลงไปพร้อมกับเจ้ามังกรที่ค่อยๆสลายกลายเป็นควันสีดำไปจน
หมด

เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้าของแอนดิซองมีร่างของชายผู้หนึ่งลอยอยู่ข้างๆไหล่ของเขามีวิหกโลกัณฑ์เกาะอยู่ตาทั้งสี่ของมันจ้องมองลง
ไปยังเบื้องล่างแบล็คไวเซอร์กำคฑาในมือไว้แน่นปากขบกรามด้วยความ เกรี้ยวกราด

” ชิ พลาดอีกแล้วแต่ก็เอาเถอะได้ตัวดาร์คเดสทินี่ตัวนี้มาก็เกินพอแล้ว ”
แบล็คไวเซอร ์กล่าวเสียงเรียบก่อนจะค่อยๆบินหายลับไปกับกรงที่มี แมวดาร์คเดสทินี่สีขาวอยู่ตัวหนึ่ง


โปรดติดตามตอนต่อไป ;)
หวัดดีก้าบเป็นไงมั่งคับนิยายวันนี้อ่านแล้วซาบซึ้ง บ้างมั้ยคับผมเขียนไปร้องไห้ไปเลยล่ะ ส่วนไอ้ตอนขึ้นต้นเรื่องนั้น
เป็นหนังสือพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคตของคนๆหนึ่ง
เดี๋ยวก็รู้ว่าเป็นใครติดตามได้ในนิยายของผมนะแล้วก็อีกเรื่องมี
ข่าวดีตอนพิเศษอีกแล้วคับคราวนี้มีสองตอน
จริงๆคับรับรองไม่ยืดเหมือนตอนเอเลี่ยนแน่มาประมาณวันที่ 17 นี้แหล่ะ
อ้อเกือบลืมเพลงที่ผมเอาให้โหลดคราวก่อนผิดอันอันนี้มันมีแต่ทำนองเอาอันนี้ไปละกันคับ
http://www2.se-ed.net/dangunkun/Break%20Up!.mp3
ส่วนตอนพิเศานั้นอาจจะมาช้ากว่าที่ควรจะมาเพราะมันเป็นตอนพิเศษของวันวาเลนไทแต่เราสอบช่วงนี้พอดีก็เลยต้องเลื่อนเอา
ชื่อตอนคือ ช็อกโกแลตมังกร วาเลนไทร์แห่งรักครั้งแรกของ ลอเลนส์ ติดตามกันให้ได้นะคับ

ตัวอย่างตอนต่อไป
ในตอนหน้าเราจะไปดูกันต่อที่อาณาจักรฟูดินันมังกรเทพพิทักษ์ไพทอนแห่งเขาคีรีบันดาเกิดคลุ้มคลั่งทำให้เกิด
ความโกลาหลไปทั่ว
ติดตามได้ในตอนหน้า บทที่ 8 อาณาจักรทั้ง 4 Vol. 2


« Last Edit: June 13, 2008, 01:26:02 PM by greamon » Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #86 on: February 17, 2006, 10:22:40 PM »

"หวัดดีทุกๆคนค้าบวันนี้ตอนพิเศาใช่มั้ยงั้นวันนี้ขอข้ามไปวัน.. :-X ว้าก "
" ไปเลยไปไอ้เจ้าการูรูม่อนตัวแสบหนอยมาป่วนงานฉันป่นปี้หมด ยามาโตะหาตัวอยู่ไม่ใช่เรอะ "
แล้วการูรูม่อนก็จากไป เกรม่อนจึงได้ที่คืน
แหะๆขอโทษนะคับเมื่อกี้เจ้าการูรูม่อนมันมาป่วน(คอยดูเถอะสักวันต้องดีลีทมมันให้ได้)
นี่ถ้าไทจิไม่ห้ามไว้ป่านนี้ก็โดนอัดเดี้ยงสลายกลายเป็นข้อมูลไปแล้ว(ไม่เขาก็ตูล่ะฟะก็ระดับเท่ากันนิ)
เอาล่ะนอกเรื่องพอลเดิ๋ยวกระทู้ยืดอย่างที่เคยบอกไปว่าตอนพิเศษมาวันนี้แต่ก็อย่างที่ทุกได้ยินการวิวาทเมื่อวันนี้ต้องเลื่อนจิงเพราะโดนมันลบที่เขียนไว้ใน word หมดเลย :'( ฮือๆๆน้ำตาไหลเลย
เนื้อเรื่องต่อตอนก็น่าจะโพสได้แต่โดนลบเหมือนกันอ่ะฮืองั้นวันนี้ดูดิจิม่อนฆ่ากันไปก่อนนะคับ
ส่วนตอนวันนี้เลื่อนเป็นพรุ่งนี้ตอนพิเศษจะบอกอีกที
" ฮึ่ยแกตายยยยยไอ้หมาบ้าย้ากเมก้าเฟรม "
ลูกไฟถูปล่อยออกไปเผาหางดิจม่อนสุนัขป่านามการูรูม่อน
" เอ๋งๆหนอยไม่ได้แล้วย้าก "
การูรูม่อนโต้กลับ
" นี่แน่ะๆๆๆย้ากก อะจ้าก อะโจ้ อะเจี้ยก "
แล้วทั้งสองก็ฟัดกันเอาเป็นเอาตายไทจิกับยามาโตะกลับมาพอดีจึงพูดว่า
" วันนี้แค่นี้ก่อนนะคับ "
แล้วทั้งสองก็เข้าไปผสมโรงด้วย

จบดีก่า :P

Logged


amankis
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 261


Email
« Reply #87 on: February 18, 2006, 05:05:24 PM »

moonshine  werewolf  ภาษาไทยนะมัน หมาป่าแสงจันทร์ ไม่ใช่เหรอ
แล้วเกรย์มอนนะมัน greymon
Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #88 on: February 19, 2006, 02:20:46 AM »

เฮ้อเดี๋ยวนี้ชักจะอู้บ่อยแล้วแฮะอะไรมันจะซวยขนาดนี้เมื่อวานนิยายที่ต้องเอามาลงก็โดนเจ้าการูรูม่อนมันลบจนเกลี้ยงเลย
เฮ้อออ แถมตอนพิมพ์ตอนพิเศษทาลิฯปะทะเอเลี่ยนมือ
ไปโดนปุ่มย้อนกลับแล้วไม่ได้ทำในเวิดร์ก่อนเลยต้องพิมพ์ใหม่อีก
นิยายเรื่องนี้มันมีอุปสรรคเยอะเหลือเกินเลิกพิมพ์มันซะเลยดีไหม
เนี่ย แหมล้อเล่นคับล้อเล่นผมไม่ยอมง่ายๆหรอกคับ
เข้าเรื่องดีก่านอกเรื่องพอละ
เอาล่ะต้องขอบคุณผู้ที่บอกข้อผิดพลาดของนิยายให้ด้วยนะครับที่ช่วยบอกว่าผมแปลความหมายผิด
เพราะ moonshine werewolf น่ะมันแปลว่ามนุษย์หมาป่าแสงจันทร์
ไม่ใช่วิหารจันทราเพราะผมสะกดผิดไปเลยกลายเป็นว่าเข้าใจคำว่า shine เป็น shirne ที่แปลว่า
วิหารแทนแล้วผมจะแก้ไขให้คับเนี่ยถ้าทุกคนช่วยกันนิยายจะได้มีข้อบกพร่องน้อยลง
ส่วนคำว่าเกรย์ม่อนอะนะอย่าไปคิดมากคับเพราะนี่ซัมมอนเนอร์นะคับไม่ใช่ดิจิม่อน
(จะว่าไปนิยายเรื่องนี้ยิ่งเขียนยิ่งเหมือนดิจดม่อนเข้าไปทุกทีๆแล้วนะเนี่ยที่จริงกะอิงนิดเดียวนะ)อะมาว่ากันต่อเรื่องตอนพิเศษ
นะคับมาวันพุทธที่จะถึงเนี้ยแหล่ะเพราะฉะนั้นวันจันทร์ที่บอกจะลง งดนะคับเพราะจะพิมพ์ตอนพิเศษส่วนนิยายอีกเรื่อง duel legend นั้นจะเปลี่ยนวันอัพเดทเป็นจากวันพุทเป็นวันพฤหัสนะคับเพราะถ้าไม่ทำงี้มันจะชนกับทาลิๆพอดี
เอาล่ะคุยมาพอแล้วไปชมนิยายกันดีกว่าวันนี้ไปดูกันที่ฟูดินันนะคับ

บทที่ 8 อาณาจักรทั้ง 4 Vol. 2
 จากเมืองแห่งการค้าขายอันยิ่งใหญ่กลางมหาสมุทรอย่างแอนดิซอง ย้ายขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ลึกเข้าไปในป่าทมิฬเหล่าสัตว์น้อยใหญ่แห่งพงไพรต่างก็แตกตื่นไปกันหมด
 หนูดิน (geo rat) ตัวเล็กๆ หลายฝูงต่างพากัน
อพยพออกจากรังใต้ดินกันยกใหญ่ ถัดจากฝูงหนูดิน ฝูงสัตว์ประหลาดสีขาว
นาม ชินชิน (shinshin) ที่พึ่งจะอพยพตามมา
ก็ไล่เหยียบไล่บี้พวกหนูดินที่หนีไม่ทันจนตายคาพื้นดิน ชินชินที่บินไปเกาะต้นไม้ต้นนู้นทีต้นนี้ทีบางตัวที่บินช้า
ก็ถูกเงาของสิ่งมีชีวิตบางอย่างพุ่งเข้าโจมตีจนร่วงหล่นหมดทันใดนั้นร่างสีม่วงขนแผงคอสีขาวยาวรุงรัง

เปล่งประกายรัศมีอันน่าเกรงขามขามดังพญาราชสีห์ ซึ่งเดินสวนทางกับเหล่าสัตว์ที่ต่าง
ตื่นตระหนกหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศ
 ร่างนั้นคือจิตวิญญาณแห่งผืนดินราชสีห์แห่งพงไพรนาม แอนโกริอ้อน(Angorion, the Earth Spirit)
” โฮกกกกกกกกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามอันดังก้องสร้างความหวั่นเกรงให้แก่ฝูงสัตว์จนถึงกับหยุดหันไปมอง
เงาดำเมื่อครู่ที่ไล่ล่าเหล่าสัตว์เมื่อกี้ บัดนี้ได้มาประจันทร์หน้ากับแอนโกริอ้อนแล้ว
แอนโกริอ้อน เองก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจซักเท่าไหร่ที่ถิ่นของตนถูกบุกรุกจึงแสดงความเป็นเจ้าด้วนการคำรามอีกครั้ง

เสียงคำรามดังไปถึงเขตเผ่าฟูดินัน ลานหน้าบ้านของครอบครัวบันดารา ชาวบ้านต่างพากันมารุมล้อมพูดคุยถึง
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าและเสียงของทุกคนก็เงียบลงทันทีที่ ฮาริซัน (Harison, the ciff of fudenun)
ผู้นำเผ่าฟูดินันเดินลงมาจากบ้าน
” ท่านฮาริซันเสียงคำรามกับฝูงสัตว์ที่พึ่งอพยพไปตั้งแต่เช้าน่ะเกิดจากสาเหตุใดหรือ ”
ชาวบ้านคนหนึ่งถามขึ้น
” จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่กับฟูดินันอีกรึเปล่า ”
หญิงอีกคนพูดขึ้นหลังจากนั้นก็มีเสียงถกเถียงกันไปต่างๆนานาจนเมื่อมีเสียงเคาะไม้เท้าดังขึ้นทุกคนจึงเงียบลง
ผู้เฒ่าวูจิน (Woojin, the Elder of fudenun) จึงเดินลงจากบันไดพร้อมกับฮาริซันที่เดินไปช่วยพยุง
” เอาล่ะๆทุกๆคนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้าเองก็ไม่อาจจะอธิบายได้แต่เสียงคำรามที่ดังมาจากป่านั้นข้าพอจะรู้ ”
วูจินกล่าวจบก็มีเสียงชาวบ้านหลายคนถามกลับมาเป็นเสียงเดียวกัน
” แล้วมันคืออะไรล่ะท่านผู้เฒ่า ”
ชาวบ้านถามจบวูจินก็หลับตาลงเหมือนจะคิดหาคำพูดที่ไม่ทำให้ชาวบ้านตืนตระหนกเพราะเสียงคำรามนั่น
เป็นเสียงคำรามที่เตือนถึงภัยอันตราย
” เสียงคำรามนั่นเป็นของเทพแอนโกลิอ้อนที่กำลังต่อสู้กับศัตรูจากนอกอาณาจักร ”
วูจินพูดจบก็มีเสียงพูดกันดังเซ่งแซ่ไปหมด
” เทพแอนโกลิอ้อนเหรอเทพที่จะปรากฏตัวออกมาเมื่อมีภัยพิบัตน่ะเหรอ ”
” สงสัยคราวนี้คงจะเกิดสงครามอีกแน่ๆเลย ”
เสียงพูดคุยดังขึ้นเรื่อยๆแต่แล้วเสียงก็เงียบไป
” ก็าซซซซซซซซซซซซ ”
มีเสียงร้องคำรามดังมาจากภูเขาคีรีบันดาที่ยังคงหลงเหลืออยู่แม้ตอนที่เต่าบินยกตัวออกไป เสียงคำรามดังอยู่
นานซักพักก็มีเสียงดินถล่ม ชาวบ้านต่างเงียบกันหมดเอาแต่จ้องเหตุการณ์ณ์อันไม่น่าเชื่อที่กำลังจะเกิด
ขึ้นเมื่อภูเขาคีรีบันดาเกิดถล่มลงมาตรงส่วนที่ถล่มมีเทพพิทักษ์แห่งคีรีบันดามังกรยักษ์ไพทอน (Python, Kerebanda’s Guardian) ตกลงมาด้วยเช่นกัน
” ก็าซซซซซซซซซซซซ ”
เสียงคำรามของไพทอนดังขึ้นทันทีที่มันลุกขึ้นก็มีคลื่นพลังสีดำกระแทกจนไพทอนปลิวไปใกล้
เขตมหาพฤกษาอิกดราซิล(Yggdrasil) บริเวณที่ภูเขาถล่มมีร่างของใครบางคนลอยอยู่
” นั่นอะไรน่ะ ”
ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนแล้วชี้ไปยังทิศนั้นทุกคนก็หันไปดูเช่นกัน

” เฮอะที่ข้าเบื่อที่สุดก็คือฟูดินันนี่แหละไอ้เจ้ามังกรยักษ์ตัวนี้สงสัยต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ ”
ร่างที่ลอยอยู่พูดขึ้นพร้อมกับเริ่มวาดมือร่ายเวทย์สักพักคลื่นเวทย์ที่เขาร่ายอยู่ก็รวมตัวอัดแน่นอยู่ในมือของเขา
และกลายเป็นวัตถุทรงกลมสีดำ
” ต้องใช้ ซีลบอล (Seal ball) จัดการควบคุมมัน เฮลลิก แกพร้อมนะ ”
ชายคนนั้นพูดจบก็มีกลุ่มสีดำพวยพุ่งออกมาจากข้างหลังและกลายเป็นวิหกโลกัณฑ์มาเกาะที่ไหล่ของเขา
ชายคนนั้นลอยไปข้างหน้าจนร่างกระทบกับแสงจนเห็นร่างในชุดสีดำของเขาได้ชัดแบล็คไวเซอร์จึงจัดแจงถอนขน
วิหกคู่ใจออกมาเส้นนึงแล้วเสียบมันเข้าไปในวัตถุสีดำนั้นแล้วข้าวออกไปใส่ไพทอน
” จงออกมาสัตว์อสูร โพเนเรีย (Poneria) ”
แบล็คไวเซอร์ตะโกนแล้วลูกบอกก็แตกออกควันสีดำพวยพุ่งออกมาพร้อมกับเงาดำพุ่งออกตรงไปยังไพทอนแล้วไปเกาะตรง
ข้อระหว่างหัวทั้งสองร่างของเงานั้นเป็นผู้หญิงผิวขาวนวลสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นชวนให้เย้า ยวนเธอมีปีกค้างคาวสีดำติดอยู่ที่หลัง
ผมของเธอเป็นสีม่วงยาวสลวย
” ควบคุมมันซะ ”
แบล็คไวเซอร์สั่งจบเธอก็เอามือแตะคอทั้งสองของไพทอนที่ยังคงนอนสลบอยู่จากนั้นเธอก็แทรกซึมเข้าไปในตัวไพทอน
” ลุกขึ้นมา ”
แบล็คไวเซอร์สั่ง ทันใดนั้นไพทอนก็ลืมตาขึ้นมาตาของมันเปลี่ยนไปเป็นสีแดงมันค่อยๆลุกขึ้นมา
” เอาล่ะปัญหาของที่นี่คือเทพกับกองทัพครุฑแต่ศูนย์กลางก็คือต้นไม้นั่นทำลายมันซะ ”
แบล็คไวเซอร์กล่าวจบไพทอนก็ตรงเข้าไปหมายจะโค่นมหาพฤกษา

” โอไม่นะเทพผู้พิทักษ์แห่งคีรีบันดากำลังจะทำลายมหาพฤกษาหรือนี่ ”
วูจินพูดขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง
” โฮกกกกกกกกก ”
เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดดังมาจากด้านหลังชาวบ้านทุกคนทุกคนจึงหันไปดูก็ต้องประหลาดใจอีกเป็นครั้งที่สอง
เมื่อเทพแอนโกลิอ้อนได้มาล้มลงอยู่ตรงหน้าพวกตน ตามตัวมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง
” ท..เทพแอนโกลิอ้อน ”
ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น ต่อมาก็มีเสียงม้าควบมาทางนี้เพร้อมกับการปรากฏตัวของเหล่าเซนทอร์เรนเจอร์
” ท่านฮาริซันมันเกิดอะไรขึ้น ”
ทราเฮินร์นายพลทัพเซนทอร์ถามขึ้นทันทีที่มาถึง
” เอ่อข้าเองก็ ”
ฮาริซํนพูดยังไม่ทันขาดคำก็มีเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดที่มีขนสีขาวปรอดทั้งตัว
” ฮาริซันมันเกิดอะไรขึ้น ”
ดามิก้าซึ่งขี่สัตว์ประหลาดที่คำรามเมื่อครู่ถามทันทีที่ลงจากสัตว์ตัวนั้นพร้อมกับเผ่าทมิฬ
” นี่มันเกิดอาเพทอะไรขึ้น ”
เสียงตะโกนที่ปนมากับเสียงคำรามดังมาแต่ไกลปรากฏร่างของสมิงสิงโตคาร์นพร้อมกับการมาของเผ่าสมิง
จากนั้นเผ่าอื่นๆก็ตามมาเรื่อยๆ

” ก็าซซซซซซซซซซซซซ ”
เสียงคำรามของมังกรยักษ์ไพทอนดังขึ้นอีกครั้งทุกคนจึงหันไปมองยังต้นเสียง ไพทอนได้เข้าไปใกล้มหาพฤกษาและเริ่มกระแทก
มหาพกฤษาอย่างแรงเมื่อไพทอนจะกระแทกอีกครั้งก็มีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นที่มหาพฤกษา
” ก็าซซซซซซซซซซซซซ ”
เสียงคำรามอีกเสียงดังมาจากด้านหลังมหาพฤกษาพร้อมกับการปรากฏร่างของมังกรเทพพิทักษ์มหาพฤกษา มารัค (Marag, Yggdrasill’s Guardian)
ร่างของมารัคที่ยังคงมีรากของมหาพกฤษาพันอยู่ แต่แล้วรากนั้นก็คลายตัวออกเหมือนมีชีวิต มังกรทั้งสองจึงเข้าปะทะกัน
ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเหล่าครุฑที่อาศัยอยู่บนมหาพฤกษาซึ่งถูกรบกวนจากแรงสั่นสะเทือนที่มารัคหลุดออกมาจากผนึก
ก็เริ่มลงมาโจมตีไพทอนเช่นกันแต่แบล็คไวเซอร์เตรียมการไว้พร้อมแล้ว
” เอาล่ะพวกเจ้าออกมาได้ ”
สิ้นเสียงแบล็คไวเซอร์เงาดำที่โจมตีแอนโกลิอ้อนและศัตว์ในป่าก็ออกมาแล้วเข้าต่อกรกับเหล่าครุฑอีเกิลการูด้า
ร่างของเงาดำนั้นมีลักษณเหมือนม้าแต่มีปีกกายสีดำตาแดงก่ำเหมือนเลือดมันคือม้าปีกาซัสแห่งฝันร้าย
(Nightmare Pegasus) ก็เข้าต่อกรกับครุฑทั้งหลายจนเกลการูด้าและพญาเกลการูด้าเองต้องลงมาจัดการด้วยแต่ก็ไม่สู้
พลังของม้าบินเหล่านี้ได้
เหล่าครุฑต่างถูกเตะร่วงหล่นลงมาตัวแล้วตัวเล่าจนต้องถอยล่น

” ฮ่าๆ เมื่อจัดการเจ้าครุฑกับมังกรเจ้าปัญหาสองตัวนั้นได้ทุกอย่างก็เสร็จ ”
แบล็คไวเซอร์หัวเราะด้วยความสะใจแล้วก็เริ่มร่ายเวทย์อีกครั้งและแล้วเพลิงเวทย์ก็ถูกปล่อยลงสู่ผืนป่า
เพียงพริบตาเดียวป่าก็กลายเป็นทะเลเพลิงแต่ก็ไม่มีสัตว์ตายไม่เพราะพวกมันต่างก็อพยพไปจนหมดสิ้น
มังกรเทพพิทักษ์ก็ยังคงปะทะกันอยู่เหล่าครุฑที่ยังจัดการกับม้าบินฝันร้ายไม่ได้ก็เริ่มต้องขอกำลังเสริม
ฟูดินันกลายเป็นสนามรบระหว่างเทพกับปีศาจไปแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป
 ;)
เป็นไงคับวันนี้มันไหมคับทั้งครุฑทั้งมังกรสู้กันจ้าละหวั่นแต่สงสัยยาวไปนิดก็อ่านๆแล้วโพสวิจารณ์บ้างก็ได้นะคับ

ตัวอย่างตอนต่อไป

ฟูดินันได้เกิดความวุ่นวายไปทั่วชาวฟูดินันก็ทำได้เพียงแค่ยืนดูเท่านั้นเมื่อเทพพิทักษ์ต้องมาปะทะกันเองนักรบครุฑ
เพลี่ยงพล้ำจากการรุกรานของแบล็คไวเซอร์ ป่าที่ถูกเผานั้น เทพีอันดีนเองก็พยายามจะขึ้นมาช่วยด้วยการเสกฝนทิพย์แต่
มหาพฤกษามีพลังไม่มากพอจึงทำอะไรไม่ได้ เมื่อแบล็คไวเซอร์คิดว่าตนชนะเทพทุกองค์ของฟูดินันได้แต่แล้วเผ่าแห่ง
ตำนานเผ่าหนึ่งที่หลับใหลมานานในฟูดินันจะมาแก้ไขความวุ่นวายนี้พวกเขาคือใครติดตามได้ในตอนหน้า
บทที่ 9  อาณาจักรทั้ง 4 Vol. 3 ติดตามกันให้ได้นะคับ สงครามเริ่มแล้ว

Logged


greamon
Member
*****
Offline Offline

Gender: Male
Posts: 534


Email
« Reply #89 on: February 27, 2006, 09:13:16 PM »


 พื้นที่ลงตอนพิเศษถูกเก็บไปรวมไว้ที่เดียวแล้วเพื่อความสะดวก
« Last Edit: September 14, 2008, 06:18:56 PM by greamon » Logged


Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 10  All
  Print  
 
Jump to:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
Page created in 0.144 seconds with 21 queries.